ประยุทธ์เสนอรธน.จัดหนักคนโกง
หัวหน้า คสช.เสนอความเห็นต่อ "กรธ." ร่างรัฐธรรมนูญต้องใช้ภาษาชัดเจน ไม่กำกวม ไม่ยืดยาวเกินไป ต้องมีความยืดหยุ่นเพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์และป้องกันการรัฐประหาร ชงลงโทษผู้ทุจริตคอร์รัปชันต้องเด็ดขาด-รุนแรง ขณะที่โฆษก กรธ.แถลงย้ำ ส.ว.อาจไม่มีเลือกตั้งโดยตรง เพราะไม่มีอำนาจถอดถอน พิลึก! กมธ.วิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศเสนอห้ามนักการเมืองเซ็นจัดซื้อจัดจ้าง แต่ถูกจวกยับหวั่นข้าราชการกลายเป็นแพะรับบาปแทน
เมื่อวันพุธ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่คสช./491 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน เรื่องขอความร่วมมือแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ ถึงนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)
หนังสือดังกล่าวระบุว่า ตามที่คณะ กรธ.ได้มีหนังสือถึงหัวหน้า คสช. เพื่อขอรับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับหลักการที่สมควรบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ เพื่อที่คณะ กรธ.จะได้นำไปประกอบการพิจารณายกร่างรัฐธรรมนูญต่อไป คสช.พิจารณาแล้วมีความเห็นดังนี้ ต้องมีบทบัญญัติที่สำคัญอย่างครบถ้วนมีข้อความชัดเจนแน่นอน เพื่อจะให้เกิดความเข้าใจในทุกเนื้อหาสาระได้ง่าย ไม่ใช้ถ้อยคำที่กำกวม ซึ่งล่อแหลมต่อการตีความผิดๆ จะต้องใช้ถ้อยคำที่เลือกสรรมาแล้วว่ามีความหมายที่แน่นอนและชัดเจนที่สุด คำหรือข้อความที่มีความหมายหลากหลายแง่มุมหรือกำกวม ซึ่งอาจทำให้เข้าใจไปได้หลายกรณี ไม่ควรนำมาใช้ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ
หนังสือดังกล่าวระบุต่อว่า รัฐธรรมนูญไม่ควรยาวเกินไป ควรบัญญัติเฉพาะหลักการจัดรูปแบบการปกครองของรัฐที่สำคัญและจำเป็นเท่านั้น รัฐธรรมนูญที่บัญญัติยืดยาว มีรายละเอียดมากเกินไป จะทำให้การตีความยุ่งยากมากขึ้น และจะไม่ได้รับความเคารพเท่าที่ควร เพราะบทบัญญัติซึ่งมีรายละเอียดฟุ่มเฟือยเกินไป อาจไม่เหมาะสมกับสถานการณ์หรือกาลสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงไป จะทำให้เกิดมีการแก้ไขบ่อยจนเกินไปจนทำให้ดูเสมือนหนึ่งเป็นกฎหมายลูกหรือกฎหมายลำดับรองอื่นๆ
สำหรับรายละเอียดปลีกย่อยของการปกครองประเทศหรือกฎหมายย่อยในส่วนอื่นๆ นั้น ควรเป็นหน้าที่ขององค์กรฝ่ายนิติบัญญัติจะออกกฎหมายที่มิใช่เรื่องที่ควรบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญจะต้องไม่สั้นเกินไปจนขาดสาระสำคัญในความเป็นกฎหมายรัฐธรรมนูญ
"ควรมีกำหนดวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามกฎหมายขึ้นไว้ เพราะรัฐธรรมนูญที่ดีต้องมีความยืดหยุ่นเหมาะสมกับกาลสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงไป การที่มีวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามกฎหมายนั้น เพื่อป้องกันการล้มล้างหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญใช้กำลัง อันไม่เป็นที่นิยมของกลุ่มนานาอารยประเทศที่มีความเป็นประชาธิปไตยสูง โดยเฉพาะการปฏิวัติและรัฐประหาร" หนังสือระบุ
หัวหน้า คสช.ได้เสนอความเห็นต่อการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญอีกว่า บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญควรจะต้องครอบคลุมในหลักการที่สำคัญของกระบวนการการเมืองการปกครอง เช่น บัญญัติรับรองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนตามหลักนิติรัฐ บัญญัติถึงการมีส่วนร่วมของประชาชน ที่เหมาะสมสอดคล้องกับหลักการปกครองของระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และเหมาะสมสอดคล้องกับวัฒนธรรม ประเพณี ความรู้ ความสามารถทางการเมืองของประชาชนเป็นสำคัญ บัญญัติถึงสถาบันทางการเมือง ที่มาของสถาบันเหล่านั้น อำนาจหน้าที่ความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันการเมือง กระบวนการสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ของสถาบันการเมือง
รวมถึงกระบวนการใช้อำนาจตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการเมืองของสถาบันต่างๆ อย่างรัดกุม ป้องกันมิให้มีการบิดเบือนหลักการและกฎเกณฑ์ที่ถูกต้อง เพราะจะทำให้เกิดวิกฤติทางการเมืองและอาจเป็นหนทางนำไปสู่การแก้วิกฤติการเมืองด้วยวิธีการนอกระบบ
สร้างพลเมืองให้เป็นใหญ่
การมีส่วนร่วมในทางการเมืองของประชาชนจะต้องสร้างพลเมืองให้เป็นใหญ่ในประเทศอย่างแท้จริงในฐานะผู้เป็นเจ้าของอำนาจสูงสุดในการปกครองในการที่จะเปลี่ยนแปลงรัฐบาลที่ใช้อำนาจปกครองโดยไม่ถูกต้องชอบธรรม หรือรัฐบาลที่ปฏิเสธหรือเป็นปฏิปักษ์ต่อมวลมหาประชาชน โดยไม่ทำให้ประชาชนมีความสำคัญแต่เฉพาะก่อนหรือขณะเลือกตั้งเท่านั้น ภายหลังการเลือกตั้งไปแล้ว ประชาชนยังคงต้องมีบทบาทที่สำคัญกว่านักการเมืองผู้ที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามา โดยรัฐมีหน้าที่สนับสนุนในการสร้างและพัฒนาพลเมืองให้มีความรู้ และความรับผิดชอบทางการเมือง
"เนื่องจากปัญหาวิกฤติหรือข้อขัดแย้งทางการเมืองย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ และรัฐธรรมนูญอาจเกิดภาวะทางตัน ดังนั้นการร่างรัฐธรรมนูญควรบัญญัติช่องทางเผื่อกาลในอนาคตในการผ่าทางตันเพื่อรองรับสถานการณ์ไว้ด้วย โดยเฉพาะการเกิดปัญหาสุญญากาศทั้งด้านนิติบัญญัติ บริหารและตุลาการ เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินสามารถดำเนินการต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง"
หัวหน้า คสช.ระบุต่อว่า แนวนโยบายด้านความมั่นคงของรัฐยังคงต้องบัญญัติให้รัฐต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย และบูรณภาพแห่งเขตอำนาจรัฐ และต้องจัดให้มีกำลังทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย จำเป็น และเพียงพอ เพื่อพิทักษ์รักษาเอกราช อธิปไตย ความมั่นคงของรัฐ สถาบันพระมหากษัตริย์ ผลประโยชน์แห่งชาติ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเพื่อการพัฒนาประเทศ การใช้กำลังทหารโดยสุจริตเพื่อความมั่นคงของรัฐจากภัยที่มีมาจากภายในและนอกราชอาณาจักร ไม่ต้องรับโทษทางแพ่ง ทางอาญา และทางปกครอง
"ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยเฉพาะทหารจะต้องมีสิทธิเสรีภาพในทุกๆ ด้าน เช่นเดียวกับประชาชนโดยทั่วไป ไม่ควรถูกจำกัดหรือลิดรอนสิทธิเสรีภาพ แม้กระทั่งสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง ด้วยเหตุแห่งอาชีพในการเป็นข้าราชการทหาร
ควรกำหนดให้การดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีมีวาระ 4 ปี และจะดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 2 วาระ เพื่อป้องกันการผูกขาดหรือเผด็จการทางการเมือง และสอดคล้องกับการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในระบอบประชาธิปไตยของอารยประเทศ
ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันจะต้องได้รับการต่อต้านและขจัดไปจากชาติ โดยผู้กระทำความผิดจะต้องถูกลงโทษอย่างหนัก เฉียบขาดและรุนแรง เป็นค่านิยมที่จะต้องถูกบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญเพื่อให้ประชาชนและข้าราชการเกิดความสำนึกที่ดีต่อประเทศชาติ" หนังสือระบุ
กรธ.เล็งเลิกสว.เลือกตั้ง
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ โฆษก กรธ. แถลงความคืบหน้าการประชุม กรธ.ว่า ได้พิจารณาหลักการของการร่างบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ หมวดศาล ในส่วนที่เกี่ยวกับบททั่วไปและศาลยุติธรรม สรุปสาระสำคัญ ดังนี้ ในส่วนของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หากมีความผิดเกี่ยวกับคดีอาญาในระหว่างการดำรงตำแหน่ง ก็ให้ส่งฟ้องไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาจะเลือกผู้พิพากษา จำนวน 9 คน มาเป็นองค์คณะ เพื่อมาตัดสินคดี โดยจะเปิดโอกาสให้จำเลยอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน แต่ต้องมีประเด็นข้อกฎหมายใหม่ มีข้อเท็จจริงใหม่ที่สามารถเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของมูลคดี ในส่วนของการพิจารณาโครงสร้างคณะกรรมการตุลาการยุติธรรม (ก.ต.) ที่ประชุมไม่ได้กำหนดรายละเอียด เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ศาลจะต้องไปกำหนดกันเอง
นายชาติชายกล่าวว่า ในส่วนของที่มาและจำนวนของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยมีอยู่ 3 แนวทาง คือ การสรรหา การเลือกตั้งทางอ้อม และการเลือกตั้งโดยตรง ซึ่งในส่วนของการเลือกตั้งโดยตรง ที่ประชุม กรธ.เห็นว่าคงเป็นแนวทางสุดท้ายที่จะเลือก เพราะหากให้ ส.ว.มีการเลือกตั้งโดยตรง จะมีที่มาไม่ต่างจาก ส.ส. อีกทั้งในเรื่องของอำนาจของส.ว.นั้น กรธ.จะไม่ให้มีการถอดถอนทั้งในส่วนของนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง และบุคคลในองค์กรอิสระ โดยจะให้อำนาจการถอดถอนไปอยู่ที่ศาลแทน
"อำนาจของ ส.ว.ยังคงมีอำนาจในการกลั่นกรองกฎหมาย รวมถึงเห็นชอบในการแต่งตั้งองค์กรอิสระตามเดิม อย่างไรก็ตาม ประเด็นเรื่องที่มา ส.ว. ที่ กรธ.ใช้เวลาพิจารณาค่อนข้างนาน เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและซับซ้อน" นายชาติชายกล่าว
ที่รัฐสภา ยังมีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ มีนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ เป็นประธาน ภายหลังการประชุม นายวรวิทย์ ศรีอนันตรักษา โฆษก กมธ.วิสามัญฯ กล่าวว่า ที่ประชุมได้กำหนดกรอบการทำงาน ประเด็นขับเคลื่อนที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในภายใน 30 วัน หรือวันที่ 17 ธ.ค. ซึ่งจะต้องมีการประสานกับแม่น้ำ 5 สาย โดยจะนำวาระที่สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เคยศึกษา 3 ด้าน ได้แก่ 1.การปลูกฝัง 2.การป้องกัน และ 3.การปราบปราม มาพิจารณาว่าจะพิจารณาเรื่องใดเป็นเรื่องเร่งด่วน ภายใต้สโลแกน “รวด เร็ว รุนแรง และเด็ดขาด”
นายวรวิทย์กล่าวต่อว่า ในการประชุมมีสมาชิกเสนอหลายเรื่อง อาทิ การปลูกฝัง เห็นว่าจะทำเพียงตำราอย่างเดียวไม่เพียงพอ จะต้องอบรมบ่มนิสัยด้วย การปรับปรุงองค์กรอิสระ การปฏิรูปการจัดซื้อจัดจ้าง โดยเฉพาะการทำให้ข้าราชการพ้นจากอิทธิพลของนักการเมือง มีผู้เสนอว่า ต่อไปนี้ไม่ให้รัฐมนตรีเป็นผู้เซ็นอนุมัติจัดซื้อจัดจ้าง จะให้ข้าราชการเป็นผู้เซ็นจัดซื้อจัดจ้างเพียงผู้เดียว แต่มีเสียงคัดค้าน เกรงว่าข้าราชการจะกลายเป็นแพะรับผิดเพียงฝ่ายเดียว จึงยังไม่ได้ข้อสรุปต้องหารือกันอีกครั้งในการประชุมครั้งหน้า
เสนอขจัดนายทุนพรรค
