สาวงามนครปฐม เมาแล้วขับ หวิดดับโดนย่างสด สุดเฮง! ซื้อล็อตเตอรี่คนพิการ ถูกหวยปลดหนี้เฉียดล้าน
เป็นที่รู้จักกันดีของชาวเมืองนครปฐม สำหรับสาวสวยลุคหมวยอินเตอร์ ป๋อมแป๋ม อรการณ์ อวัยวานนท์ เจ้าของเฟสบุ๊ค Orrakarn Awaiyawanon ที่กล้าบอกเล่าเรื่องราวในชีวิตแบบสุดโต่ง ของเด็กดื้อ งี่เง่า เอาแต่ใจ ที่มีเรื่องทะเลาะวิวาทตบตีเป็นประจำ แถมต้องเผชิญกับสารพัดคำด่า คำดูถูก กรอกใส่หูมาตลอดชีวิต ว่าเป็นสัมภเวสีเร่ร่อนหาเงิน แต่ที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือเธอเกือบหวิดโดนย่างสดคาซากรถ กับอุบัติเหตุเมาแล้วขับ จนรถระเบิดไฟไหม้แทบไม่เหลือซาก แต่ในความโชคร้ายของชีวิต ก็ยังมีความโชคดีปนอยู่บ้าง กับการที่เธอช่วยเหลือคนพิการซื้อล็อตเตอรี่ และถูกรางวัลหลายแสนบาท จนทำให้ชีวิตของเธอพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือไปตลอดกาล
“ตอนเด็กๆ ป๋อมแป๋ม แสบมาก ดื้อสุดๆ ใครพูดอะไรก็ไม่เคยเชื่อฟัง เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ตลอดเวลา เรา เหมือนเป็นเด็กขาดความอบอุ่นด้วย ป๋อมแป๋มอยู่กับแม่ แล้วก็ตายาย เรื่องมือตบไว้ใจป๋อมแป๋มได้เลย มีเรื่องตบตีกับคนนั้นคนนี้ตั้งแต่เรียนมัธยม เคยขึ้นโรงพักทำให้แม่ร้องไห้ไปหลายรอบ ชื่อเสียๆ ของป๋อมแป๋ม กระฉ่อนมากทั้งตัวเมืองนครปฐม คนแถวบ้านไม่มีใครชอบป๋อมแป๋ม เอาเราไปพูดเสียๆ หายๆ โดนดูถูกสารพัดหาว่าเราต้องท้องก่อนแต่งบ้าง เรียนไม่จบบ้าง พ่อแม่พี่น้องคงพึ่งพาไม่ได้แน่นอน เอาไปพูดต่อๆ กัน จนญาติๆ เราก็เชื่อตาม แต่ที่โกรธสุดๆ คือเอาแม่เราไปนินทาด้วย
แล้วช่วงเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ก็ยังดื้อทำตัว ทำตัวแสบเหมือนเดิม เที่ยวกลางคืน กินเหล้า กลับบ้านเช้า ไปเรียนบ้าง ไม่ไปบ้าง แต่ชอบทำกิจกรรมมาก เคยมีคนมาทาบทามให้ไปประกวดนั้นนี่ มาชวนไปทำศัลยกรรมด้วย แต่เรากล้าไม่ทำ กลัวโหงวเฮ้งเสีย แล้วคิดว่าตัวเองไม่เหมาะกับงานในวงการ แต่ก็เรียนจบปริญญาตรีนะคะ แต่ เรื่องที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต ก็คงเป็นช่วง 3-4 ปีที่แล้ว วันนั้นป๋อมแป๋มไปเที่ยวกับเพื่อน แล้วเมามากๆ พอสักตี 4 ตี 5 ก็เริ่มฟื้น แต่ก็ยังแฮงค์ๆ อยู่ เลยขับรถกลับบ้าน แล้วเหมือนเราหลับใน มารู้ตัวอีกทีเห็นรถระเบิดไฟลุกต่อหน้า คือเราน่าจะขับรถมาเร็วมาก แล้วไปชนกับรถที่จอดอยู่ ตอนที่ชนก็มีคนเข้ามาช่วย มาทุบกระจกเอาเราออกจากรถได้ทัน ส่วนรถก็ระเบิดไฟไหม้ทั้งคันเลย ถ้าวันนั้นไม่มีคนมาช่วย ก็คงโดนย่างสดคาซากรถไปแล้ว เรื่องนี้เป็นข่าวดังใหญ่โตเลย เหตุการณ์นี้ทำให้ป๋อมแป๋มมีสติ เลิกเที่ยว เลิกกินเหล้า พอกันทีชีวิตแบบนี้
