จะ 'รวบ' หรือจะ 'ฟัน' ก็ไม่ผิดศีลธรรม!?! การท่องเที่ยวไทย เล็งจับเศรษฐีเกย์ทุกรสนิยม กำลังซื้อสูง
ททท.เล็งเป้าจับตลาดกลุ่มเศรษฐีเกย์ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ ดึงมาจัดปาร์ตี้เฉพาะที่ภูเก็ตในช่วงสงกรานต์นี้ เผยเป็นกลุ่มกำลังซื้อสูง นอกจากชอบมาเที่ยวแล้ว ยังนิยมมาเสริมอึ๋ม-แปลงเพศ หรือเสริมความงามในไทย ที่กทม.-ภูเก็ต แต่ละคนใช้เงินไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาท/ครั้ง และยังมาเป็นประจำอีกด้วย
แม้แต่นักท่องเที่ยวเพื่อความสุขทางเพศทุกรสนิยม ไทยจับนักท่องเทียวทุกตลาดขนาดนี้ และคนไทยก็รับได้อย่างสบายใจ แต่คนไทยกลับต่อต้านการตั้งคาสิโนถูกกฎหมาย ต่อต้านการเปิดร้านขายอุปกรณ์ทางเพศถูกกฎหมาย ต่อต้านการเป็นโสเภณีอย่างถูกกฎหมายโดยบอกว่าเพราะขัดหลักศาสนาของไทย ขัดต่อศีลธรรมและวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของประเทศไทย แสดงว่าประเทศอารยะตะวันตกเลวทรามต่ำช้ากว่าประเทศเรา...ว่างั้นเถอะ
ไม่รู้จะถือสากกันไปถึงไหน
นางรุจิรัศมิ์ ฉัตรเฉลิมกิจ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานซิดนีย์ ออสเตรเลีย กล่าวว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ มีบริษัททัวร์ชื่อดังของประเทศออสเตรเลีย นำลูกทัวร์ซึ่งเป็นกลุ่มชายรักชาย (เกย์) ที่มีฐานะร่ำรวย ประมาณ 200 คนจากทั่วโลก เดินทางเข้ามาจัดปาร์ตี้แบบพิเศษ (เอ็กซ์คลูซีฟ เกย์ บีช เฟสติวัล) ที่จ.ภูเก็ต
การที่กลุ่มเกย์เดินทางมาจัดงานที่เมืองไทย เนื่องจากมีความชื่นชอบประเทศไทย ชอบช่วงเทศกาลสงกรานต์ของเมืองไทยซึ่งในปีนี้กลุ่มเกย์ถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่จะดันรายได้ของตลาดออสเตรเลียให้เติบโต 3.8% และมีจำนวนนักท่องเที่ยว 8.45 แสนคนเติบโต 3.68% จากปีก่อน
ปีนี้สำนักงานฯเลือกให้กลุ่มสินค้าท่องเที่ยวด้านสุขภาพและการเสริมความงาม (เมดิคัลแอนด์เวลเนส) เป็นโปรดักส์แชมเปี้ยน เนื่องจากชาวออสเตรเลียนิยมมาใช้บริการเสริมความงาม อาทิ การผ่าตัดดึงหน้า แปลงเพศ ทำฟัน ปลูกผม เสริมหน้าอกในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เพราะมองว่าประเทศไทยมีฝีมือด้านนี้ รวมไปถึงที่ประเทศออสเตรเลียไม่มีหมอให้บริการด้านนี้อย่างชัดเจน โดยค่ารักษาและการใช้บริการ คาดว่าจะใช้ไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท/คน
“การศัลยกรรมเสริมความงามของชาวออสเตรเลียได้รับความนิยมมาก ปัจจุบันมีชาวออสเตรเลียมาประเทศไทยทุกวันเพื่อใช้บริการเสริมความงาม ส่วนใหญ่ใช้บริการโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ และภูเก็ต อยู่ครั้งหนึ่งไม่ต่ำกว่า 14 วันเพราะต้องพักฟื้นด้วย อีกทั้งเมื่อมาใช้บริการแล้วก็ต้องกลับมาเมืองไทยใหม่ เพื่อมาตรวจเช็กสิ่งที่ทำอยู่ตลอด กลุ่มนี้จึงถือเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพมาก”
นางรุจิรัศมิ์กล่าวอีกว่า ททท.สนับสนุนผู้ประกอบการด้านเมดิคัลในประเทศนิวซีแลนด์ให้มาถ่ายทำสารคดีการทำศัลยกรรมความงามที่ประเทศไทย ภายใต้ชื่อรายการ ‘บิวตี้แอนด์เดอะบีช’ ถ่ายทำที่ภูเก็ตและกรุงเทพฯ ซึ่งถ่ายทำจากเรื่องจริง สัมภาษณ์ผู้ที่มาใช้บริการทำศัลยกรรม ทั้งก่อนและหลังทำ รวมถึง บริษัทประกันสุขภาพของออสเตรเลีย ยังมีโครงการส่งลูกค้าไปทำศัลยกรรมที่ประเทศไทย เนื่องจากมองเห็นว่างธุรกิจนี้กำลังมาแรงในออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์