ส่งกำลังใจ!! น้องไม้ วัย 1 ขวบ ต่อสู้กับมะเร็งสมอง
น้องไม้ ตอนนี้อายุ 1ปี1เดือน แรกคลอดผ่าตัดด้วยอายุครรภ์38 สัปดาห์ ตลอดการตั้งครรภ์ปกติดีทุกอย่าง อัลตร้าซาวด์ดูน้องทุกอาทิตย์กับหมอเฉพาะทางด้านอัลตร้าซาวด์ด้วยนะคะผลว่า ปกติดี.
แรกคลอดน้ำหนักตัวเกือบ4กิโลกรัม อ้วนท้วนแข็งแรงมากคุณหมอเด็กประเมินอาการแรกคลอดปกติดีให้คะแนน9/10 ตอนนั้นดีใจมากพอรู้ว่าลูกสมบูรณ์ดีแต่เวลาผ่านไปประมาณ10ชั่วโมง น้องมีอาการหยุดหายใจสั้นๆ เพียงแค่10วินาที ถ้าไม่ใช่พยาบาลที่มีความชำนาญจริงๆ จะไม่รู้เลยว่าน้องหยุดหายใจ เพราะเหมือนเด็กนอนหลับเฉยๆ แต่ตัวเขียวคล้ำลงนิดหน่อย น้องไม้ผ่าคลอดที่รพ.เอกชนแห่งหนึ่งย่านสมุทรปราการค่ะ อยู่ที่นั่น5วันตรวจทุกอย่างที่มีแล้วแต่ไม่รู้สาเหตุว่าลูกเป็นอะไร แพทย์วินิจฉัยว่าการนอนหลับและไม่หายใจนั้นคืออาการชักอย่างนึงของเด็กเล็ก
เราหาทางย้ายน้องไปรักษาที่โรงพยาบาลเด็ก พอได้เตียงก็ตรวจทุกอย่าง EEG,CT SCAN ,MRI จึงพบว่ามีก้อนเนื้องอกในหัวเกือบ 5เซนติเมตร แน่นอนว่าจะต้องเกิดขึ้นตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ พอรู้แบบนั้นเราแทบล้มทั้งยืน เหมือนคนบ้าพูดคุยกับใครแทบไม่รู้เรื่องโทษตัวเองชั้นดูแลตัวเองไม่ดีลูกถึง เป็นแบบนี้เหมือนฟ้าถล่ม ร้องไห้อย่างเดียวสติแตกมาก
ทีมแพทย์5-6ท่านนัดคุยในห้องประชุม บอกเราว่าน้องมีก้อนเนื้องอกก้อนใหญ่มากและน่าจะเป็นก้อนมะเร็ง น้องเด็กเกินไปที่จะผ่าตัด คงรักษาไม่ได้ ให้ทำใจและจะรักษาตามอาการด้วยยาเท่านั้น ยิ่งได้ยินแบบนี้แล้วเราร้องไห้โฮอย่างไม่อายใคร คำถามเกิดขึ้นมากมายในหัว ทำไมๆๆๆ สามีเป็นผู้ชายแท้ๆ ถึงกลับกลั้นอารมณ์ไม่อยู่ร้องไห้หนักเหมือนกัน
แต่ด้วยความเป็นพ่อเป็นแม่ ไม่มีใครยอมให้ลูกนอนรอความตายไปต่อหน้าต่อตาแม้หมอจะฟันธงแบบนั้นแต่เราไม่ ยอมแพ้เราหาข้อมูลโรคนี้หาแพทย์ที่เก่งที่สุดเพื่อพาลูกเราไปรักษาเราย้าย ลูกไปผ่าตัดสมองที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ด้วยอายุ1เดือน5วัน
วันผ่าตัดวันที่ 8 กันยายน2557 เราเฝ้าหน้าห้องผ่าตัดด้วยใจจดจ่อนั่งสวดมนต์ภาวนา เราอธิฐานว่าถ้าลูกของแม่ไม่มีบุญร่วมกันที่จะได้อยู่ต่อขอให้ไปเลยไม่ต้อง ห่วงจะได้ไม่ทรมานอีกแต่ถ้ามีบุญจะได้อยู่ร่วมเป็นแม่ลูกกันขอให้หนูแคล้ว คลาดรอดพ้นปลอดภัยและฟื้นตัวได้เร็วและหายในเร็ววัน
น้องไม้ผ่าตัดประมาณ8ชั่วโมง แพทย์แจ้งว่าน้องเสียเลือดไป120ccซึ่งถือว่าเยอะสำหรับเด็กตัวเล็กๆ เอาก้อนเนื้องอกออกไปได้ 80%ที่เหลือเอาออกไม่ได้มันหุ้มเส้นเลือดใหญ่และเส้นประสาทตาติดก้านสมองมาก อันตรายมากถ้าจะเอาออกหมด
