วิจัยตะวันตกชี้ท่าเดินปูตินคือ “ท่าเดินของมือปืน” แห่งKGB
วิจัยตะวันตกชี้ท่าเดินปูตินคือ “ท่าเดินของมือปืน” แห่งKGB
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมานิตยสารการแพทย์ของอังกฤษฉบับหนึ่งได้ลงบทความวิจัยที่แปลกประหลาดชิ้นหนึ่งที่เกี่ยวกับการศึกษาและวิเคราะห์ท่าเดินของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน
หลายปีมานี้หน่วยงานตะวันตกหรือบุคคลชาวตะวันตกหลายคนนิยมศึกษาท่าเดินของปูตินโดยนำเอาทฤษฎีต่างๆมาอ้างอิงเช่น “พัฒนาการบกพร่อง” “โรคโรคโปลิโอ มัยเอไลตีส” “โรคหลอดเลือดสมอง”และ “โรคพาร์กินสัน” เป็นต้นถึงแม้ว่าทฤษฎีเหล่านี้จะยังคงขาดหลักฐานและนับเป็นเพียงการคาดเดาทั้งสิ้นแต่ “การศึกษาท่าเดินปูติน”ยังคงเป็นที่นิยม หรือมันจะมีสาเหตุอื่นที่อยู่เบื้องหลัง?
【“ท่าเดินของมือปืน”】
บทความวิจัยเรื่อง”ท่าเดินของปูติน”ชิ้นนี้ได้ถูกตีพิมพ์ลงในวารสารBritish Medical Journalของอังกฤษโดยผู้เขียนนั้นเป็นแพทย์ชาวตะวันตกชื่อดังจากประเทศโปรตุเกส อิตาลีและเนเธอร์แลนด์
จากบทคัดย่อในเว็บไซต์ของนิตยสารดังกล่าว นักวิจัยด้านประสาทวิทยาเหล่านี้ได้พบว่าท่าเดินของปูตินนั้น “พิเศษ”กว่าคนอื่นๆ จากการศึกษาคลิปวีดีโอที่เกี่ยวข้อง เพราะเวลาปูตินเดินนั้นแขนซ้ายจะแกว่งตามปกติแต่แขนขวาแทบจะจะไม่แกว่ง ซึ่งผู้ป่วยที่เป็นโรคพาร์กินสันมักจะมีอาการการแกว่งมือทั้งสองข้างไม่ประสานกันในลักษณะนี้แต่เห็นได้ชัดว่าปูตินไม่ได้เป็นโรคนี้เพราะเขามีความสามารถที่โดดเด่นในด้านกีฬา ไม่เพียงแต่แค่นักกีฬายูโดสายดำ แต่ยังเป็นนักกีฬายกน้ำหนักและว่ายน้ำ รวมถึงเวลาเซ็นชื่อก็ไม่มีอาการมือสั่นอีกด้วย
ดังนั้นบรรดาผู้เชี่ยวชาญจึงได้อธิบายเรื่องนี้ตามคู่มือการฝึกอบรมฉบับหนึ่งของหน่วยสืบราชการลับสหภาพโซเวียต หรือKGB ซึ่งคู่มือการฝึกอบรมฉบับนี้ได้แนะนำวิธีการถือปืนให้กับสายลับโดยให้ใช้มือขวาและถือให้ใกล้หน้าอกและให้ใช้ฝั่งซ้ายของร่างกายเคลื่อนไหวเพื่อที่จะยิงปืนให้ได้เร็วที่สุดหากต้องเผชิญหน้ากับศัตรู และเนื่องจากคาวบอยในภาพยนตร์เรื่องCall of Juarez Gunslingerของอเมริกาก็มีพฤติกรรมเช่นนี้ เหล่าผู้เชี่ยวชาญจึงได้ตั้งชื่อให้กับอากัปกริยาเช่นนี้ว่า “ท่าเดินของมือปืน”
