ด่วน!!! เสี่ยอู๊ด เสี่ยพระเครื่องคนดัง ฆ่าตัวตายคา รร. ที่พิษณุโลก ทิ้งจดหมายบ่นน้อยใจ..
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (30 ตุลาคม 2558) เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกองพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมกู้ภัยข่าวภาพ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุโรงแรมใน อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังได้รับแจ้ง ว่า มีบุคคลเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพ บผู้เสียชีวิตนอนตายอยู่บนเตียงสภาพศพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อเชิ๊ตสีขาว กางเกงสแล็กสีดำ เสื้อสวมทับในกางเกงเรียบร้อย ในห้องยังเปิดไฟแสงสว่างอยู่ เบื้องต้นสภาพภายในห้องไม่มีร่องรอยการรื้อค้นหรือ ร่องรอยการถูกทำร้าย
โดยทิ้งจดหมายสั่งเสียไว้ว่า
(ภูมิใจ) จากเด็กกำพร้ายากจน มีวุฒิ ม.3 ได้หาเงินช่วยเหลือสังคม ประเทศชาติ พระพุทธศาสนา ก่อเกิดสาธารณะประโยชน์ เป็นวัด โรงเรียน โรงพยาบาล สถานศึกษา มหาวิทยาลัยสงฆ์ องค์กรการกุศล สงเคราะห์ผู้ยากไร้ อุปการะเยาวชนให้เล่าเรียน คิดเป็นมูลค่าสินทรัพย์และเงินรวมๆ บริจาคไปกว่า 3,000 ล้านบาท กระจายอยู่ทั่วแผ่นดิน ทั้งที่คนรู้และไม่รู้
(เสียใจ) ที่หาเงินได้มากมาย แต่ไม่เคยเก็บสะสมสร้างฐานะ เพราะมัวแต่ช่วยผู้อื่น ไม่เคยช่วยพี่น้อง ช่วยสาธารณะจนตัวเองเดือดร้อน ผลตอบแทนกลับมาให้เสื่อมเสีย ไม่มีความดีและความจริงจากผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือไป จะเป็นจริงอย่างถาวร "ดีชั่ว ถูกผิด ยึดติดใครไม่ได้"
(คำสั่ง) หากเสียชีวิตที่พิษณุโลก ให้น้องชายขึ้นมาจัดการศพ ทำการเผาทันที ไม่ให้จัดพิธีการใดๆ ไม่ให้บำเพ็ญกุศล เพราะไม่ต้องการให้พี่น้องเดือดร้อน ไม่ต้องการให้คนอื่นต้องมายุ่งยาก ที่สำคัญผมทำบุญไว้เยอะแล้ว ไม่มีใครจะทำบุญให้ผมได้เท่าที่ตัวผมทำตอนอยู่
ท้ายสุดฝ้ายบอกบุญ เชิญคนไทยไปบริจาคทรัพย์สินรับพระกริ่ง ซึ่งผมบริจาคไว้ 75 ล้านบาท ช่วยสร้างอาคารศูนย์ดูแลผู้สูงอายุระยะยาวของคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นะครับ
ฝากคำคมข้อคิด จากบัณฑิต ม.3
"ดีที่สุดคือหยุดอยาก ดียากคือยากที่สุด"
ลงชื่อ สิทธิกร วันออกพรรษา ปี 2558
ขอบคุณภาพ : @ThanawatLive
สำหรับรายละเอียดความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
ข้อมูลสำหรับ เสี่ยอู๊ด หรือ นายสิทธิกร บุญฉิม เจ้าของฉายา "เสี่ยบุญทุ่ม" เคยตกเป็นข่าวดังขึ้นหน้าหนึ่งกับนักร้อง-นักแสดงหนุ่มชื่อดัง ที่ทั้งพาไปเที่ยวและทำบุญถึงต่างประเทศ รวมถึงมอบของขวัญเป็นตึกแถวและรถราคาแพง นอกจากนี้ นายสิทธิกร ยังเคยตกเป็นข่าวกับศิลปินดาราอีกหลายคน ช่วงปลายปี 2551 นายสิทธิกร ถูกศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก ฐานฉ้อโกงประชาชน โดยให้คืนเงินกว่า 4 ล้าน ฐานใช้และเลียนแบบเครื่องหมายราชการโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมจำคุก 5 ปี และในวันที่ 3 มี.ค. 2556 ศาลอุทธรณ์ ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น โดยเสี่ยอู๊ดได้ขอให้พักการลงโทษและลงโทษสถานเบา แต่ศาลเห็นว่ามีเจตนานำเครื่องหมายมหามงกุฎมาใช้ประดับหลังพระเครื่อง แม้จะตัดเครื่องหมายประกายด้านบนออกและตัดข้อความด้านล่างออก ก็ทำให้เข้าใจผิดไปได้ว่าเป็นเครื่องหมายมหามงกุฎ จึงเป็นการใช้ตราโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามฟ้อง นอกจากจากนี้ ยังมีเจตนามุ่งจำหน่ายพระเครื่องเพื่อหลอกลวงประชาชนทั่วไป เป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน คนจำนวนมากหลงเชื่อจนเกิดความเสียหาย อุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น โดยพ้นกำหนดโทษเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2556