ทหารมีไว้ทำไม...ยังเป็นวาทะที่ทำให้เกิดการต่อยอดการถกเถียงได้ออกรสชาติ...วันก่อนผมยกประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยอยู่บ้านนอกในอีสาน โดยไม่รู้ว่าห่างออกจากบ้านตัวไม่เกิน 200 ร้อยกิโลเมตรจะเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุขึ้น คนนับล้านตายอย่างทารุณ...ผมต้องบอกว่า ที่ผมและเพื่อนๆจำนวนมากในแถบนั้นได้เติบโตมาอย่างปรกติสุขเพราะทหารเป็นส่วนหนึ่งของความสงบสุขดังกล่าว
วาทกรรม "ทหารมีไว้ทำไม"...ลุกลามมาถึงการเปรียบเทียบเป็นแค่ "ยาม " เป็น แค่ "รปภ"...จากที่เคยเทียบเคียงตนเองเป็น "รั้วของชาติ"..
เราอยู่ในสังคมที่คนมีมันสมอง มีความคิดดีๆ มาเอาชนะคะคานกันด้วย "คำพูดมันๆ"...ถ้าเรากลับไปอ่านการ "โต้วาทีในประเด็น ทหารมีไว้ทำไม" เราจะพบคำพูดเสียดสีกันมาก ...แต่ถ้าเราลองเอาข้อเท็จจริงมาใส่มากขึ้น เราจะพบว่า อาชีพทหาร ก็ไม่ต่างจากอาชีพอื่นๆที่มีทั้งข้อดีและข้อบกพร่อง...
1. ถ้าคุณเอารูปคุณทักษิณยืนคู่กับบิ๊กจ็อด แล้วใส่คำว่า "ทหารมีไว้ทำไม" คุณจะได้คำตอบแบบหนึ่ง
2. ถ้าคุณเอารูปทหารโดนระเบิดตายอยู่ริมถนน แล้วใส่คำว่า "ทหารมีไว้ทำไม" คุณจะได้คำตอบอีกแบบหนึ่ง
3. ถ้าคุณเอาภาพทหารออกไปช่วยชาวบ้านยามน้ำท่วม แล้วใส่คำว่า ทหารมีไว้ทำไม" ก็จะได้คำตอบอีกแบบ
4. ถ้าคุณเอาภาพ เสธ.แดง กับ อดีตทหารพราน ฝึกอาวุธ แล้วใส่คำว่า "ทหารมีไว้ทำไม " คุณก็จะได้อีกคำตอบ
5. ถ้าคุณเอาภาพคำสั่ง 66/2523 พร้อมภาพพล.อ.เปรม และใส่คำว่า ทหารมีไว้ทำไม เราจะได้อีกคำตอบหนึ่ง
6. ถ้าเราเอาภาพ พล.อ.ชวลิต กับภาพคุณทักษิณ แล้วใส่คำว่า ทหารมีไว้ทำไม คุณจะได้อีกคำตอบหนึ่ง
7. ถ้าคุณเอาภาพ "เสรีไทย"สมัยสงครามโลกที่มีทั้งทหาร/พลเรือน แล้วใส่คำว่า ทหารมีไว้ทำไม คำตอบจะเป็นอีกแบบ...
เช่นเดียวกันกับ..นักวิชาการ หมอ นักแปล นักข่าว...ฯลฯ ต่างคนต่างมีสภาวะแวดล้อมที่ต่างกันไป...คำที่ว่า "มีไว้ทำไม" ในสภาพปัจจุบัน...ผมยังยืนยันว่า...น่าจะมีคำถามที่สร้างสรรค์กว่านี้สำหรับนักวิชาการหรือนักคิดที่เป็นผู้นำของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งในสังคมนี้