"ปูติน" ออกโรงแฉเอง ตุรกีสอย ซู-24 เพื่อปกป้อง แอบซื้อน้ำมันดิบจากไอซิส

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ออกมาเปิดโปงด้วยตนเอง ถึงสาเหตุลึกๆ ที่ตุรกีส่งเครื่องบินเอฟ-16 ยิงโจมตีเครื่องบินซู-24 ของรัสเซีย อ้างว่าละเมิดน่านฟ้าตุรกีนั้น เป็นเพราะ ตุรกี ต้องการปกป้องธุรกิจค้าน้ำมันเถื่อนกับกลุ่มมุสลิมติดอาวุธหัวรุนแรง รัฐอิสลาม หรือ ไอซิส!!

เป็นกลุ่มไอซิส สุดโหดที่สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรกำลังร่วมมือกันโจมตีทางอากาศ ทิ้งระเบิดทั้งในซีเรียและอิรักกันมาตั้งแต่เดือนส.ค.ปี 57 แต่รัสเซียเพิ่งกระโจนเข้ามาช่วยรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาดแห่งซีเรีย โจมตีถล่มไอซิส เมื่อปลายเดือนกันยายน ที่ผ่านมา

เพียงแต่ ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ว่า ‘ไอ้โม่ง’ ที่ถูกกล่าวหา แอบซื้อน้ำมันดิบจากกลุ่มไอซิสที่บุกยึดบ่อน้ำมันในหลายเมืองของอิรักและซีเรีย จนสร้างรายได้อู้ฟู่นำเงินมาซื้ออาวุธและหล่อเลี้ยงสมาชิกอย่างเป็นกอบเป็นกำ จะมีชื่อ ประธานาธิบดี เรเซป เทย์ยิป เออร์โดกันแห่งตุรกีรวมอยู่ด้วย!!

*โชว์หลักฐาน ภาพถ่ายจากดาวเทียม

ภายหลังจากประธานาธิบดีเออร์โดกันของตุรกี ออกมาตอบโต้ผู้นำรัสเซียอย่างทันควันว่า เขาถูกใส่ร้ายป้ายสี และพร้อมจะลาออกจากตำแหน่ง ถ้ารัสเซียมีหลักฐานพิสูจน์ยืนยันว่า ตุรกีแอบซื้อน้ำมันดิบจริง ปรากฏว่า ให้หลังไม่ถึง 2 วัน กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ก็หอบหลักฐาน ภาพถ่ายดาวเทียม มาโชว์ทันทีในวันพุธที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับเชื้อเชิญเจ้าหน้าที่กองทัพและนักข่าวต่างชาติหลายร้อยคนมาร่วมรับฟังการแถลงเรื่องนี้

‘ตุรกีเป็นลูกค้ารายใหญ่ของกระบวนการลักลอบน้ำมันที่ถูกขโมยมาจากเจ้าของประเทศที่มีสิทธิอันชอบธรรม ทั้งซีเรีย และอิรัก’ นายอนาโตลี แอนโตนอฟ รมช.กลาโหมรัสเซียกล่าว พร้อมระบุว่า ตามรายงานที่ทางการรัสเซียได้มานั้น ประธานาธิบดีเออร์โดกัน และครอบครัวของเขา มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจมืดในครั้งนี้

*รถบรรทุกน้ำมันหลายร้อยคันเหล่านี้ จะไปไหน??

กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ชี้ว่า ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็นรถบรรทุกจำนวนหลายร้อยคันในบริเวณพื้นที่ที่กลุ่มไอซิสยึดครองอยู่ทั้งในซีเรียและอิรัก เพียงแต่คำถามตามมาก็คือ ทำไมสหรัฐฯ ซึ่งเป็นชาติแกนนำในการโจมตีไอซิส จึงไม่ระดมโจมตีทางอากาศให้หนักมากขึ้นในบริเวณนี้

