เสียงเล็กๆ ที่ทรงพลัง เด็กไทยในเวทีโลก One Young World 2015 ช่วยคนไร้สัญชาติ

19 พฤศจิกายน 2558 (17:18) โพสท์โดย นู๋น้อยในยอดหญ้า

ท่ามกลางวงประชุมสุดยอดเวทีโลก รวมผู้นำเยาวชนจากประเทศต่างๆ เกือบ 200 ประเทศ ในงาน One Young World BKK2015 เยาวชนจากประเทศไทย ได้สร้างความฮือฮาและเสียงปรบมือจากทั้งผู้ร่วมเข้าประชุมด้วยกันเอง และรวมถึงสุดยอดคนระดับโลก ที่มาร่วมงาน

กมลนันท์ เจียรวนนท์ เด็กสาวในวัย 19 ปี ที่ถือว่าเป็นผู้เข้าร่วมประชุมที่จัดอยู่ในกลุ่มที่อายุน้อยที่สุดคนหนึ่ง ได้ก้าวขึ้นเวที One Young World BKK2015 ในประเด็นของเรื่องสิทธิมนุษยชน เธอบอกเล่าประสบการณ์อันน่าทึ่งตั้งแต่เธออายุ 14 ปี และได้มีโอกาสลงพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า และได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอเรียกหล่อนว่า "Sunshine" เพราะรอยยิ้มอันสดใสและมีพลังของหล่อน

กมลนันท์เล่าต่อไปว่า ซันไชน์เป็นหญิงที่ถูกทารุณกรรมทางเพศ ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ตกเป็นเหยื่อโดยสิ้นเชิงจากทั้ง พี่ชาย คู่รัก ตลอดจนทหารที่อยูบริเวณชายแดน คนเหล่านี้ข่มขืนเธอ ทั้งๆ ที่ทหารควรจะเป็นผู้ที่ปกป้องสวัสดิภาพของหล่อน

"ซันไซน์มีลูกสองคน เป็นเด็กที่เกิดจากการข่มขืน เธออยู่กับคนรักที่ตบตีเธอ ตอนนี้ฉันก็ถามเขาแบบความคิดของเด็กอายุ 14 ในช่วงเวลาที่ได้พบกับซันไชน์ ว่าเธอรักคนรักของเธอไหม ทั้งที่เธอถูกทุบตีเช่นนี้ ซันไชน์บอกว่า เธอรักเขา เพราะการถูกทุบตี ดีกว่าการถูกข่มขืน นี่คือรูปแบบความรักของซันไชน์ นี่คือชะตากรรมของสตรีไร้สัญชาติที่ต้องเผชิญ"

ตัวแทนจากประเทศไทยกล่าวต่อว่า หลังจากกลับมาจากชายแดนพม่า เรื่องของซันไชน์ทำให้เธอเกิดพลังและแรงบันดาลใจในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ เธอและเพื่อสนิทก่อตั้งหน่วยงานไม่แสวงหาผลกำไรชื่อ Voice เพื่อช่วยเหลือสตรีที่ถูกทำร้าย ข่มขืน ทารุณกรรม และค้ามนุษย์ โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายไปที่คนไร้สัญชาติ โดยช่วยเหลือในรูปแบบของการระดมทุนบริจาคเงิน และติดต่อบริษัทยา ซื้อยาและส่งเข้าไปในพื้นที่เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการรักษา ทั้งยังได้ช่วยเหลือในเรื่องกฎหมายอีกด้วย

"แม้เราจะภูมิใจในสิ่งที่ทำ แต่มันก็น้อยนิดเหลือเกิน หากเทียบกับปัญหาที่มี ปัญหาคนไร้สัญชาติทำให้เราพบกับเพดานของความเปราะบาง เชื้อชาติทำให้ก่อเกิดความรู้สึก พวกเขา - พวกเรา คนเหล่านี้ต้องเผชิญกับชะตากรรมการค้ามนุษย์ ทารุณกรรม ข่มขืน ละเมินทางเพศ ความปลอดภัย สวัสดิภาพของชีวิต การถูกทำร้าย สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาของรัฐบาลเท่านั้น แต่มันเป็นปัญหาของทุกคน รัฐบาลต้องออกกฎหมายและมีนโยบายเพื่อดูแล ในขณะที่ภาคเอกชนและประชาชนก็ต้องใช้พลังและอำนาจที่มีเพื่อหยิบยื่นโอกาสให้พวกเขา"

