ย้ำขีดอันตราย! นักวิทย์ฯ ชี้โลกร้อนขึ้นเกิน 1 องศา
เตือน อุณหภูมิโลกพุ่งสูงเกิน 1 องศา ย้ำขีดเส้นอันตรายโลก กระทบกว้างทุกชีวิต
องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกสหราชอาณาจักร เตือนว่า อุณหภูมิโลกกำลังจะเพิ่มสูงเกิน 1 องศาเซลเซียสจากระดับในยุคก่อนอุตสาหกรรม ซึ่งสาเหตุหลัก นักวิทยาศาสตร์ชี้ว่ามาจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซมีเทนของกลุ่มอุตสาหกรรม บวกกับปรากฏการณ์เอลนีโญ จึงส่งผลให้อุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้น
จากข้อมูลในช่วงระหว่างเดือนมกราคม ถึง กันยายน (ปี 2558) ชี้ชัว่าอุณหภูมิโลกเพิ่มตัวสูงขึ้นถึง 1.02 องศาเซลเซียส จากอุณหภูมิเฉลี่ยระหว่างปี 2393 ถึง 2443 ถ้าหากอุณหภูมิโลกยังคงเป็นไปตามพยากรณ์ แบบนี้ก็จะทำให้ปีพ.ศ. 2558 เป็นปีแรกที่อุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้นเกินระดับ 1°C จากในยุคก่อนอุตสาหกรรม และถือว่าเป็น อุณหภูมิโลกที่เพิ่มเกินครึ่งหนึ่งของเกณฑ์ 2°C ซึ่งเป็นระดับที่จะนำไปสู่ภาวะโลกร้อนขั้นร้ายแรง (ระดับอันตรายที่สุด)
ในขณะเดียวกันระดับก๊าซในชั้นบรรยากาศโลกที่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ หรือก๊าซเรือนกระจกได้เพิ่มสูงขึ้นเกินกว่าเกณฑ์ 400 ส่วนใน 1,000,000 ซึ่งระดับของก๊าซเรือนกระจกนี้ไม่เคยเกิดขึ้นบนโลกมานานกว่า 800,000 ถึง 1,000,000 ปี นั่นหมายความว่ามวลมนุษยชาติในปัจจุบันกำลังเก้าล้ำเกินขอบเขต ที่ธรรมชาติจะรับไว้ได้
เมื่อปี 2556 คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รายงานว่าอุณหภูมิที่ดินและมหาสุทรโดยรวมแสดงให้เห็นว่าโลกมีอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 0.85 องศาเซลเซียส จากอุณหภูมิเฉลี่ยระหว่างปี 2423 – 2555
ตัวการหลักที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก
- องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก – หน่วยงานสภาพอากาศของสหประชาชาติ บอกว่า “ระดับของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซมีเทนเพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อนมาก ซึ่งเป็นปัจจัยทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกบนชั้นบรรกาศ”
- รายงานของธนาคารโลก บอกว่า “ในปี 2573 มากกว่า 62 ล้านคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจตกอยู่ในวิกฤตความยากจน เป็นผลมาจากขาดทุนจากการเพาะปลูกและราคาอาหารที่สูงขึ้น อีกทั้งยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศนี้”
ทั้งนี้ การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 21 (COP 21) จะจัดขึ้นในวันที่ 30 พฤศจิกายน -11 ธันวาคม 2558 กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส มีผู้แทนมากกว่า 190 ประเทศทั่วโลกเพื่อหารือเกี่ยวกับ “การแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก” โดยมีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อไม่ให้โลกต้องเผชิญกับหายนะจากภาวะโลกร้อนอันเนื่องมาจากน้ำมือของมนุษย์
ที่มา | independent / BBC