‘ตามรายงานข่าวกรองของเราที่เชื่อถือได้ ระบุว่า ทางการตุรกีได้แอบซื้อน้ำมันเถื่อนมานานแล้ว และยังถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับตุรกี แต่ที่สำคัญมากๆ ก็คือ ตุรกีไม่ได้มีแผนการจะหยุดยั้งการลักลอบขายน้ำมันดิบเหล่านี้เลย’ นายเซอร์เก รูดสคอย รองประธานเสนาธิการทหารของกองทัพรัสเซีย กล่าวต่อนักข่าว พร้อมย้ำว่า ไม่ใช่เรื่องยากเหลือบ่ากว่าแรงที่จะสังเกตเห็นรถบรรทุกน้ำมันหลายร้อยคันเหล่านี้ ขณะที่ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มกลุ่มไอซิส ถือเป็นการทำลายความสามารถของกลุ่มไอซิสในการผลิต กลั่นน้ำมันและขายน้ำมัน

*เผย 3 เส้นทางลักลอบขนน้ำมันเถื่อนเข้าตุรกี

กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้อธิบายให้เห็นถึงเส้นทางสำคัญ 3 เส้นทางในการขนส่งน้ำมันเถื่อนของไอซิสไปยังตุรกี โดยเส้นทางแรก เป็นเส้นทางจากบ่อน้ำมันดิบ ใกล้เมืองรักกา ฐานที่มั่นใหญ่ของไอซิสทางภาคเหนือของซีเรีย ไปยังเมืองอาซัส ซึ่งติดชายแดนตุรกี ซึ่งจากที่นั่น ภาพถ่ายจากดาวเทียม แสดงให้เห็นขบวนรถบรรทุกน้ำมันจะแล่นผ่านเข้าไปยังเมืองเรย์ฮานลี ของตุรกี โดยที่ไม่มีการถูกขัดขวางใดๆ ทั้งสิ้น

‘ไม่มีการตรวจสอบรถบรรทุกเหล่านั้นเลย ในฝั่งของตุรกี’ นายรูดสคอยกล่าว พร้อมยังเผยว่า มีน้ำมันเถื่อนบางส่วนถูกนำไปขายในตลาดมืดภายในตุรกี ขณะที่บางส่วนจะถูกส่งผ่านทางท่าเรือหลายแห่งที่เมืองท่า อิสเคนดูรัน และดอร์ตยอล ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

ส่วนเส้นทางขนน้ำมันเถื่อนสายที่ 2 มาจากเมืองเดียร์ เอซ ซอร์ ในซีเรีย มุ่งตรงสู่ชายแดนซีเรีย ข้ามด่านผ่านแดนอัล-คามิชลี ซึ่งรถบรรทุกน้ำมันดิบจะนำน้ำมันไปเข้าโรงกลั่นที่เมืองบัตมาน ในตุรกี และเส้นทางที่ 3 จะนำน้ำมันจากภาคตะวันออกของซีเรียและภาคตะวันตกของอิรัก ไปยังบริเวณพื้นที่ตรงมุมทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี

*ทำไมไม่มีใคร ถามว่าลูกชายประธานาธิบดีตุรกีทำงานอะไร?

นายแอนโทนอฟ รมช.กลาโหมรัสเซีย ยังตั้งคำถามเจ็บๆ กับชาติตะวันตกและสหรัฐฯ ที่สนับสนุนรัฐบาลตุรกีว่า ทำไมไม่มีใครในชาติตะวันตก ถามคำถามเกี่ยวกับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบุตรชายของประธานาธิบดีเออร์โดกันเลย ขณะที่ลูกชายของนายเออร์โดกัน นั่งเก้าอี้ผู้บริหารบริษัทน้ำมันรายใหญ่ในตุรกี หรือไม่มีใครถามว่า ลูกเขยของประธานาธิบดีเออร์โดกัน ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน ซึ่งเป็นครอบครัวนักธุรกิจที่ประหลาดมาก !!

