สาวสวยกับรอยสัก เผยชีวิตไม่ง่าย ต้องเลิกเรียนตอนอายุ13 ฝึกสักหนังหมูอยู่ทุกวันเป็นเวลา2ปี
บุคคลที่ประสบความสำเร็จในสังคมมักจะเบื้องหลังที่หลายคนไม่ค่อยได้รู้ สำหรับช่างสักสาวชื่อดังชาวมาเลเซีย Kinki Ryusaki คนนี้ก็เช่นกัน เธอมีชีวิตที่ยากลำบากในวัยเด็ก เธอเกิดในครอบครัวที่ยากจน พ่อของเธอเป็นโรคไตทำให้เธอต้องเลิกเรียนหนังสือตั้งแต่อายุ 13 ปี เพื่อออกมาทำงานหาเงินช่วยเหลือครอบครัว ในตอนนั้นเธอมีรายได้เพียงเดือนละ 500 ริงกิตหรือคิดเป็นเงินไทยเพียงเดือนละ 4000 กว่าบาท เธอเริ่มเรียนสักกับอาจารย์ตอนอายุ16 เธอฝึกสักหนังหมูอยู่ทุกวันเป็นเวลา2ปี โดยต้องอาศัยพรสวรรค์ทางศิลปะความพยายามอย่างมากจริงๆจึงจะมีชื่อเสียงในวงการการสักได้
Kinkiเป็นสาวหน้าตาสะสวย หุ่นดี เธอมักจะใส่เสื้อไม่มีแขนคอลึกกับกางเกงขาสั้น เพื่อโชว์รอยสักที่สวยงามบนผิวหนัง ตอนนี้เธออายุ 25 ปี เป็นช่างสักสาวสวยที่มีชื่อเสียงและได้รับขนาดนามว่า “สาวน้อยสุดฮอต” ของวงการ
ปัจจุบันค่าตัวของเธอในการสักอยู่ที่ 400 ริงกิต หรือเกือบๆ 3,500 บาทต่อชั่วโมง มีรายได้เดือนละประมาณ 4 หมื่นบาทต่อเดือน ทำให้เธอหลุดจากความยากจนและมีเงินพอให้พ่อใช้ในการฟอกไต
“เมื่อก่อนตอนฉันทำงานที่ร้านทำผม ฉันเห็นรอยสักของเจ้าของร้านและฉันก็หลงรักมันตั้งแต่นั้นมา ฉันแอบไปสักครั้งแรกในชีวิตฉันชอบและสนใจมันมากและตัดสินใจว่าฉันจะเป็นช่างสัก”
เธอฝึกสักบนผิวหนังของเธอเอง ทำให้ครอบครัวของเธอคิดว่าเธอไปร่วมกลุ่มกับพวกเกเร “เพื่อพิสูจน์ให้คนในครอบครัวเห็นว่า คนที่มีรอยสักไม่จำเป็นจะต้องเป็นเด็กเกเร ฉันพยามยามอย่างมากเละไม่เคยหยุด ทุกวันนี้ฉันพิสูจน์ให้ครอบครัวเห็นได้แล้วว่าการสักก็เป็นศิลปะที่ต้องใช้ความชำนาญแขนงหนึ่ง และสามารถหาเลี้ยงครอบครัวได้เช่นเดียวกับอาชีพอื่นๆเช่นกัน”
Kinkiได้ยกผิวของเธอกว่า1/3ของร่างกายให้กับการสักเธอวาดลวดลายที่สวยงามลงไป ทั้งดอกกุหลาบสีชมพูที่หน้าอก ตุ๊กแกบริเวณหน้าท้อง ใบหน้าปีศาจบนต้นแขนขวา อีกทั้งคอ เอว มือและครึ่งขวาของร่างกายเธอเต็มไปด้วยรอยสัก รวมไปถึงมือซ้าย ที่เดียวที่เธอไม่คิดจะสักก็คือขาซ้ายเพราะเธออยากจะเหลือ “สีผิวที่แท้จริงของเธอ” เอาไว้ส่วนหนึ่ง
แม้ว่าการแต่งตัวแบบเซ็กซี่และรอยสักจะกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวเธอไปแล้ว ทำให้เธอดูเหมือนสาวซ่าในสายตาคนอื่นแต่เธอก็ไม่เคยแคร์ เธอพยายามที่จะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าผู้หญิงที่มีรอยสักไม่จำเป็นต้องเป็นผู้หญิงไม่ดี เธออยากให้คนอื่นๆเห็นรอยสักบนตัวของเธอเป็นงานศิลปะมากกว่า