ถึงกับเหงื่อแตกซิก!!!…เมื่อซื้อกางเกงจากห้างไม่ทันดูกลับมาบ้าน ดันได้ที่ติดกันขโมยเป็นของแถมกลับมาด้วย แล้วจะเอาออกยังไงล่ะเนี่ย
สำหรับเจ้าอุปกรณ์ที่ว่าเป็นอุปกรณ์ที่ตามห้างสรรพสินค้านิยมใช้ติดเพื่อป้องกันสินค้าถูกลักขโมยจากพวกมือดีทั้งหลาย แต่ก็แหม๋..ดันติดกับกางเกงออกมาด้วยเพราะพนักงานแคชเชียร์ไม่ได้เอาออกให้ซะงั้น หลายคนท้วงทำไมสัญญาณเตือนถึงไม่ดัง นั่นจิ่..กลับมาบ้านแล้วหยิบมาดู เฮ้ย!!! ทำไมพนักงานไม่เอาออกให้เนี่ย ทำไงดีล่ะ ดูเหมือนว่าเจ้าสิ่งนี้ได้ก่อปัญหาให้กับใครหลายคนมาแล้ว
สงสัยมั๊ยครับว่าทำไมเดินผ่านประตูทางออกแล้ว หากมีสินค้าบางชิ้นที่ลืมจ่าย เช่น พนักงาน scan สินค้าไม่ครบ หรือลืมไว้ใต้รถเข็นโดยยังไม่ชำระเงิน ทำไมสัญญาณถึงดัง รู้ได้ยังไงว่ายังไม่ได้จ่าย????
ส่วนมากจะเข้าใจกันว่า ที่ทางออกตรงเสาสัญญาณ จะจับสัญญาณจาก barcode ว่ายังไม่ได้ scan เพื่อชำระค่าสินค้า ซึ่งเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน หลักการทำงานของเสาสัญญาณดังกล่าวทำงานด้วยระบบแม่เหล็กไฟฟ้า จึงไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสินค้าดังกล่าวชำระเงินแล้วหรือไม่ และเสาสัญญาณดังกล่าวก็ไม่ได้ต่อเข้าระบบคอมฯ ของทางห้างแต่อย่างใด
แต่ที่เสาสัญญาณจับได้ว่ายังไม่ชำระเงิน เพราะ ที่ตัวสินค้าที่มีราคาแพงหรือมีปัญหาสูญหายบ่อย ทางห้างจะติดสัญญาณกันขโมยไว้ที่ตัวสินค้า ซึ่งอุปกรณ์ป้องกันขโมยดังกล่าวจะปล่อยสัญญาณแม่เหล็กออกมา ทำให้เสาสัญญาณจับได้
แต่ทำไมเวลาจ่ายเงินแล้วสัญญาณถึงไม่ดังล่ะ?? สาเหตุเพราะพนักงานแคชเชียร์จะทราบว่า สินค้าตัวใดบ้างที่ติดสัญญาณกันขโมย เมื่อชำระเงินแล้ว พนักงานจะทำการปลดสัญญาณดังกล่าวออก แต่ก็มีอุปกรณ์บางชนิดที่เป็นชนิดลบสัญญาณได้ จะเป็นลักษณะสติกเกอร์ที่แนบกับตัวสินค้า ชนิดนี้จะไม่ต้องแกะอุปกรณ์ออก แต่จะใช้วิธีลบสัญญาณ(ทำลาย) โดยการใช้ตัว scan barcode ที่เป็นมือถือไปจี้ที่ barcode ในขั้นตอนนี้จะเป็นการ scan และทำลายสัญญาณไปในตัว เพราะที่หัว scan จะติดอุปกรณ์ทำลายไว้ด้วย และที่ถาดกระจกสำหรับ scan สินค้าก็จะมีอุปกรณ์ทำลายสัญญาณไว้ข้างใต้เช่นกัน (ดังนั้นอย่าเผลอไปวาง บัตรเครดิต หรือบัตรเอทีเอ็ม ในจุดดังกล่าวอาจทำให้เสียหายได้)
สัญญาณกันขโมยก็มีหลายชนิดในการประยุกต์ใช้กับสินค้า ซึ่งอุปกรณ์กันขโมยบางชนิดราคาสูงกว่าตัวสินค้าเสียอีก เช่นชนิด spider wrap อันนึงพันกว่าบาททีเดียวครับ แต่ชนิดนี้ใช้งานได้ดีทีเดียว
ที่มา : youtube, g-pra.com
http://www.plug-innews.com/6951