จวกละครต้มแดงสงสาร‘ปู’
เด็ก ปชป.สวนเพื่อไทย บิดเบือนหลักกฎหมายและข้อเท็จจริงคดีจำนำข้าว ชี้การทุจริตเกิดจากการบริหารที่ขาดหลักนิติธรรม "ยิ่งลักษณ์" ถือเป็นจนท.รัฐ เมื่อละเมิดต่อหน่วยงานรัฐก็ต้องรับผิดตามกฎหมาย อัด "ลูกโอ๊ค" ดรามาสร้างกระแสให้ประชาชนสงสาร "ปู" ด้าน "บิ๊กตู่" ขอบคุณนายกฯ ปาปัวนิวกินีหนุนสั่งซื้อข้าวจากไทย
นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกและคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเมื่อวันพุธ กรณีนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย แสดงความเห็นแย้งขั้นตอนกฎหมายการดำเนินคดีโครงการรับจำนำข้าวว่า ข้อโต้แย้งของนายวัฒนาเป็นการบิดเบือนหลักกฎหมายและเจตนารมณ์กฎหมายแทบทั้งสิ้น ดังนี้ 1.พ.ร.บ.ความรับผิดในทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 มีเจตนารมณ์คือ ควบคุมการทำละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ว่าจะทำละเมิดให้เกิดความเสียหายกับบุคคลภายนอกหรือเจ้าหน้าที่รัฐกระทำละเมิดต่อหน่วยงานของรัฐก็ต้องรับผิด ดังนั้นกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เมื่อกระทำละเมิดต่อหน่วยงานของรัฐ ทำความเสียหายให้กับงบประมาณแผ่นดิน ก็ต้องรับผิดตามหลักกฎหมายนี้
"การที่บอกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มีบุคคลภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นการบิดเบือนหลักกฎหมาย อยากให้นายวัฒนากลับไปศึกษามาตรา 10 ของ พ.ร.บ.ดังกล่าวให้ดี"
2.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ใช่คู่กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มีส่วนได้เสียตามกฎหมาย ไม่เป็นปฏิปักษ์กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะทุกกระบวนการในเรื่องโครงการรับจำนำข้าวเป็นกระบวนการที่เป็นไปตามครรลองของกฎหมาย มีเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ดำเนินการ มีกระบวนการยุติธรรม มีศาลในการดำเนินกระบวนการ ถ้าเป็นเช่นนายวัฒนากล่าวอ้างความเป็นปฏิปักษ์กับพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อบอกว่านี่คือกระบวนการที่ไม่ถูกต้องแสดงว่าคดีที่มีการทุจริตบริหารงานผิดพลาดของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยและพวกในเรื่องทุจริตก็ได้รับการยกเว้นใช่หรือไม่
3.นายวัฒนาเรียกร้องให้รัฐบาลเคารพหลักนิติธรรม แต่การทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวอย่าลืมว่าเกิดจากการบริหารงานที่ขาดหลักนิติธรรม คือการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย พล.อ.ประยุทธ์ดำเนินการตามกฎหมายนี้ คือหลักนิติธรรม รัฐบาลพรรคเพื่อไทยพูดถึงหลักนิติธรรมมากที่สุด แต่การกระทำเป็นการกระทำที่ละเมิดต่อหลักนิติธรรมมากที่สุดเช่นกัน หากนายวัฒนาไปศึกษาหลักนิติธรรมให้ดี ก็จะกระจ่างว่าพรรคเพื่อไทยกับพวกและนายวัฒนาต่างหากที่ไม่ผดุงไว้ซึ่งหลักนิติธรรม ไม่ยอมรับกระบวนการ ไม่เคารพกฎหมาย
