เชียงใหม่ขุดลอกคูเมืองเตรียมผันน้ำเข้ารับสงกรานต์
เจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงใหม่ นำรถแบคโฮ มาทำการขุดลอกตักตะกอนดินบริเวณคูเมือง ด้านแจ่งหัวลิน ที่มีตะกอนดินจำนวนมากและส่งกลิ่นเน่าเหม็น ซึ่งจะใช้เวลาการขุดลอกประมาณ 3 วัน จากนั้นจะทำการผันน้ำเข้าคูเมือง แล้วปรับปรุงคุณภาพน้้ำให้สะอาด เพื่อรองรับเทศกาลสงกรานต์ปีนี้
ชลประทานเชียงใหม่เตรียมส่งน้ำเข้าช่วยเติมเต็มในคูเมืองเพื่อใช้เล่นสงกรานต์อีก 3 หมื่นลูกบาศก์เมตร หลังจากสัปดาห์ก่อนส่งเข้ามาเติมจนเต็มเกือบครบทุกด้านแล้ว ยืนยันแม้แล้งแต่มีน้ำเพียงพอให้เล่นสงกรานต์ได้แน่นอน ขณะที่ทางเทศบาลนครเชียงใหม่เร่งทำการขุดลอกตะกอนดินออกจากคูเมืองเพื่อรองรับน้ำที่จะถูกส่งเข้ามาและทำการบำบัดให้มีคุณภาพ
เจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงใหม่ พร้อมเครื่องจักรเร่งทำการขุดลอดตะกอนดินโคลนที่ทับถมออกจากคูเมืองเชียงใหม่ บริเวณแจ่งหัวลิน ในตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะรองรับน้ำที่ทางโครงการชลประทานเชียงใหม่จะผันจากคลองชลประทานแม่แตงเข้ามาช่วยเติมเต็มในคูเมืองเพื่อใช้สำหรับการเล่นน้ำสงกรานต์ในช่วงงานประเพณีสงกรานต์จังหวัดเชียงใหม่ที่กำลังจะมาถึง
โดยในช่วงสัปดาห์ที่แล้วได้มีการผันน้ำเข้าเติมในคูเมืองเชียงใหม่จนเต็มเกือบครบทุกด้านแล้ว เหลือเพียงบริเวณแจ่งหัวลินเท่านั้นที่รอทำการขุดลอกตะกอนดินออกไปก่อนที่จะผันน้ำเข้ามาเติม หลังจากนั้นก็จะมีการบำบัดปรับปรุงสภาพน้ำให้มีคุณภาพดีพอสำหรับการใช้เล่นสงกรานต์
ทั้งนี้ นายเจนศักดิ์ ลิมปิติ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการประชุมหารือร่วมกันกับทางจังหวัดเชียงใหม่และเทศบาลนครเชียงใหม่ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ข้อสรุปร่วมกันว่าในวันที่ 27 มี.ค. 59 ทางชลประทานจะทำการส่งน้ำจากคลองชลประทานแม่แตงเข้าสู่คูเมืองเชียงใหม่ เพื่อเติมเต็มในส่วนที่ยังขาด เบื้องต้นคาดว่าประมาณ 30,000 ลูกบาศก์เมตร หลังจากที่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการส่งน้ำเข้ามาเติมจนเต็มเกือบครบทุกด้านแล้ว
หลังจากส่งน้ำเข้ามาให้แล้วทางเทศบาลนครเชียงใหม่จะต้องรับผิดชอบดูแลดำเนินการบำบัดปรับปรุงคุณภาพน้ำให้สามารถเล่นสงกรานต์ได้ต่อไป และหลังจากนั้นจะมีการส่งน้ำเข้ามาเติมให้อีกในช่วงระหว่างวันที่ 13-16 เม.ย. 59 ที่ครบรอบเวรการใช้น้ำของเขตเมือง แต่จะเติมเฉพาะส่วนที่ขาดเท่านั้น โดยยืนยันว่าแม้จะมีสถานการณ์ภัยแล้ง แต่เชียงใหม่มีน้ำพอสำหรับการเล่นสงกรานต์แน่นอน อย่างไรก็ตามยังคงมีความจำเป็นต้องใช้น้ำกันอย่างประหยัดรู้คุณค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป