แหวกปีก นางฟ้าโซเชียลฯ ยูริ อดีต! หนี้สินท่วมหัว ก่อนสยายปีกแบบสตรอง
จัดจ้านสุดๆ กับความแซ่บของเลดี้ช็อคกิ้งพิ้งค์ตัวแม่ในโลกโซเชียลฯ ที่เหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทั่วประเทศต่างหลงรักในความเฟรนลี่ของสาว ฮอตเมืองลพบุรี ยูริ ศินรินทร์ นาคแก้ว เจ้าของเฟสบุ๊ค Sinarin Nakkaeo ที่ มียอดคนติดตามเกือบเจ็ดแสนคน มากกว่าเหล่าบรรดาซุปตาร์ และเน็ตไอดอลดังๆ ในวงการซะอีก หลายๆ คนที่คลิกเข้าไปดูในเฟสบุ๊คของเธอ มักจะมีคำถามในใจเสมอว่า ชีวิตดี๊ดีสีชมพูของเธอมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ทำไมถึงลั้ลล้าแฮปปี้มีความสุข ทั้งๆ ที่ต้องแบกรับภาระกับการเป็นบอสใหญ่ ที่ต้องดูแลลูกทีมหลายหมื่นชีวิต ซึ่งครั้งนี้จะเป็นการเปิดเผยเรื่องราวชีวิตแบบสตรองของ นางฟ้าโซเชียลยูริ ที่กว่าเธอจะโบยบินมาถึงทุกวันนี้ได้ ชีวิตลูกผู้หญิงคนหนึ่งต้องฝ่ามรสุมลูกใหญ่แบบนับครั้งไม่ถ้วน แต่สิ่งที่คุ้มครองตัวเธอ นั้นก็คือความกตัญญู อดทน คิดบวก จริงใจ ซื่อสัตย์ กับทุกๆ คน
“ส่วนใหญ่หลายๆ คนจะเห็น ยูริ ในหน้าจอทีวีมากกว่า ทุกๆ คนจะคิดว่าชีวิตยูริ ดูดี เพอร์เฟ็กซ์ บอก เลยว่าอย่าตัดสินยูริที่ภายนอก หรือที่ปัจจุบัน เพราะตัวยูริก็เคยมีช่วงเวลาที่ย่ำแย่ที่สุดในชีวิตเหมือนกัน ทุกๆ อย่างในชีวิตของยูริ ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองมาตลอด พื้นเพยูริเกิดที่ จ.นครศรีธรรมราช พ่อกับแม่ก็เลิกกันตั้งแต่ 3 ขวบ พ่อก็เลยพามาอยู่ที่ จ. ลพบุรี กับปู่-ย่า พ่อรับราชการทหาร แม่ก็เป็นแม่ค้า สมัยเรียนเราเป็นคนที่แรงมาก คิดอะไรสั้นๆ มีเรื่องตบตีเข้าห้องปกครองเป็นประจำ โดนดูถูกสารพัด ยิ่งคนแถวบ้านไม่มีใครอยากยุ่งกับเรา เพราะเขาคิดว่าเราเป็นเด็กไม่มีพ่อแม่อบรมสั่งสอน เป็นเด็กใจแตก แต่สิ่งที่ทำเราให้เปลี่ยนไปเลยคือในช่วงจบ ม. 6 คุณพ่อเสียเพราะเป็นมะเร็ง แต่เราไม่ได้อยู่ดูใจ แล้วเราเป็นเด็กที่มีปัญหากับพ่อบ่อยมาก พ่อเขาพูดเลยนะว่า เราไม่อยู่เห็นเขาตายหรอก แล้วก็จริงๆ ตอนที่เขานอนป่วย เราก็รู้นะว่าพ่อนอนที่โรงพยาบาล ไปเฝ้าบ้าง ไม่เฝ้าบ้าง มาโรงพยาบาลอีกทีเขาก็เสียแล้ว เป็นอีกหนึ่งเรื่องในชีวิตที่เสียใจที่สุด
พอเรียนมหาวิทยาลัย ก็หางานพิเศษทำด้วยการไปเป็นพนักงานร้านกาแฟ ทำงานทุกๆ อย่างภายในร้านแลกกับเงินรายวัน พอ เรียนจบปริญญาตรี ก็ไปเป็นพนักงานคลินิกเสริมความงาม สตาร์ทเงินเดือนที่ 4,500 บาท แต่ก็มีค่าคอมฯ ให้ แต่เราต้องทำทุกๆ อย่างในคลินิก เช็คกระจก ถูพื้น ล้างห้องน้ำ ได้เงินจริงๆ ก็ 9,000 กว่าบาท แล้วด้วยความที่ เราขยัน