“พรรคเพื่อไทยสลับหน้ากันออกมาบิดเบือนข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายทุกวัน เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นทุกคดีในโครงการรับจำนำข้าว เพื่อให้สังคมเข้าใจผิดว่าเป็นการกลั่นแกล้งกันทางการเมืองโดยไม่ได้สนใจในเนื้อหาคดีแม้แต่น้อย นี่คือความถนัดของพรรคเพื่อไทย ทุกคนในประเทศนี้เห็นด้วยอย่างยิ่งที่มีโครงการช่วยเหลือชาวนา ซึ่งเป็นอาชีพหลักที่สำคัญของประเทศ แต่การใช้โครงการรับจำนำข้าวเป็นเครื่องมือในการแสวงหาประโยชน์ทุจริตกันเป็นกระบวนการไม่มีใครเห็นด้วยอย่างแน่นอน งบประมาณแผ่นดินที่มีการทุจริตกันในโครงการนี้ ลองคิดดูว่าถ้านำไปสร้างโรงพยาบาล สร้างสถานศึกษา เชื่อว่าประชาชนทุกอำเภอในประเทศไทยก็จะได้รับประโยชน์อย่างมหาศาล" นายราเมศกล่าว
ด้านนายวัฒนา เมืองสุข กล่าวว่า ตามที่นายราเมศ ออกมาให้ความเห็นทางกฎหมายตอบโต้ตน กรณีที่รัฐบาลจะใช้คำสั่งทางปกครองเรียกให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับผิดชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งนั้น เป็นประเด็นทางกฎหมายที่ตนหารือไปยังนายวิษณุ เครืองาม ที่เป็นราชบัณฑิตทางกฎหมาย และเป็นรองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบด้านกฎหมายของรัฐบาล ไม่ได้ถามคุณราเมศหรือท่านอื่นๆ ในพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่มีหน้าที่ เอาไว้ให้คุณราเมศเป็นราชบัณฑิตทางกฎหมายเมื่อไร ตนจะสอบถามจึงค่อยมาตอบ ระหว่างนี้ขอโทษที่ไม่มีเวลาคุยด้วยจริงๆ
ด้านนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีนายพานทองแท้ ชินวัตร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพื่อเรียกร้องความสนใจให้ประชาชนเมตตาสงสาร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าถูกกระทำ ว่าเป็นละครดรามาฉากใหญ่ของระบอบทักษิณ ที่ออกมาสร้างกระแสประชาชนให้เกิดความรู้สึกสงสาร น.ส.ยิ่งลักษณ์ทุกวัน ตามแผนการของฝ่ายเสนาธิการทักษิณ ทั้งนี้ นายพานทองแท้ได้ประโยชน์จากรัฐบาลทักษิณ ยิ่งลักษณ์ จำนวนมหาศาล ทั้งเงินค่าปากถุงจากกลุ่มกฤษดานคร และค่าประชาสัมพันธ์จากรัฐวิสาหกิจและส่วนราชการ นายพานทองแท้จึงมีอภิสิทธิ์มากกว่าใคร
"ผมขอเรียกร้องให้สำนักอัยการสูงสุดให้ความยุติธรรมอย่างเต็มที่ต่อการดำเนินคดีบุคคลที่เกี่ยวข้องในการทุจริตโครงการจำนำข้าว อย่าให้ใครมากล่าวหาได้ว่าสองมาตรฐาน และขอเรียกร้องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเร่งรัดการดำเนินคดีฟอกเงินกับนายพานทองแท้ กรณีรับเงินค่าปากถุงจากการที่รัฐบาลทักษิณสั่งให้ธนาคารกรุงไทยปล่อยเงินกู้ให้กับกลุ่มกฤษดานคร 9,000 ล้านบาท ซึ่งนายพานทองแท้กับพวกก็ได้เงินค่าปากถุงหลายสิบล้าน แบบนี้เรียกว่าคอร์รัปชันหรือไม่ ขณะที่นายวิโรจน์ นวลแข ประธานบอร์ดธนาคารกรุงไทย กับพวกติดคุกอยู่ในเวลานี้ เพราะผลพวงการรับใช้ระบอบทักษิณ ขอถามว่านายพานทองแท้ไปเยี่ยมหรือยัง"
นายวัชระกล่าวอีกว่า นายพานทองแท้ควรหยุดโอดโอยแสดงละคร เพราะความจริงคนเสื้อแดงติดคุก เพราะนายทักษิณ นายพานทองแท้ ก็ไม่เคยไปเยี่ยมที่เรือนจำเลย ไม่ต้องพูดถึงว่าส่งเงินไปช่วยรายเดือนให้คนเสื้อแดงที่ตกระกำลำบากหรือไม่ เพราะเขาหลอกใช้เพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมืองเท่านั้น