นายวันชัย สอนศิริ โฆษกกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง กล่าวหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่าการปฏิรูปการเมืองที่สำคัญที่สุดคือรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นการวางโครงสร้างประเทศ ดังนั้นการทำงานของคณะกรรมาธิการฯ จึงต้องประสานภายในกับ กรธ. เพื่อขอนำประเด็นสำคัญเข้าสู่การพิจารณาของ กรธ. และบรรจุไว้ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เบื้องต้นที่ประชุมเห็นพ้องว่าให้พรรคการเมืองเป็นของประชาชน ไม่ผูกขาดอำนาจโดยนายทุน และให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุดด้วยการเสียค่าสมาชิกรายปีให้กับพรรคการเมืองด้วย
นายวันชัยบอกว่า นอกจากนี้ ในประเด็นที่มา ส.ส. มีแนวโน้มว่าอาจกำหนดให้มี ส.ส.จำนวน 400 คนมาจากการเลือกตั้งระบบเขตอย่างเดียว เนื่องจากระบบบัญชีรายชื่อเป็นการเปิดโอกาสให้มีนายทุนสอดแทรกเข้ามาโดยไม่ยึดโยงกับประชาชน รวมทั้งอาจให้เป็นระบบเลือกตั้งแบบวันแมนวันโหวต อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้แขวนประเด็นระบบเขตเลือกตั้งไว้ก่อน
เขาบอกว่า บรรยากาศในห้องประชุมเป็นไปอย่างดุเดือด แต่ละประเด็นใช้เวลาถกเถียงกันค่อนข้างมาก จึงต้องใช้วิธีการโหวตหาข้อยุติ ซึ่ง กมธ.เสียงข้างน้อยที่ส่วนใหญ่เป็นสัดส่วนพรรคการเมืองได้ขอให้ที่ประชุมบันทึกไว้อย่างละเอียด แต่ทั้งหมดยังคงเป็นเพียงผลเบื้องต้นที่ยังไม่ได้ข้อสรุป และน่าจะมีความชัดเจนออกมาในวันที่ 20 พ.ย.นี้ ตนจึงไม่อยากแถลงก่อน เพราะเกรงว่าอาจเพิ่มความขัดแย้งมากขึ้น พร้อมยอมรับด้วยว่า กมธ.การเมืองถือเป็นคณะเดียวใน 11 คณะ ที่ต้องประสานทุกประเด็นต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และ กรธ.ด้วย
ทางด้านนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯ และแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของ กรธ.ที่จะให้ ส.ว.ทั้ง 200 คนมาจากการแต่งตั้ง เพราะเป็นการย้อนยุคกลับไปเป็นแบบเดิม คือจะมีการวิ่งเต้นซื้อตำแหน่ง ส.ว. เพื่อเป็นเกียรติประวัติวงศ์ตระกูล ถึงแม้ต้องจ่ายเงิน 20-30 ล้าน และตนก็ไม่เห็นด้วยที่จะไปเอาตัวแทนมาจากกลุ่มวิชาชีพต่างๆ เพราะจะมีการอุปโลกน์กลุ่มตัวเองขึ้นมาแล้วเสนอตัวเข้ามา และพร้อมที่จะทำตามผู้มีพระคุณทุกประการ ขอเพียงตัวแทนจากกลุ่มตัวเองได้เป็น ส.ว. ประเทศไทยจึงก้าวข้ามไม่พ้นปัญหาเดิมๆ
“ท่านอาจารย์มีชัยผ่านประสบการณ์และรู้เห็นถึงปัญหาเหล่านี้มาโดยตลอด อยากถามอาจารย์มีชัยจริงๆ ว่าท่านไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงแนวคิดใหม่เพื่อให้คนไทยได้ออกมาใช้สิทธิ์ในการเลือกตัวแทนของเขาเป็น ส.ว. ที่ประชาชนได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริงเลยหรือ” นายสุรพงษ์กล่าว
นายสุรพงษ์กล่าวต่อว่า ขณะนี้จะเห็นว่ามีพวกที่ออกมาคัดค้านไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้ง ส.ว. เพราะคนพวกนี้รู้ตัวดีว่าถ้าไปลงเลือกตั้งจะไม่ได้รับเลือกตั้ง จึงมักจะกล่าวหาว่ามีการใช้เงินซื้อเสียง เป็นสภาผัวเมีย เป็นการพูดใส่ร้ายดูถูกเสียงของประชาชนที่เลือกตัวแทนเขามา จึงอยากฝากให้นายมีชัยทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อลบล้างข้อครหาต่างๆ และสร้างประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยหน้าใหม่ให้คนไทยด้วย ส.ว.ต้องมาจากการเลือกตั้งเท่านั้น เพราะ ส.ว.ลากตั้งทำอะไรไม่มีอิสระ เพราะบุญคุณต้องตอบแทน.