เสียงธรรมนำสวดมนต์ให้พรของหลวงปู่เพ็ง จันทรังสี ถึงพุทธศาสนิกชนทุกท่าน
เชิญท่านสาธุชนทั้งหลายรับฟังเสียงเสียงธรรมนำสวดมนต์ให้พรหลวงปู่เพ็ง จันทรังสีและภาพเคลื่อนไหวของท่านเพื่อเป็นศิริมงคลได้ที่นี่ครับ
"ธรรมมะไม่ป่วย ป่วยแต่ร่างกาย"
หลวงปู่เพ็ง จันทรังสี พระนักพัฒนาเผยแผ่แห่ง "เมืองศรีสะเกษ"
"พระครูโสภณจันทรังสี" หรือ "หลวงปู่เพ็ง จันทรังสี" เจ้าอาวาสวัดละทาย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ปัจจุบันสิริอายุ ๙๑ ปี พรรษาที่ ๗๑ ท่านเป็นศิษย์เอกของหลวงปู่อ้วน โสภโณ แห่งวัดบล้านโนนค้อ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ พระเกจิอาจารย์ดังแห่งยุค พ.ศ.๒๕๐๐ ของ จ.ศรีสะเกษ รุ่นเดียวกับหลวงปู่มุม แห่งวัดปราสาทเยอ เป็นศิษย์ร่วมอาจารย์กับหลวงปู่สังข์ สุริโย วัดนากันตรม และหลวงปู่ประสาร อรหปัจจโย วัดโนนผึ้ง ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านมีหลายรุ่น ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์มากมาย
ก่อนที่หลวงปู่เพ็งจะมาเป็นเจ้าอาวาสวัดละทายนั้น ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านโคกสะอาด อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ และเป็นเจ้าคณะตำบล และเป็นอุปัชฌาย์ ต.โนนค้อ เขต ๒ ในเวลาต่อมา หลวงปู่ได้นำชาวบ้านสร้างอุโบสถศาลาการเปรียญ กุฏิ ห้องน้ำ ห้องส้วม พัฒนาวัดจนสำเร็จเรียบร้อยนอกจากเสนาสนะดังกล่าวแล้ว หลวงปู่ยังได้นำชาวบ้านโคกสะอาดสร้างทำนบ ถนนหนทางเชื่อมระหว่างหมู่บ้านหลายสายให้ได้ไปมาติดต่อกันสะดวก สร้างโรงเรียน นำชาวบ้านพัฒนาหมู่บ้าน จัดหาที่ดินสร้างอนามัยบ้านโคกสะอาด
หลังจากพระอุปัชฌาย์กลม ปุสโส เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีละทายคนเดิมมรณภาพแล้ว ตำแหน่งเจ้าอาวาสว่างลง ชาวบ้านละทายเห็นพ้องต้องกันว่าเห็นควรไปกราบนิมนต์พระอุปัชฌาย์เพ็ง จันทรังสี มาเป็นเจ้าอาวาส เพราะท่านเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของชาวบ้านละทาย ท่านก็รับนิมนต์ และได้สละตำแหน่งทางวัดเดิม มาเป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีละทาย เมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๒๔ ต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลละทายเมื่อวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๒๔ เป็นพระธรรมทูตเผยแผ่อบรมสั่งสอนประชาชนในเขตรับผิดชอบ
หลวงปู่เพ็ง ได้นำชาวบ้านละทายสร้างอุโบสถหลังใหม่ขึ้นเพราะชำรุด ไม่เหมาะและไม่สะดวกในการทำสังฆกิจตามยุคตามสมัย ดังที่เห็นในปัจจุบัน นอกจากนี้หลวงปู่ได้จัดหาที่ดินสร้างสถานีอนามัยของหมู่บ้าน นำชาวบ้านตัดถนนเข้าวัดอีกเส้นหนึ่งเพราะทางเดินไม่สะดวก สร้างหอระฆัง สร้างฌาปนสถาน ศาลาบำเพ็ญบุญ สร้างวัดป่าจันทรังสี (ปัจจุบันคือวัดบ้านโอ้น) ขยายเนื้อที่วัดให้กว้างขวางเพียงพอแก่การใช้ในศาสนกิจ
เมื่อพ.ศ.๒๕๔๒ หลวงปู่เพ็ง ได้นำชาวบ้านและผู้มีจิตศรัทธา สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ขนาดหน้าตักกว้าง ๘ เมตร สูงพร้อมทั้งฐาน ๑๗ เมตร ตามรูปแบบองค์พระปางมารวิชัย พร้อมเสมาธรรมจักร ๑ คู่ อัครสาวกสารีบุตร โมคคัลลาน์ และฉัพพันรังสี ใช้เวลาก่อสร้าง ๒ ปี ๑ เดือน ๑๙ วัน ได้สำเร็จดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ นับเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในแถบนี้
จากความมุ่งมั่นของหลวงปู่ในอันที่จะเสริมสร้างและจรรโลงพระพุทธศาสนาให้เป็นศรีสง่าแก่วัดและบ้านละทาย เพื่อเป็นที่พึ่งทางใจของชาวบ้านละทาย และชาวพุทธได้เคารพสักการบูชา นับเป็นความสำเร็จที่ควรแก่การสรรเสริญ เชิดชูคุณงามความดีเป็นอย่างยิ่ง