ทั้งนี้ นายพานทองแท้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กพร้อมภาพคู่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า "ถูกกระทำ ถึงแม้จะหนักแค่ไหน ผู้หญิงคนนี้ก็ยังคงมีรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความจริงใจเสมอ แล้วเราจะผ่านมันไปด้วยกันครับ "อาปู"
นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ที่สนับสนุนแนวคิดรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ที่ออกคำสั่งทางปกครองเรียกความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว พร้อมทั้งอ้างว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ปล่อยปละละเลยให้มีการโกงในโครงการจำนำข้าวนั้น นพ.วรงค์ต่างหากที่ไม่ยอมเข้าใจว่าการใช้คำสั่งทางปกครองนั้นไม่ถูกต้อง มันเป็นกระบวนการผิดปกติ ที่จะออกคำสั่งมาบังคับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ชดใช้เงินค่าเสียหาย เพราะเป็นคนกำหนดนโยบาย ทำไมไม่ฟ้องร้องทางแพ่ง ส่วนที่บอกปล่อยปละละเลยนั้นก็ไม่จริง เรื่องนี้ได้มีการดำเนินการอย่างเคร่งครัด มีการจับกุมเกือบ 300 คดี สำหรับเรื่องข้าวหาย ข้าวเสีย ก็ขอบอกว่ามันมีคนรับผิด เช่น เจ้าของโกดัง บริษัทประกันภัย แม้กระทั่งธนาคารที่ออกหนังสือค้ำประกัน มีกระบวนการของมันอยู่แล้ว ส่วนการขายข้าวจีทูจี รัฐบาลทุกรัฐบาลก็ดำเนินการในลักษณะเดียวกัน และยังอยู่ในศาลอาญาฯ
“นพ.วรงค์อาจไม่รู้ว่าการใช้กติกาที่ไม่เป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา แล้วคนถูกกล่าวหาจะได้รับความเป็นธรรมได้อย่างไร เพราะคนพรรคเพื่อไทยไม่มีอำนาจพิเศษมาช่วยเหมือนคนพรรคอื่น” นายสมคิดกล่าว
วันเดียวกัน เวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณโรงแรมดุสิตธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พบหารือทวิภาคีกับนายปีเตอร์ โอนีล (Hon. Peter O’Neill) นายกรัฐมนตรีรัฐเอกราชปาปัวนิวกินี ระหว่างการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 23
ภายหลังการหารือ พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ไทยพร้อมที่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในด้านการค้า การลงทุน โดยเฉพาะการประมง และความร่วมมือเพื่อการพัฒนาด้านเกษตร ซึ่งนายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินีได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของสินค้าการเกษตรของไทย โดยเฉพาะข้าว และสนใจที่จะขอคำแนะนำในการปลูกข้าว เพื่อส่งเสริมการปลูกข้าวของปาปัวนิวกินี
"โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณปาปัวนิวกินีที่ให้การสนับสนุนสั่งซื้อข้าวจากไทย ทั้งนี้ ขอให้มั่นใจในคุณภาพข้าว ซึ่งเป็นข้าวชั้นเยี่ยมของโลก นอกจากนี้ ไทยยังมีสินค้าเกษตรประเภทอื่นๆ ที่ขอให้ปาปัวนิวกินีพิจารณาสั่งซื้อเพิ่มเติม" พล.ต.วีรชนกล่าว.