12 ภาพที่สื่อถึงวิวัฒนาการของมนุษย์ อดีต-ปัจจุบัน
ดาเนียล ลี ศิลปินและผู้กำกับชาวฮ่องกง ผู้ที่มีความเชื่อในเชิงวิทยาศาสตร์ว่า มนุษย์นั้นอาจเริ่มมาจากสัตว์เซลล์เดียว
เขาได้จัดแสดงภาพให้เห็นว่าการวิวัฒนาการจากสัตว์เซล์เดียวจนกลายพันธุ์มาเป็นมนุษย์ได้อย่างไร
ส่วนครีบก็เริ่มวิวัฒนาการมาเป็นแขนและขาเพื่อใช้ในการปีนป่าย
จากแขนขาเริ่มมีนิ้วออกมาเพื่อให้ปรับตัวกับสภาพแวดล้อมต่างๆบนพื้นดินได้
กลายเป็นสัตว์เลื้อยคลาน
เมื่อเริ่มมีสัตว์เลื้อยคลานมากขึ้น ยุคนี้เชื่อกันว่า มีสัตว์มากมายที่วิวัฒนาการเป็นไดโนเสาร์หลากหลายสายพันธุ์
เริ่มกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์วานร
เริ่มเหมือนมนุษย์มากขึ้น
กลายเป็นมนุษย์อย่างทุกวันนี้
อย่างไรก็ตาม เป็นเพียงทฤษฏีความเชื่อทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น ยังไม่มีข้อพิสูทธิ์ว่าทฤษฏีนี้เป็นจริงหรือไม่ ยังมีทฤษฏีหลายอย่างที่พยายามโต้เเย้ง และไม่เชื่อว่ามนุษย์มีวิวัฒนาการมาจากสัตว์
เช่น ข้อแตกต่างที่สำคัญระหว่างมนุษย์กับสัตว์อื่นประการหนึ่งคือความสามารถในการสร้างและใช้เครื่องไม้เครื่องมือ
เป็นไปได้ว่าบรรพบุรุษของเราน่าจะมีทักษะในการสร้างเครื่องมือจากไม้มาตั้งแต่เมื่อ 4 ล้านปีก่อนในช่วงที่มนุษย์แยกสายวิวัฒนาการจากชิมแพนซี เนื่องจากชิมแพนซีเองก็มีความสามารถในการสร้างเครื่องมือเช่นกัน เช่นการสร้างอุปกรณ์อย่างง่ายๆ ในการล่ามด หรือการสร้างหอกมาล่าตัวบุชเบบี้
เครื่องไม้เครื่องมือที่ทำจากหินยุคแรกๆ เริ่มเมื่อ 2.6 ล้านปีก่อน เครื่องมือเหล่านี้เรียกว่าออลโดแวน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นหินนั่นเอง แต่มีรูปร่างต่างๆ กันแล้วแต่งานที่ใช้ เช่นมีคม ใช้ต่างมีดหรือขวาน มีด้านหนาสำหรับใช้ทุบต่างค้อน ฯลฯ ยุคนี้เป็นยุคของออสตราโลพิเธคัส
จากหลักฐานพบว่าบรรพบุรุษของมนุษย์ในยุคนั้นสามารถใช้เครื่องมือเครื่องมือล่าสัตว์ รวมถึงแล่หนังและกระเทาะกระดูกของสัตว์ได้
ผ่านไปจนถึง 1.8 ล้านปีก่อน การใช้เครื่องมือก้าวหน้าขึ้นอย่างมาก บรรพบุรุษของเรามีพวกขวานหรือปังตอใช้กันแล้ว ซึ่งโฮโมอีเร็คตัสก็ปรากฏขึ้นในยุคนี้เอง โฮโมอีเร็คตัสใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับพื้นดิน ไม่ค่อยปีนป่ายต้นไม้แล้ว
สิ่งที่น่าสนใจประการหนึ่งคือโฮโมอีเร็คตัสนั้นรู้จักพกอุปกรณ์ไปไหนมาไหน ไม่ใช่ใช้เสร็จก็โยนทิ้งเหมือนพวกออสตราโลพิเธคัส
การสร้างและใช้เครื่องมือมีความสัมพันธ์กับวิวัฒนาการของสายพันธุ์ โฮโมอีเร็คตัสมีสมองขนาดใหญ่กว่าออสตราโลพิเธคัส ราวๆ 2 ใน 3 ของสมองมนุษย์ปัจจุบัน ซึ่งทำให้ต้องใช้พลังงานมากขึ้น ซึ่งมีความสัมพันธ์กับการหาอาหารที่ให้พลังงานสูง ซึ่งก็คือเนื้อสัตว์
นอกเหนือจากลักษณะทางชีวภาพแล้ว วิวัฒนาการนี้ยังส่งผลทางสังคมด้วย นั่นคือการที่ทารกคลอดออกมาโดยที่ยังเล็กกว่าแต่ก่อน (แอดมินคาดว่าเป็นเพราะการที่มีสมองใหญ่ขึ้น ทำให้มีขนาดกระโหลกใหญ่ขึ้นตามไปด้วย ถ้าทารกโตแล้วจะคลอดยาก ทารกที่คลอดเร็วจึงมีโอกาสรอดสูงกว่า) ส่งผลให้ต้องมีความสัมพันธ์ทางสังคมที่เปลี่ยนไป คือตัวผู้อาจต้องล่าอาหารมาเลี้ยงตัวเมียและทารก หรือตัวเมียอาจมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับทางเครือญาติตนมากขึ้นในการช่วยเลี้ยงดูทารก
บรรพบุรุษในสายวิวัฒนาการของเราอาจมีพรสวรรค์อีกอย่างที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จมากกว่าชิมแพนซี แม้ว่าพวกมันจะสามารถใช้เครื่องไม้เครื่องมือได้เหมือนกัน นั่นคือสมองของเรามีความสามารถในการลอกเลียนแบบการเคลื่อนไหวของสิ่งอื่นที่ตนเองเห็นได้ดีกว่าพวกชิมแพนซี นั่นหมายความว่าเราอาจเรียนรู้การสร้างเครื่องมือใหม่ๆ ได้หากเห็นคนอื่นทำให้ดู ในขณะที่พวกชิมแพนซีมักจะต้องคิดค้นการสร้างสรรค์ด้วยตนเองแทบทุกครั้ง
ที่มา: http://www.daniellee.com/projects/origin
ขอบคุณข้อมูลจาก
คนไม่ได้มาจากลิง
http://www.livescience.com/7968-human-evolution-origin-tool…



















