จากเรื่องจริง THE WALK ไต่ตึกจนเป็นตำนาน
ใน The Walk ตอนที่ Joseph Gordon-Levitt เดินบนลวดข้ามตึกแฝด World Trade Center นั้น ยังติดตาตรึงใจเรามาจนถึงตอนนี้ ฉากนั้นมันเสียวซี้ดชนิดหัวใจจะวายมากๆ แล้วฉากตอนที่เล่าเบื้องหลังการคิดการณ์ใหญ่ การวางแผน หรือการเตรียมการ ก็ดูสนุกและโคตรเหลือเชื่อ สำหรับเรา The Walk เป็นประสบการณ์การดูหนังสามมติที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของเราเลย ถึงแม้ว่าเนื้อหาของหนังจะไม่ค่อยมีอะไรมากก็ตาม
ใน Man on Wire ก็เล่าเรื่องราวส่วนใหญ่คล้ายๆ กับที่เราได้ดูแล้วใน The Walk แต่ก็มีบางจุดเหมือนกันที่ในหนังไม่ได้บอกเราแต่สารคดีเขาบอกเรา เช่น ภารกิจที่ออสเตรเลีย หรือบางจุดที่หนังบอกเราแต่สารคดีไม่เห็นพูดถึงก็มี เช่น ความสัมพันธ์ของ Philippe กับหัวหน้าคณะละครสัตว์ Papa Rudy (เวอร์ชั่นหนัง แสดงโดย Ben Kingsley)
นอกจากนี้ ตัวหนังกับตัวสารคดียังมีความแตกต่างกันอีกตรงที่ตัว Man on Wire ซึ่งเป็นภาพยนตร์สารคดี ไม่ได้ใช้เทคนิคการถ่ายภาพหรือเล่นมุมกล้องเว่อร์วังแบบในหนัง The Walk (ซึ่งสร้างมาเพื่อระบบสามมิติโดยเฉพาะ) กล่าวคือ งานภาพของ Man on Wire เน้นภาพจริงจากเหตุการณ์จริง ตัดสลับกับการสร้างฉากสมมติโดยใช้นักแสดงที่หน้าเหมือนตัวจริงมาแสดง และตัดสลับกับบท interview ของบุคคลจริงๆ ด้วย
ถึงแม้ Man on Wire จะไม่ได้ขายฉากหวาดเสียวบนสลิงแบบในหนังฟอร์มยักษ์อย่าง The Walk แต่เรื่องราวก็เข้มข้นและเชือดเฉือนกว่าหนังมาก โดยเฉพาะในส่วนของการเล่าเรื่อง เราชื่นชมเลยว่าการตัดต่อบทสัมภาษณ์ของบุคคลจริงๆ อย่าง Philippe Petit, Annie (แฟนสาว), Jean-Louis (เพื่อนสนิท)ฯลฯ เขาทำมาดีทีเดียว ดูเพลิน ไม่น่าเบื่อ เข้าถึงอารมณ์ และทำให้เราเข้าใจความสัมพันธ์ของพวกคนเหล่านั้นมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงบทสรุปที่ค่อนข้างเคลียร์ หลังจากที่เราต้องเคลือบแคลงใจจาก The Walk มาเป็นอาทิตย์ๆ
สิ่งที่เราชอบในหนังสารคดี Man on Wire คือ มันทำให้เราได้เห็นคาแรกเตอร์ของคนคนนั้นชัดเจนมากกว่าเห็นดารามาสวมหัวโขนเป็นพวกเขา โดยสังเกตได้จากน้ำเสียง ท่าทาง แววตา ภาษา และลักษณะการพูด
เช่น Philippe Petit เนี่ย เรารู้สึกว่าตัวจริงเขาค่อนข้างจะเป็นคนบ้าพลัง อารมณ์ขัน มั่นใจในตัวเอง สนใจแต่ตัวเอง และค่อนข้างเหลิงกับชื่อเสียงหรือคำชื่นชม (เช่นด้วยกับ “นักมายากล” ที่เป็น symbolic ใน The Little Prince เลย)
ในขณะเดียวกัน จากการให้สัมภาษณ์ของ Annie (แฟนสาว) เราก็รู้สึกได้ว่า เธอคนนี้อัดอั้นและเจ็บปวดเวลาระลึกถึงเหตุการณ์เมื่อปี 1974 นั้น เราว่าชีวิตจริงๆ เธอจะต้องน่าสงสารกว่าที่เห็นในสารคดีแน่ๆ ไม่ต้องถามเราว่า “ทำไม” แต่ให้ลองไปดูเอาเองว่าทำไมเราห้ามถามว่าทำไม
ไม่เสียเวลาหรอก เพราะ Man on Wire ยาวแค่ 94 นาที เขาเล่ากระชับ ไม่ได้บิวท์อะไรยืดยาวหรือเวิ่นเว้อแบบ The Walk ที่ล่อไปกว่าสองชั่วโมง แต่หนังมีฉายแบบจำกัดรอบและจำกัดโรงมากๆ
Man on Wire ฉายรอบปกติ ตั้งแต่ 29 ต.ค. – 4 พ.ย. 2015 เฉพาะที่ SFW CentralWorld (วันธรรมดา 19:00 น. / เสาร์-อาทิตย์ 15:00 และ 17:10 น.) และ SF Maya ChiangMai (วันธรรมดา 20:00 น. / เสาร์-อาทิตย์ 17:00 น.) เท่านั้น