มาดูเรื่องราวชีวิตสุดเท่ของ Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook กันดีกว่า
ในปัจจุบันมีคนกว่าพันล้านทั่วโลกใช้ Facebook เพื่อติดต่อสื่อสารและโปรโมทสินค้าผ่านการลงโฆษณา ทำให้หนุ่ม Mark Zuckerberg ทำเงินได้มากทีเดียว ซึ่งในปีที่ผ่านมาเขาทำเงินได้ 33.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,126 พันล้านบาท) ทำให้หนุ่มที่ลาออกจากมหาวิทยาลัย Harvard คนนี้อยู่ในอันดับ 16 ของเศรษฐีทั่วโลกจากการจัดอันดับของนิตยสาร Forbes
วันนี้เราลองมาดูเรื่องราวชีวิตของ CEO ติดดินแต่มีฐานะคนนี้กันเลย
ทันตแพทย์ Edward และจิตแพทย์ Karen Zuckerberg เลี้ยงลูก 4 คนใน Dobbs Ferry นครนิวยอร์ก ซึ่ง Mark น้องคนสุดท้องเป็นเด็กที่ฉลาดเกินวัย โดยเขาได้เขียนโปรแกรมส่งข้อความชื่อ “Zucknet” ด้วยภาษา Atari BASIC เมื่ออายุ 12 ปี และยังได้เขียนโปรแกรมเกมคอมพิวเตอร์ให้เพื่อนเล่นด้วย
สมัยที่เขาเรียนอยู่มัธยมปลายในโรงเรียนชื่อดัง Phillips Exeter Academy ในมลรัฐ New Hampshire เข้าได้สร้างโปรแกรมแชร์เพลง ซึ่งบริษัทเจ้าพ่อเทคโนโลยีอย่าง AOL และ Microsoft สนใจซื้อ แต่เขาปฏิเสธไปเพราะอยากถือครองสิทธิ์และอยากได้งานมากกว่า
แต่ Mark ไม่ใช่แค่เด็กเนิร์ดหน้าคอมอย่างเดียว เขาชอบอ่านวรรณกรรมคลาสสิกอย่าง The Odyssey และเป็นกัปตันทีมฟันดาบของโรงเรียนมัธยมด้วย
หลังจากเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย Harvard ในปี 2002 ได้ไม่นาน คนก็เริ่มรู้จักเขาในฐานะนักเขียนโปรแกรมคนเก่ง โดยเขาเริ่มทำ “The Facebook” กับเพื่อนๆ ในหอพักของเขาเอง และหลังจากนั้นก็ลาออกในช่วงปี 2 เพื่อทำงานอย่างเต็มเวลา
ก่อนลาออกจากมหาวิทยาลัย Mark ได้พบภรรยาในปัจจุบันของเขา Priscilla Chan ซึ่งเธอเล่าว่า พวกเขาพบกันที่งานปาร์ตี้ และบอกว่า “ในเดทแรก เขาบอกฉันว่าอยากออกเดทกับฉันมากกว่านั่งทำข้อสอบ take-home”
บริษัทของเขาเริ่มระดมทุนได้ 12.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 428 ล้านบาท) เมื่อ Mark อายุยังไม่ถึง 21 ปี จากนั้นทุกคนก็ทราบดีว่าธุรกิจของเขาเติบโตเร็วแค่ไหน ในปี 2010 นิตยสาร Time ได้ยกย่องให้เขาเป็นบุคคลแห่งปี
ในปี 2010 หนังเรื่อง “The Social Network” แสดงถึงดราม่าในช่วงก่อตั้ง Facebook ของ Mark และเพื่อน โดยหนังเรื่องนี้ได้รับรางวัลออสการ์ถึง 8 รางวัลด้วยกัน แต่ Mark กล่าวว่ามีหลายประเด็นในหนังที่ผิดไปจากความจริง
Aaron Sorkin ผู้กำกับหนังเรื่อง “The Social Network” ที่ Mark อาจจะเกลียดแต่ซีรี่ย์เรื่อง “The West Wing” ของผู้กำกับคนนี้เป็นรายการโปรดของ Mark
Mark ได้นำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2012 โดยระดมทุนในการซื้อขายวันแรกได้ 16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 539 พันล้านบาท) ซึ่งถือเป็น IPO ที่ระดมทุนได้มากที่สุดที่เคยมีมา จนกระทั่งบริษัท Alibaba ทำลายสถิตินี้ไปเมื่อปีก่อน
