สังคมกดดันหนัก! วัยรุ่นจีนตั้งคำถาม แต่งงานทั้งที่ไร้ความรัก เพื่ออะไร?
สังคมกดดันหนัก! วัยรุ่นจีนตั้งคำถาม แต่งงานทั้งที่ไร้ความรัก เพื่ออะไร?
ที่หน่วยงานจดทะเบียนสมรสแห่งหนึ่งในปักกิ่ง ซุนเซียงซู และ ชือฉือ ถือเอกสารการสมรสในมือ ทั้งคู่เพิ่งเป็นสามีภรรยากันอย่างเป็นทางการหลังจากมาจดทะเบียน แน่นอนว่าต่อมาอีกไม่นานทั้งคู่ก็ได้ลงนามในใบหย่า เหมือนชาวจีนคู่อื่นๆอีกหลายคู่ที่ถูกบังคับแต่งงาน
ที่จริงแล้วการจดทะเบียนของพวกเขาในครั้งนี้ถือเป็นการ “แสดงออก” อย่างหนึ่ง จากรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ ซุนและชือถือเป็นคนแปลกหน้าซึ่งกันและกัน และการแสดงออกของพวกเขาครั้งนี้ก็ทำขึ้นเพื่อให้วัยรุ่นชาวจีนออกมาแสดงความเห็นว่า ความหมายของการแต่งงานในทุกวันนี้มันคืออะไรกันแน่?
“คนรู้จักรอบๆตัวผมหลายคนถูกบังคับคลุมถุงชน บางคนก็แต่งงานเพื่อขอแค่ให้ได้แต่ง การแต่งงานต้องแบกรวมภาระต่างๆที่ไม่เกี่ยวข้องไว้มากมายเช่น เพศ ทรัพย์สมบัติ“ เขากล่าว
รายงานข่าวกล่าวว่า ในประเทศจีน การแต่งงานนับเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องตัดสินใจกันทั้งครอบครัว ในวัฒนธรรมโบราณของจีน พ่อแม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจเลือกคู่ครองของบุตร
ระบบสวัสดิการสังคมที่ไม่มั่นคงบวกกับความคิดของขงจื๊อคาดหวังว่าเด็กรุ่นลูกจะต้องดูแลพ่อแม่ที่แก่ชราได้ เมื่อคนวัยหนุ่มสาวแต่งงานกันภายใต้แรงกดดันและได้ให้กำเนิดบุตรนั้น ปัญหาด้านทรัพย์สินและเงินมักสำคัญมากกว่าความเหมาะสมกันของคู่สามีภรรยา
คนวัยหนุ่มสาวของจีนที่ตัดสินใจจะไม่เดินตามแนวทางคลุมถุงชนพบว่าตัวเองกำลังต่อสู้กับค่านิยมที่สังคมถูกฝังไว้ และเนื่องจากความขัดแย้งระหว่างค่านิยมแบบเก่ากับการต้องการความเป็นอัตลักษณ์ของตนเองของคนในยุคปัจจุบันที่เพิ่มมากขึ้น อัตราการหย่าร้างของชาวจีนก็พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆด้วยเช่นกัน
ตั้งแต่ปี 2011 ถึง 2014 จำนวนคู่สามีภรรยาชาวจีนที่หย่าร้างกันเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 27 มีหลายคนในจำนวนนี้ให้เหตุผลว่าไม่สามารถประคับประคองชีวิตการแต่งงานที่มีแต่เปลือกที่ดูดีแต่ข้างในปราศจากความรักได้
ชือสือได้หย่าร้างกับภรรยาหลังจากแต่งงานได้ 8 ปี เพราะเพิ่งเข้าใจว่าภรรยาแต่งงานกับเขาเพราะสิ่งที่เขาหามาให้เธอได้แต่ไม่ใช่ความรัก เขากล่าวว่า “มันแย่ต่อเราทั้งสองคน คนเราต้องการความรักและการชื่นชมจากคนรัก ที่จะช่วยมาเติมเต็มชีวิตให้กับเรา” พร้อมบอกว่าตอนนี้ยังไม่คิดจะแต่งงานใหม่ และจะแต่งอีกทีก็ต่อเมื่อคนสองคนมีความรักให้กันจริงๆ