หญิงชาวซาอุดิอาระเบีย ติดเชื้อเอดส์ ร้อยละ 95% จากสามี
เจดดะฮฺ – ซานาอฺ ฟิลิมบัน (Sanaa Filimban) ผู้อำนวยการโครงการ AIDS จากกระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบีย เปิดเผยว่า ในปี 2014 ผู้หญิงซาอุฯประมาณ 80 คน ปรากฏอาการของการติดเชื้อเอดส์ ในจำนวนนี้ เกือบทุกคนไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศ และร้อยละ 95 ของผู้ป่วยติดเชื้อจากการร่วมเพศกับสามีของตัวเอง
ในงานวันเอดส์โลก ที่ผ่านมา (1ธ.ค.58) กระทรวงสาธารณสุขซาอุฯ สร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชน ผ่านการจัดบรรยาย และสัมมนาเชิงปฏิบัติการ มีการจัดตั้งศูนย์ปรึกาและตรวจเอดส์ขึ้น 48 แห่ง ในจำนวนนี้ 12 แห่งเป็นคลีนิคเคลื่อนที่ ซึ่งศูนย์ทั้งหมดจะเก็บประวัติของผู้ป่วยเป็นความลับ รวมทั้งกำหนดหมายเลขให้กับผู้ป่วยแทนการเรียกชื่อ
ปัจจุบันมีผู้ป่วยเอดส์ 21,761 คน ในราชอาณาจักรซาอุฯ ในจำนวนนี้ เป็นชาวซาอุฯ 6,334 คน สัญชาติอื่น 15,427 คน โดยในปี 2014 มีคนไข้ติดเชื้อเอดส์ใหม่มาลงทะเบียน 1,222 คน ในจำนวนนี้เป็นชายชาวซาอุฯ 364 คน เป็นหญิงซาอุฯ 80 คน และเป็นหญิงสัญชาติอื่น 778 คน
เริ่มพบผู้ติดเชื้อเอดส์ ในราชอาณาจักรซาอุฯ ในปี 1984 (พ.ศ. 2527) ร้อยละ 3 ของจำนวนผู้ป่วยปัจจุบันเป็นเด็ก ซึ่งเกิดจากการดื่มนมจากเต้าของแม่ที่ติดเชื้อ, ผู้หญิงซาอุฯที่ติดเชื้อเอดส์ กับผู้ชายซาอุฯที่ติดเชื้อเอดส์ มีอัตรา 1:4, ร้อยละ 81 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดในซาอุฯ มีอายุระหว่าง 15 – 49 ปี และมีเพียง 2 % เท่านั้น ที่ติดเชื้อเอดส์จากการใช้เข็มฉีดยาเสพติด