จากนั้นป๋อมแป๋ม ก็เริ่มคิดจะหาเงินเอง ด้วยการเอาเสื้อผ้าที่มีอยู่ไปขายตามตลาดนัดแบกะดิน เป็นเสื้อผ้ามือสอง มีไปรับเสื้อผ้ามือหนึ่งมาขายบ้าง แต่ก็มีอุปสรรคเยอะมาก บางครั้งเขาก็ไม่ยอมให้พื้นที่ขาย กีดกั้นสารพัด เหมือนเขาแกล้งเรา คิดว่าเราเป็นร้านเล็กๆ เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวคงสู้เขาไม่ได้ ไม่มีปัญญาตอบโต้ แล้วเขาเอาเราไปพูดนินทาหาว่า เราเป็นสัมภเวสีเร่ร่อนมาหาพื้นขายของไปวันๆ คำๆ นี้ทำป๋อมแป๋มขึ้นมาก ทั้งเจ็บใจ ทั้งน้อยใจตัวเอง ว่าทำชีวิตต้องมาแบบเป็นแบบนี้ แต่บางพื้นที่ก็เขาใจดีนะคะ ให้โอกาสเราขายของ ช่วงนั้นก็จะเริ่มไปรับพวกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมาขาย ตั้งโต๊ะเล็กๆ ก็ขายดีมาก ก็เพ้อฝันว่าอยากทำร้านขายส่งผลิตภัณฑ์ แล้วบางครั้งเจ้าของแบรนด์ เขาก็ให้ถ่ายรูปรีวิวให้ด้วย เหมือนป๋อมแป๋มเป็นเน็ตไอดอลบ้านนอกอยู่ช่วงหนึ่ง ก็ตลกตัวเองดี
แล้วประมาณช่วงเดือนเมษายนปีที่แล้ว ป๋อมแป๋มก็เริ่มคิดจะทำร้านขายส่งสินค้าเอง เลยมองหาทำเลในการขาย แล้วไปขอยืมเงินจากพวกญาติๆ เขาก็ให้นะคะ แม่ก็เอาทองไปขายเพื่อจะมาช่วยลงทุน แล้วบางร้านพอรู้ว่าเราจะทำร้านขายส่ง เขาก็หมั่นไส้เรา พูดกับเราว่า ตรงที่เราจะขาย มันขายไม่ดีหรอก เปิดไปก็เจ๊ง ลงทุนขายแบบนี้ มันต้องมีเงินหลายๆ ล้านถึงจะอยู่ได้ หลายๆ ร้านแอนตี้เยอะมาก แต่เราก็ไม่สนใจ เพราะลงทุนไปแล้ว ก็ต้องทำให้ถึงที่สุด โดยที่ไม่คิดไปแข่งขัน หรือเอาชนะใคร แล้ว เหมือนฟ้ามีตาคงรู้ว่าเราลำบากจริงๆ ชีวิตป๋อมแป๋มไม่เคยซื้อล็อตเตอรี่เลย แล้วอยู่ๆ ก็ไปช่วยคนพิการซื้อล็อตเตอรี่ 1 ชุด ตอนนั้นก็ไม่ค่อยมีเงินด้วยนะคะ แต่เรารู้สึกสงสารเขามากก็เลยช่วยซื้อ แล้วก็ถูกรางวัลได้เงินมาหลายแสน ก็เอาเงินตรงนี้ไปทำร้านขายส่ง จนเราใช้หนี้สินที่เราเคยไปขอหยิบยืมเงินคนอื่นมาลงทุน ก็ประมาณเกือบๆ ล้านได้ค่ะ ใช้เวลาเคลียร์นี้ประมาณ 1 ปี
พอไม่มีหนี้สินเราก็เก็บเงินมาเรื่อยๆ แล้วมาทำแบรนด์เป็นของตัวเอง ในช่วงกลางๆ ปีนี้ มันเป็นความฝันของเรา ตั้งแต่เราเป็นแม่ค้าตลาดนัดแล้วว่า อยากมีอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันเป็นของตัวเอง เลยเอามาทุ่มกับแบรนด์ โฉมงาม ของตัวเอง ตอนแรกก็หวั่นๆ ว่าจะไปไม่รอดไหม แต่ผลที่ได้รับคือมีคนสนใจเยอะมาก ขนาดบางร้านที่เคยดูถูกว่าเราจะเจ๊ง ก็ติดต่อมาซื้อของไปขายต่อ ป๋อมแป๋มก็ยังขำๆ เลย เอาเราไปว่าไปด่าซะเยอะ สุดท้ายก็เป็นพวกเกลียดตัวกินไข่ แต่ก็ไม่ซีเรียสค่ะ ถือว่าอาชีพเดียวกัน ทำมาหากินกันไป ตอนนี้ชีวิตทุกๆ คนในครอบครัวป๋อมแป๋ม ก็มีความสุขมาก ป๋อมแป๋มรู้สึกโชคดีมากๆ ที่คนรอบข้างให้กำลังใจมาตลอด และตัวเราเองก็ไม่เลือกเส้นทางที่ผิด ชีวิตเราเราสามารถกำหนดเองได้ รู้ว่าอะไรดี ไม่ดี ควรทำ ไม่ควรทำ และไม่ควรย่อท้อต่อโชคชะตา ไม่เอาคำพูดคนอื่น มาทำร้ายตัวเอง แค่นี้เราก็สามารถเผชิญ กับโลกความเป็นจริงได้แน่นอนค่ะ