กมลนันท์เล่าว่า ไม่นานนักหลังจากนั้น เธอได้ข่าวว่า ซันไชน์ถูกจับ เธอพยายามติดตามหาตัว เธอไม่รู้จักชื่อจริงของหญิงเคราะห์ร้าย เพราะหล่อนไม่มีสัญชาติ ไม่มีการยืนยันตัวตน ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง กมลนันท์สืบหาตามฐานข้อมูลคนไร้สัญชาติอยู่นานกว่าจะพบ และทราบว่าซันไชน์ถูกคุมขังอยู่ในคุกพม่า และไม่มีโอกาสได้พบลูกทั้งสอง

"เราไม่รู้จักชื่อจริงของเธอ ใช้เวลาสืบหาค่อนข้างนาน จึงพบว่าเธออยู่ในคุก ไม่ได้พบลูกของเธอ เราทุกคนในที่นี้ มีชื่อของตัวเอง มีธงของตัวเอง ธงของประเทศแผ่นดินเกิดที่เราสามารถยกขึ้นโบกด้วยความภาคภูมิใจ แต่ซันไชน์ล่ะ? เธอจะมีโอกาสที่จะมีชื่อจริง นามสกุล มีธงของตัวเอง เพื่อโบกสะบัดอย่างภาคภูมิใจหรือไม่"

กมลนันท์จบประโยคด้วยใบหน้าที่เปื้อนน้ำตา ส่งคำถามไปยังโลกที่เจริญแล้ว ท่ามกลางการลุกขึ้นยืนปรบมือจากทุกคนในฮอลล์อย่างยาวนาน นี่คืออีกหนึ่งเด็กไทยในเวทีโลก

อย่างไรก็ตาม เมื่อจบการปาฐกถาบนเวทีแล้ว กมลนันท์ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากเริ่มทำงานกิจกรรมเชิงสังคมมาตั้งแต่อายุ 14 เบื้องต้นเธอสนใจอยากแก้ปัญหาการทำร้ายสตรีและเด็ก แต่เมื่อลงลึก ทำให้ทราบว่า ปัญหาการทำร้ายเหล่านี้ เป็นต้นตอหนึ่งของการข่มขืนและทารุณกรรมทางเพศ จึงอยากเป็นอีกหนึ่งแรงที่เข้าไปช่วยเหลือ โดยในปีที่แล้ว มีโอกาสไปประชุม One Young World ที่ดับบลิน ก็ลุ้นว่าปีนี้จะจัดที่ประเทศไทยไหม แล้วจะทำได้ดีไหม ผลก็คือทำออกมาดีมาก รู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจในประเทศตัวเองที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน

"หนูกับเพื่อนก่อตั้งองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ตอนแรกเพื่อช่วยเด็กที่ถูกทารุณ ดูแลเขาให้ได้รับความอบอุ่น ไม่ให้โตมาแล้วมีพฤติกรรมเหมือนพ่อแม่ แต่ที่ให้ความช่วยเหลือ ทั้งการระดมทุน ทั้งอาสาสมัคร หรือการส่งความช่วยเหลือทางเวชภัณฑ์ นั้นยังไม่พอ สิ่งที่เราต้องช่วยให้เกิดก็คือ การลดทิษฐิของมนุษย์ด้วยกัน คนไร้สัญชาติไม่มีประเทศของตัวเอง ไม่มีประเทศที่จากมา และไม่มีประเทศที่จะไปได้ คนพวกนี้จะถูกคนที่มีประเทศแบ่งแยกว่าไม่ใช่พวกเรา ไม่มีแท้กระทั่งชื่อ ประเทศอื่นๆ ไม่กล้ารับดูแล เพราะไม่สามารถเช็คอดีตหรือประวัติอาชญากรรม คนกลุ่มนี้ขาดทุกอย่าง ขาดโอกาสและการเข้าถึงการรักษา การศึกษา การมีชีวิตที่ดี จริงๆ เรามีกฎหมายที่ดี แต่เราต้องบังคับใช้มันด้วย"

กมลนันท์ทิ้งท้ายด้วยว่า ไม่นึกว่าจะได้เสียงปรบมือขนาดนี้หลังการกล่าวปาฐกถา เพราะจริงๆ แล้ว สำหรับเธอ ผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ เป็นเสมือนรุ่นพี่และเป็นฮีโร่ของเธอทุกคน

ที่มา: http://news.truelife.com/detail/3344861
เครดิต: http://news.truelife.com/detail/3344861

Tags one yong world 2015 true ทรู ซีพี เจียรวนนท์ ศุภขัย เจียรวนนท์ กมลนันท์ เจียรวนนท์ ธนินทร์ เจียรวนนท์

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม