"จุตพร" จี้ "ประยุทธ์" ต้องนิรโทษกรรมให้ปชช.ที่คดีเกี่ยวข้องกับทางการเมือง
จตุพร" จี้ "พล.อ.ประยุทธ์" ควรเปิดใจให้กว้าง ต้องนิรโทษกรรม
ให้ประชาชนที่คดีหมิ่นเบื้องสูงและคดีเผาบ้านเผาเมือง ส่วนแกน
นำทุกฝ่ายควรปล่อยให้ต่อสู้ไปตามกระบวนการยุติธรรม
วันที่ 9 ตุลาคม 2558 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. เปิดเผยผ่านทางรายการมองไกล ผ่านยูทูป โดยระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะต้องเป็นผู้ดำเนินการนิรโทษกรรมด้วยตัวเอง และควรเปิดใจให้กว้าง มีเมตตาให้คนในชาติจึงจะประสบความสำเร็จ นายจตุพร เปิดเผยต่อว่า ตนขอยืนยันในหลักการสำคัญ ว่า ต้องนิรโทษกรรมเพื่อปลดปล่อยประชาชนที่มีคดีติดตัวไม่ว่าจะหมิ่นเบื้องสูง หรือคดีเผาบ้านเผาบ้านเมือง ร่วมถึงคดีบุกยึดสถานที่ราชการ ส่วนแกนนำทุกฝ่ายให้ต่อสู้ไปตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนการนิรโทษกรรมให้ คสช. แต่ต้น ถ้าไม่ทำก็มีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 113 มีโทษประหารชีวิต ในสิ่งนี้นายกรัฐมนตรีไม่ได้พูดถึง ซึ่งคงเป็นเพราะสามารถยึดอำนาจได้สำเร็จ ผมยังยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สมควรทำเฉพาะประชาชน ก็ควรต้องทำ
แต่คนทำหน้าที่ปรองดองได้คือท่านคนเดียว เพราะมีอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ใช้ได้ทุกเรื่อง แต่ช่วงปีเศษ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่ทำเรื่องปรองดองที่ผ่านมาไปไหนไม่ได้ เพราะไร้การสนับสนุน ดังนั้น เมื่อมีแนวความคิด ก็ควรทำต้องทำให้กับประชาชน นายจตุพร ยังกล่าวว่า การจะปรองดองได้หรือไม่นั้น อยู่ที่คุณสมบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นหลัก คือใครจะมีความรับผิดชอบปรองดองต้องใจกว้าง ต้องไม่มีคุณสมบัติที่ถือตัวตนว่า ดีกว่าคนอื่น เป็นคนถูกทั้งหมด แต่คนอื่นเลวทั้งหมด ถ้าคิดแบบนี้การปรองดองเกิดยาก หากพิจารณาในอดีตการต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ตายกันมากมาย เมื่อ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำทหาร มี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี การสร้างความปรองดองจึงสำเร็จ เพราะทุกฝ่ายล้วนเปิดใจกว้าง มีเมตตา และมุ่งหวังให้ชาติบ้านเมืองเกิดความสามัคคี
สำหรับกรณีที่มีการระบุว่าสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) บางคนเป็นสายแดงนั้น พวกตนยังมีจุดยืนตามประกาศไว้ทุกประการว่า นปช. คนเสื้อแดง ไม่มีตัวแทนสักคนใน สปท. บางคนเขาอาจมาอยู่ แต่วันนี้ไปแล้วไปลับ นี่คือจุดยืน นายสุชน ชาลีเครือ และนายสมพงษ์ สระกวี ได้ลาออกจากพรรคเพื่อไทย และนปช.ได้ประกาศแยกทางกันชัดเจน เพราะชื่อของ นปช. คือ ฝ่ายประชาธิปไตยต่อต้านเผเด็จการ จึงไปร่วมงานกับคณะยึดอำนาจไม่ได้ ซึ่งพวกตนมีความละอายใจพอ.“