พบซากฝูงเครื่องบินรบใต้ท้องทะเล เผยร่องรอยสงครามโลกครั้งที่2
เมื่อเร็วๆนี้ สำนักข่าวเดลี่เมล์รายงานว่า มีการพบซากฝูงเครื่องบินรบที่ถูกโจมตีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองจมอยู่ใต้มหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ในบริเวณหมู่เกาะโซโลมอน ซึ่งตัวซากเครื่องบินเต็มไปด้วยสนิมและปะการังเนื่องจากจมอยู่ใต้ทะเลเป็นเวลานาน
Christopher Hamilton ช่างภาพชาวแคนาดาวัย 34 ปี ได้ไปสำรวจใต้ท้องทะเลจนได้พบกับวัตถุที่ไม่ได้พบทั่วไปตามท้องทะเลนัก ซึ่งยังมีร่องรอยของสงครามให้เห็นอยู่
ฝูงเครื่องบินรบดังกล่าวถูกยิงตกในปี 1943 ซึ่งเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยประกอบไปด้วย เครื่องบินรบมิตซูบิชิ เอฟ-2 ของญี่ปุ่น เครื่องบินทิ้งระเบิดหนักโบอิ้ง บี-17 และเครื่องบินรบกรัมแมน F6F เฮลล์แคตของสหรัฐฯ
ซากฝูงเครื่องบินดังกล่าวจมอยู่ใต้ท้องทะเลที่ 185 ฟุต (ประมาณ 56 เมตร) และถูกปกคลุมโดยปะการังจำนวนมาก ทิ้งภาพลักษณ์เครื่องบินรบที่ออกปฏิบัติการอย่างกล้าหาญในสงครามครั้งใหญ่ของโลกเมื่อครั้งอดีต
ช่างภาพให้ความเห็นว่า “ดูจากลักษณะแล้ว นักบินพยายามที่จะลงจอดแต่ไม่สำเร็จ”
ทั้งนี้ สงครามบนเกาะกัวดัลคะแนลในหมู่เกาะโซโลมอนเริ่มต้นจากที่กองทัพสหรัฐฯไปยึดฐานทัพของญี่ปุ่น และญี่ปุ่นพยายามจะยึดคืน จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้นทั้งทางอากาศ บนพื้นดิน และในน่านน้ำ จนขยายกลายเป็นสงครามระหว่างญี่ปุ่นกับชาติพันธมิตร และท้ายที่สุดในปี 1943 ญี่ปุ่นก็ประกาศยอมแพ้ในสงครามและถอยทัพกลับไป