โฉมหน้า 2 ศพ ถูกไฟคลอก “ เบนซ์ชนฟอร์ด”
เผยโฉมหน้า 2 ศพ ถูกไฟคลอก “ เบนซ์ชนฟอร์ด” ขนลุก เมื่ออ่านประวัติ ของทั้งคู่
สืบเนื่องจากวันที่ 13 มี.ค. 2559 กรณีรถยนต์เบนซ์ชนฟอร์ดเฟียสต้า จนไฟลุกท่วมทั้งคัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ทราบชื่อ นายกฤษณะ ถาวร(โต้ง) อายุ 32 ปี กับ น.ส.ธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย(เบนซ์) ซึ่งทั้งคู่เป็นนิสิตปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย
กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2559 ทางมหาวิทยาลัย ได้ร่วมกันไว้อาลัยทั้ง2 หลังประสบอุบัติเหตุ ขณะเดินทางเข้ามาส่งเอกสารเพื่อขอจบการศึกษาด้านนายกฤษณะ ถาวรสอบป้องกันวิทยานิพนธ์เป็นที่เรียบร้อยแล้วจะเข้ารับปริญญาบัตรในวันที่ 15 พ.ค.นี้ ด้าน น.ส.ธันฐภัทร์ เดินทางมามหาวิทยาลัยครั้งนี้เพื่อเตรียมการไปแสวงบุญที่ประเทศอินเดีย ในระหว่างวันที่ 19-29 มี.ค.นี้
“โครงการหลักสูตรฯ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งมายังครอบครัวกฤษณะ และครอบครัวฮ้อแสงชัย ที่ประสบความสูญเสียบุตรหลานอันเป็นที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ พวกเราชาวครอบครัวสันติศึกษาจะระลึกถึงมิตรภาพ และคุณงามความดีที่พวกเราได้เคยสร้างสันติบารมีร่วมกันตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา และขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และบุญราศีสันติบารมีที่นายกฤษณะ และน.ส.ธันฐภัทร์ ได้บำเพ็ญให้เป็นไปตั้งแต่ต้นมาจนถึงวันนี้ ขอได้โปรดเป็นพลวปัจจัยนำดวงวิญญาณไปสู่สุคติในสัมปรายภพตลอดกาลนิรันดร์ฯ
ขณะที่เฟซบุ๊ก “ปิติ เก้าสิบเก้า” ได้โพสต์ถึงโต้ง 1 ในผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นคนขับรถปอร์ดเฟียสต้า ว่า “โต้งเป็นนักศึกษาชั้นปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยม.จ.ล…..เมื่อวานนี้เค้าไปม.จ.ล.เพื่อส่งงานแก้ไข และเย็บเล่มวิทยานิพนธ์ที่เค้าเฝ้าเพียรพยายามทำให้จบมาเป็นเวลาหลายเดือน……เค้าเฝ้ารอวันที่จะได้ให้พ่อแม่น้องสาวและญาติสนิททุกๆคนได้มาร่วมแสดงความยินดีกับเค้าในงานวันรับปริญญา……แต่โต้งไม่สามารถอยู่ได้ถึงวันนั้น
เวลาประมาณ 11.30 นาฬิกาของวันที่ 13 มีนาคม 2559 เวลาบนโลกนี้ของโต้งหมดลงแล้ว โต้งจากโลกนี้ไปวันที่ 13 วันเดียวกับวันที่ 13 ที่เค้าเกิดมา ในวันที่ 14 มีนาคมนี้เองคือวันเกิดของแม่ของโต้ง ทุกปีจะมีคำอวยพรและของขวัญหยิบยื่นให้กันภายในครอบครัวนี้ต่อเนื่องกันมาเป็นเวลา 32 ปี แต่ปีนี้แม่ของเค้าต้องเดินทางมาจากต่างจังหวัด เพื่อรับร่างที่เหลืออยู่ของลูกชายคนโต ไม่มีอีกแล้วคำอวยพรจากลูกชายที่เป็นที่รัก กระทั่งพ่อที่เป็นชาวสวนที่แข็งแกร่งมานานหลายสิบปียังไม่สามารถประคองตัวเองให้ยืนขึ้นได้เมื่อเดินทางมาถึงกรุงเทพ
ความสะใจในการขับเร็วขยี้คันเร่งเพียงชั่วครั้งชั่วคราว ความบ้าคลั่งของคนที่คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ ข้าจะเสียศักศรี ยอมใครไม่ได้ นำมาซึ่งความสูญเสียอันใหญ่หลวงของคนอีกหลายคน ใจของคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่ถูกขยี้แหลกราญที่ไม่รู้ว่าจะต้องทนอีกนานแค่ไหนที่จะทำใจยอมรับได้ ลูกที่เฝ้าฟูมฟักเลี้ยงมากับตัวเองเป็นเวลาหลายสิบปีเหลือเพียงซากที่ไม่สามารถที่จะนำมาประกอบพิธีรดน้ำศพได้เลย คนที่เป็นพ่อเป็นแม่คงจะเข้าใจดี ผมไม่รู้จะกล่าวอะไรมากกว่านี้อีกแล้ว ขอเพียงคำถามเดียว