น้องไม้อยู่ในห้องไอซียูเป็นเวลา1คืนน้องฟื้นตัวไวมากก็ได้ย้ายไปอยู่แผนกศัลยกรรมเด็ก
หลังผ่าตัดน้องอ่อนแรงซีกซ้ายทั้งแขนขา ไม่ขยับเลย เป็นอัมพาตครึ่งซีกแต่พอผ่านไป2วันแขนขาลูกก็กลับมามีแรงอีกครั้ง ผลกระทบจากการผ่าตัดทำให้ตาขวามองไม่เห็นหนังตาตกปิดตลอดเวลา รูม่านตาไม่ตอบสนองต่อแสงเลย แต่เราคิดว่าไม่เป็นไรได้ชีวิตลูกคืนมาก็ดีแล้ว อะไรจะเสียไปบ้างก็ยอมแรก ตาขวาไม่เห็นแต่ตาซ้ายยังมี
เมื่อผลชิ้นเนื้อออกมาก็เป็นอย่างที่คาดไว้ น้องเป็นมะเร็งสมองเกรด 4 แพทย์ให้รักษาด้วยการให้ยาเคมีบำบัดเพื่อยับยั้งมะเร็งไม่ให้โตขึ้น และจะรักษาด้วยการฉายแสงเมื่ออายุครบ 3 ขวบ น้องให้ยาคีโมประมาณ 3 เดือนทั้งหมด 7 คอร์ส คอร์สนึง 3 - 5วัน และทำ MRI อีกครั้งก็พบว่าก้อนมะเร็งมันโตขึ้นอีก ถ้าไม่ผ่าจะไปเบียดเนื้อสมองแกนสมองและตาซ้ายที่เหลือเพียงข้างเดียวจะบอด
การผ่าตัดอีกครั้งเป็นทางออกเดียวที่จะยื้อชีวิตลูกได้ เราตัดสินใจให้ลูกผ่าตัดครั้งที่ 2 ด้วยอายุ 5 เดือน17วัน
หนนี้เอาเนื้อร้ายออกไปได้ 90% ที่เหลือรักษาด้วยยาต่อ แต่เปลี่ยนสูตรยาเป็นซื้อยาเองจากนอก ผลข้างเคียงจากการผ่าตัดครั้งนี้คล้ายเดิมคืออ่อนแรงซีกซ้าย และตาซ้ายที่ว่ามองเห็นนั้นน่าจะเห็นเพียงครึ่งเดียว แต่น้องไม้ก็ฟื้นตัวจากการผ่าตัดได้ไวมากเช่นเดิม มะเร็งที่เหลือค่อนข้างตอบสนองต่อยาคีโมสูตรใหม่ดี ล่าสุดผล MRIวันที่10กันยายน2558ออกมาว่า ก้อนมะเร็งเล็กลงเหลือไม่ถึง1เซ็นติเมตร ไม่มีกระจายไปไหน หลังจากให้ยานอก13 คอร์สรวมทั้งหมด 20 คอร์ส และการรักษาต่อไปคือการปลูกถ่ายไขกระดูก ซึ่งจะทำเร็วๆ นี้ ช่วงต้นเดือน ตุลาคม 2558
น้องไม้มีโอกาสหายค่ะ แม้โอกาสไม่มากแต่เราก็หวังว่าจะมีปาฎิหาริย์ หวังว่ามะเร็งจะไปจากชีวิตลูกเรา แม้ว่าหายแล้วจะเหลือไม่เท่าคนอื่นไม่สมบูรณ์เหมือนใครๆ แต่ขอให้ดูแลตัวเองได้ แค่นี้พอแล้ว
ที่เอามาแชร์ไม่ได้อยากให้พ่อแม่คนอื่นวิตกกังวลระแวงลูกแต่ขอให้คอยระวัง คอยสังเกตุลูกดีๆ มีหลายเคสที่จบชีวิตไปเพราะมะเร็งสมองที่มารู้เอาตอนโตแล้วอาการหนักแล้ว ลูกเราโชคดีที่รู้ตั้งแต่วันแรกที่เกิดจึงยังมีทางรักษา
#หัวใจคนเป็นพ่อแม่ไม่มีอะไรเจ็บปวดกว่าต้องมาเห็นลูกเจ็บป่วยทรมานอีกแล้ว แต่ถ้าเราหนีไม่ได้ถอยก็ไม่ได้ ก็จำเป็นต้องสู้ และหวังว่าวันนึงเราจะชนะมัน
บุญรักษานะคะ
แม่น้องไม้
ที่มา: https://www.facebook.com/Nongmainawin