ปัจจุบันแม้วัยจะล่วงเลยมาถึง ๘๗ ปี หลวงปู่ท่านมีนิสัยสันโดษ เรียบง่าย เป็นกันเอง เป็นนักพัฒนาทั้งในด้านวัตถุจิตใจ เป็นนักบุญที่เสียสละทุกอย่าง ใฝ่หาประสบการณ์ความรู้ มีเมตตาธรรมโอบอ้อมอารี ใครแวะเวียนไปกราบท่านจะได้รับความเมตตาจากท่านเท่าเทียมกันทุกคน
ขณะนี้หลวงปู่เพ็งมีโครงการหาปัจจัยซื้อเตียงผู้ป่วยให้กับอนามัยบ้านละทาย และสมทบทุนสร้างซุ้มประตูวัดโพธิ์ศรีละทาย จึงได้อนุญาตให้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นมาชื่อว่ารุ่น “มหามงคล ๘๘ ปลอดภัย” ประกอบด้วย พระปรกใมะขาม รุ่นแรก, พระปิดตาผงพุทธคุณจันทร์เพ็ญ รุ่นแรก, เหรียญรูปไข่นั่งเต็มองค์รุ่นแรก, ล็อกเกตเต็มองค์ รุ่นแรก และตะกรุดโทน จารมือ-ตอกโค้ดทุกดอก โดยจะอธิษฐานจิตปลุกเสกในวันเสาร์ที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ พุทธศาสนิกชนร่วมบุญได้ที่วัดบ้านละทาย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ โทร.๐๘-๙๒๒๗-๖๓๓๓ หรือที่พระอาจารย์ทวีศักดิ์ รองเจ้าอาวาส โทร.๐๘-๒๘๖๔-๙๑๙๐
ชาติภูมิหลวงปู่เพ็ง "นายเพ็ง พละศักดิ์" เป็นชื่อและสกุลเดิมของหลวงปู่เพ็ง เกิดเมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๔๖๖ พอโตขึ้น เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๓ ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนบ้านละทาย (วัดบ้านละทาย) จนจบชั้น ป.๔ จากนั้นได้เข้าเรียนต่อที่โรงเรียนช่างไม้ศรีสะเกษ เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๒ ในสมัยนั้นสภาพการศึกษาระดับสูงขึ้นจะมีเฉพาะในตัวจังหวัดเท่านั้น เรียนอยู่ชั่วระยะหนึ่ง เมื่อ อ.กันทรารมย์ มีโรงเรียนราษฎร์ระดับมัธยมจัดตั้งขึ้น จึงย้อนกลับมาเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนมัธยมกันทรารมย์แห่งนี้ในเวลาต่อมา จนจบชั้นมัธยมปีที่ ๒
ครั้งเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๔ ได้เข้ารับราชการเป็นครูประชาบาลตำแหน่งครูโรงเรียนบ้านอาลัย ต.จาน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เป็นครั้งแรกในชีวิต อยู่ได้ไม่นานก็ลาออก และเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๕ เข้ารับราชการเป็นครูครั้งที่ ๒ อีก โดยได้บรรจุเป็นครูโรงเรียนบ้านสำอาง อ.ธาราปริวัติ เมืองนครจำปาสัก
หลวงปู่เล่าให้ฟังว่า ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลรอนแรมตั้งหลายวัน กว่าจะถึงนครจำปาสัก ชีวิตต้องทนอยู่กับความลำบาก โดดเดี่ยว เส้นทางคมนาคมในสมัยนั้นไม่สะดวก จิตใจก็ว้าเหว่ คิดถึงบ้าน พ่อแม่ ญาติพี่น้อง ประกอบกับในชีวิตไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน อยู่ได้ไม่นานนัก เนื่องจากความผันผวนทางด้านการเมืองขณะนั้น ให้อพยพข้าราชการการกลับถิ่นเดิม
เมื่อกลับมาถึงถิ่นปิตุภูมิแล้ว แทนที่จะกลับเข้ารับการเป็นครูเหมือนเดิม นายเพ็ง พละศักดิ์ กลับเกิดความท้อแท้ ความไม่แน่นอนในทางชีวิตจึงเปลี่ยนแนวทางชีวิตใหม่ ตัดสินใจสู่ชายผ้าเหลืองใต้ร่มเงาผ้ากาสาวพัสตร์ หวังจะเป็นทายาทสืบทอดพระพุทธศาสนา ได้สละเพศบรรพชิตเข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุในวัยที่ยังหนุ่มแน่น ที่วัดโพธิ์ศรีละทาย อันเป็นวัดบ้านเกิด ตรงกับวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๔๘๖ ได้รับฉายาว่า “จันทรังสี” แปลว่า “ผู้มีรัศมีดั่งดวงพระจันทร์”
ในระหว่างครองตำแหน่งบริหาร-ปกครอง ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านโคกสะอาด อ.โนนคูณ และเป็นพระอุปัชฌาย์ พร้อมกับได้รับพระราชทานตราตั้ง และเลื่อนสมณศักดิ์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสชั้นเอก เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๓