ก็ได้ขึ้นมาเป็นผู้จัดการร้าน ก็มีคนอิจฉาเอาเราไปนินทาว่าศักยภาพเราไม่ดีพอ มันก็ยิ่งเป็นแรงพลักดันให้เราต้องสู้ จนได้มาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม ทำงานควบคู่ไปกับคุณหมอ และได้มาเป็นผู้จัดการภาค เราดูแลในโซน ภาคกลาง ภาคเหนือ แต่ต้องขับรถไปทุกๆ จังหวัด เงินเดือนเต็มที่ก็ประมาณ 2-3 หมื่น ช่วงนั้นพวกบัตรเครดิตก็เข้ามาเพียบ เราก็ใช้อย่างมันมือมาก รูดซื้อของสนั่นหวั่นไหว สุดท้ายกลายเป็นหนี้บัตรเครดิตเกือบๆ ล้าน
ตอนนั้นหมดอาลัยตายยากมาก แฟนก็ต้องขายทุกๆ อย่างมาใช้หนี้แต่ก็ไม่พอ เหมือนเราสองคนต้องเริ่มนับศูนย์ใหม่เลย จากที่ทำงานเก็บเงินได้ ช่วงนั้นก็เริ่มหารายได้เสริม ด้วยการเริ่มไปรับครีม อาหารเสริม คอลลาเจน มาขาย ตอนนั้นก็ยังทำงานอยู่ที่คลินิกเสริมความงาม แล้วเราต้องเข้างาน 10 โมงเช้า เลิก 2 ทุ่ม ไหนจะต้องคุยกับลูกค้าที่ออเดอร์มาถึงตีสองตีสาม ชีวิตเป็นแบบนี้เกือบทุกวัน แล้วเราต้องตื่น 9 โมงเช้า จะตอบ จะคุยกับลูกค้าในที่ทำงานก็ไม่ได้ เคยโดนปิด เฟสบุ๊คช่วงที่รับของมาขาย เพราะไปแท็คเพิ่มเพื่อนเขา โดนประมาณ 5-6 รอบ จากนั้นยูริเลยติดสินใจทำแบรนด์เอง แล้วด้วยความที่เราพอมีความรู้เรื่องผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เพราะทำงานที่คลินิกมาก่อน ซึ่งผลตอบรับก็ดีมาก และคิดว่าแบรนด์เราจะต้องโตให้ได้ เลยตัดสินใจลาออก หันมาโฟกัสที่การทำแบรนด์อย่างจริงจังในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แล้วไปพัฒนาสินค้าตัวอื่นๆ จนได้มาตรฐานจาก บริษัทอังกฤษตรางู ทุกวันนี้ทีมยูริใหญ่มาก สตรองมาก ทุกๆ คน เป็นเหมือนคนในครอบครัว ที่ต้องเดินไปพร้อมๆ ด้วยกัน
บาง คนคิดว่าทุกวันนี้ตัวยูริสบาย แต่ที่ผ่านมาตัวเราเอง ก็เคยยืนอยู่ในจุดที่หลายๆ คนยืนมาก่อน ลำบากแค่ไหน แต่ก็ต้องอดทน เวลานี้เราขึ้นมาสูงก็จริง แต่เราก็มองลงมาเสมอ เราไม่เคยลืมตัวเอง เรามีสติอยู่ตลอด ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว แต่เราไม่กลัว เพราะเรายังมีลูกทีมที่ต้องดูแล และเราก็ต้องทำให้ทุกๆ คนมั่นใจ ว่าเราสามารถอยู่กับเขาไปได้ตลอด และสิ่งที่เราได้กลับมา มันไม่ใช่เรื่องของเงินทอง หรือความร่ำรวยอย่างเดียว แต่เราได้เห็นภาพของความกตัญญู ความอดทน การคิดบวก ความจริงใจ ความซื่อสัตย์ และการมีสติ ของใครหลายๆ คน ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันจะทำให้เราประสบผลสำเร็จในชีวิตอย่างแน่นอนค่ะ
ขอบคุณเรื่องราวดีๆ แง่คิดงามๆ และติดตามความความแซ่บของยูริเลดี้ช็อคกิ้งพิ้งค์ตัวแม่ในโลกโซเชียลฯ ได้ทางเฟสบุ๊ค Sinarin Nakkaeo