*บีบีซี เผย ไอซิสยึดบ่อน้ำมันในซีเรียได้ถึง 1 ใน 3

การลักลอบนำน้ำมันดิบ และน้ำมันปิโตรเลียมจากซีเรียเข้าไปยังตุรกีได้ดำเนินอย่างต่อเนื่องมาหลายสิบปีแล้ว ทว่านับตั้งแต่ เกิดสงครามกลางเมืองในซีเรีย และกลุ่มไอซิสได้ยึดเมืองหลายเมืองในอิรักและซีเรียได้เมื่อปี 2557 ทำให้สามารถยึดบ่อน้ำมันและโรงกลั่นน้ำมัน บริเวณหุบเขาตามริมฝั่งแม่น้ำยูเฟรตีส จึงทำให้ไอซิส ยึดครองบ่อน้ำมันในซีเรียได้ถึงประมาณ 1 ใน 3

บีบีซี ระบุว่า ช่วงกลางปี 2558 บ่อน้ำมันที่ไอซิสยึดครองได้สามารถผลิตน้ำมันได้ถึงวันละ 30,000-40,000 บาร์เรล จากนั้นก็จะนำน้ำมันดิบไปขายให้กับคู่ค้า ซึ่งจะส่งน้ำมันดิบไปกลั่นตามโรงกลั่นที่ตั้งขึ้นในเขตพื้นที่ที่ไอซิสยึดครองอยู่ โดยต่อมา น้ำมันเบนซินและดีเซล จากโรงกลั่นจะส่งไปขายทั่วซีเรีย และอิรัก ขณะเดียวกันก็จะมีการลักลอบส่งน้ำมันเถื่อนข้ามชายแดนไปขายในตุรกีเป็นส่วนใหญ่

*ทุกคนที่เกี่ยวข้องในกระบวนการขายน้ำมันเถื่อน รวยอื้อซ่า

ไอซิสได้กำไรจากการขายน้ำมันดิบหัวหลุมผลิตน้ำมัน และกำไรจากการขายให้กับซัพพลายเออร์ต่อๆ กันไป เพียงแต่กำไรจากการขายน้ำมันดิบของไอซิส ต้องตกต่ำฮวบฮาบ หลังจากราคาน้ำมันโลกร่วงหนักเมื่อเดือนตุลาคม 2557

ตอนช่วงกลางปี 2557 น้ำมันดิบที่ซื้อจากหัวหลุมเจาะน้ำมัน จะตกราคา 20-25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเท่านั้น แต่ไปสิ้นสุดกระบวนการขายในตุรกี ในราคาต่ำกว่าราคาน้ำมันในตลาดโลก ที่แพงกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จึงสร้างรายได้มหาศาลให้แก่ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการขายน้ำมันดิบจากไอซิส

*สหรัฐฯ ป้อง ตุรกี ยันข้อกล่าวหารัสเซีย ไม่เป็นความจริง

อย่างไรก็ตาม หลังจากกระทรวงกลาโหมรัสเซีย นำหลักฐานภาพถ่ายดาวเทียม ตุรกีแอบซื้อน้ำมันเถื่อนจากไอซิสมาโชว์ต่อเจ้าหน้าที่กองทัพและนักข่าวแล้ว ไม่นานจากนั้น โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ออกมาปกป้องประธานาธิบดีเออร์โดกันทันที โดยชี้ว่า ไม่มีหลักฐานใดๆ ที่สนับสนุนข้อกล่าวหาดังกล่าวของทางการรัสเซีย

เรียกว่า ในฐานะเป็นพันธมิตรกับตุรกีแล้ว รัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาปกป้องช่วยประธานาธิบดีเออร์โดกันอย่างเต็มที่ ขณะที่ผู้นำตุรกีก็ยืนยันมาตลอดว่า รัฐบาลตุรกีกำลังดำเนินการป้องกันการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อน พร้อมทั้งยังท้าทุกคนที่กล่าวหารัฐบาลของตน แอบซื้อน้ำมันเถื่อนจากไอซิสให้นำหลักฐานมาพิสูจน์

เพียงแต่ หลังจากกระทรวงกลาโหมรัสเซีย โชว์ภาพถ่ายจากดาวเทียมต่อสายตาชาวโลกไปแล้ว รัฐบาลตุรกียังเงียบเฉย ไม่ได้ออกมาตอบโต้ใดๆ หรืออาจเป็นไปได้ว่า กำลังรวบรวมหลักฐานมาหักล้างข้อกล่าวหาอันฉกาจฉกรรจ์ ที่ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศตุรกีอย่างร้ายแรง.