พวกเขาคิดว่าปูตินเป็นสายลับKGBมานาน ผ่านการฝึกหนักมามากดังนั้นจึงได้มีท่าเดินที่พิเศษเช่นนี้ และเพื่อที่จะศึกษาการวินิจฉัยนี้ให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น พวกเขาจึงศึกษาท่าเดินของทหารระดับสูงรัสเซียคนอื่นๆด้วย คือนายดมีตรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีรัสเซีย พล.อ.อนาโตลี เซอร์ดิวคอฟ และ นายเซอร์เก อิวานอฟ อดีตรมว.กลาโหมรัสเซีย และผู้บัญชาการทหารอาวุโส อนาโตลี ซิโดรอฟ
โดยศาสตราจารย์Bastiaan Bloemชาวเนเธอร์แลนด์กล่าวว่าผลที่ออกมานั้นทำให้หลายๆคนต้องตะลึงเพราะพบว่าบุคคลเหล่านี้ล้วนมีท่าเดินเหมือนกันและหลายๆคนล้วนแต่มีความเกี่ยวข้องกับหน่วยฝึกทหารหรือหน่วยKGB ยกเว้นดมีตรี เมดเวเดฟซึ่งอาจจะพยายามเลียนแบบท่าเดินของปูติน
【ทำให้ภาพลักษณ์ปูตินเสียหาย?】
ถึงแม้บทความชิ้นนี้จะฟังดูมีเหตุมีผลแต่Bloemเองก็ได้ออกมายอมรับว่านี่เป็นเพียงแค่ “ทฤษฎี" เพราะที่จริงแล้วตั้งแต่ได้เกิดกระแสนิยมศึกษาท่าเดินปูตินในช่วงหลายปีนี้มีทฤษฎีและการคาดเดาต่างๆออกมามากมายทั้งกล่าวว่าเขามีพัฒนาการบกพร่องมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เคยเป็นโรคโปลิโอตอนเด็กๆ มีภาวะโรคหลอดเลือดในสมอง หรือแม้แต่กล่าวว่าคีมหนีบหัวที่ใช้หนีบตอนคลอดนั้นทำให้สมองเขาได้รับการกระทบกระเทือน ฯลฯ แต่อย่างไรก็ดีทฤษฎีต่างๆเหล่านี้ล้วนแต่ไม่มีหลักฐานจริงๆมารองรับ เช่นประวัติในใบเกิดเป็นต้น
แต่ที่น่าแปลกใจก็คือถึงแม้จะไม่มีหลักฐานใดใดมายันแต่ “การศึกษาท่าเดินปูติน”นั้นก็ยังฮอตฮิตไม่เสื่อมคลาย มีคนให้ความเห็นว่าปรากฏการณ์เช่นนี้มีจุดมุ่งหมายทางการเมืองซ่อนเร้นอยู่ เพราะตลอดมาปูตินมีภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งและยังเป็นไอดอลของเด็กหนุ่มชาวชาวรัสเซียหลายๆคนมาโดยตลอด ชาติตะวันตกจึงต้องการทำให้ภาพลักษณ์นี้เสื่อมลงแต่งานวิจัยที่ไร้หลักฐานชัดเจนเหล่านี้ก็คงจะทำให้คนเชื่อได้ยาก
เมื่อเดือนกุมภาพันธืที่ผ่านมาสื่อแพนตากอนปล่อยข่าวลับออกมาว่าปูตินเป็นแอสเพอร์เกอร์ซินโดรม หรือกลุ่มอาการผิดปกติทางพฤติกรรม ที่เกี่ยวกับประสาทที่ทำให้ปูตินต้อง “ควบคุมตัวเองอย่างหนัก”หากต้องเผชิญหน้ากับอันตราย
รายงานดังกล่าวกล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญได้ศึกษากริยาและสีหน้าของปูตินผ่านวีดีโอและค้นพบว่าประสาทของเขาอาจได้รับการกระทบกระเทือนในสมัยยังเป็นเด็กทำให้เขาสูยเสียสมดุลในการทรงตัวและไม่ชอบการเข้าสังคม
ส่วนทางโฆษกของปูตินได้ออกมาวิจารณ์ถึงงานวิจัยนี้ด้วยความไม่พอใจว่า “งานวิจัยโง่ๆแบบนี้ไม่มีค่าพอให้พูดถึง”
(ข่าวโดย จางเหว่ย /บรรณาธิการหลี่ เหลียงหย่ง/ Xinhua International รายงาน)