Mark และ Priscilla คบหากันตั้งแต่เริ่มธุรกิจและแต่งงานกันในวันหลังจากการประกาศ IPO โดยงานแต่งงานจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ซึ่งแขกในงานคิดว่ามาร่วมงานฉลองจบการศึกษาของ Priscilla แต่พวกเขาก็เซอร์ไพรส์แขกในงานด้วยการแต่งงานกันที่บ้านของพวกเขา
Business Insider & San Jose Mercury News
ในงานแต่งงานมีวง Green Day มาเล่นดนตรี และ Mark ได้ออกแบบแหวนแต่งงานทับทิมให้ภรรยาด้วยตัวเอง
Business Insider & San Jose Mercury News
ทั้งสองไปฮันนีมูนกันที่ประเทศอิตาลีโดยเครื่องบินส่วนตัว และพักที่โรงแรมห้าดาวชื่อ Portrait Suites ซึ่งราคาเริ่มต้นที่ 800 ยูโร/คืน (ประมาณ 30,000 บาท) แต่ปาปาราซซี่ก็ยังไปแอบเห็นพวกเขาออกไปกินแมคโดนัลด์กันด้วย
ทั้งคู่จะแบ่งเวลา 2 สัปดาห์ของเดือนธันวาคมทุกปีเพื่อการเดินทาง ซึ่งบางครั้งก็เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของ Priscilla ที่ประเทศจีนด้วย
Mark เรียนภาษาจีนและพูดได้คล่องมากจนสามารถทำวิดีโอถาม-ตอบเป็นภาษาจีนยาว 30 นาทีได้ เมื่อช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปี 2014
พวกเขาเลี้ยงสุนัขพันธุ์ Hungarian Sheepdog ชื่อ Beast ซึ่งหน้าตาเหมือนไม้ถูพื้น และมีเพจของตัวเองบน Facebook ด้วย
แค่ขายหุ้น Facebook ก็ทำให้เขารวยโดยไม่ต้องมีเงินเดือนแล้ว โดยเขาได้เงินเดือนจากบริษัทจำนวน 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อปีเท่านั้น
แต่เขาเป็นคนไม่ชอบอวดรวยเลย
เรามักเห็น CEO คนนี้ใส่เสื้อมีฮู้ดหรือเสื้อยืดสีเทา โดยไม่มีสูทแบรนด์หรูหราเลย
แทนที่จะขับรถสปอร์ต Mark ขับรถ Volkswagen GTI เกียร์ธรรมดา ซึ่งสนนราคาประมาณ 30,415 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1 ล้านบาท)
เขาใช้เงินไปกับการป้องกันความเป็นส่วนตัวมากกว่า
ในเดือนตุลาคม 2014 เขาใช้เงิน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3,300 ล้านบาท) ซื้อที่ดิน 750 เอเคอร์บนเกาะ Kauai ในฮาวาย เพื่อสร้างบ้านพักตากอากาศส่วนตัวของเขา
เขาซื้อบ้านหลังปัจจุบันใน Palo Alto ด้วยเงินกว่า 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1500 ล้านบาท) และซื้อที่ดินและตึกรอบๆ ด้วย
Business Insider & Mercury News
และเขายังซื้อคฤหาสถ์ใน San Francisco ราคา 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 337 ล้านบาท) และใช้เงินอีกกว่า 1 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 33 ล้านบาท) ในการตกแต่งเพิ่มเติม
ในช่วงที่ปรับปรุงบ้านนั้น มีข่าวว่า Mark จ้างคนให้ไปจอดรถใกล้บ้านเขาตอนกลางคืน เพื่อจองที่จอดรถไว้ให้สำหรับคนงานที่มาก่อสร้างบ้านของเขาในเวลากลางวัน
นอกจากความเป็นส่วนตัวของเขาแล้ว เขายังชอบใช้เงินไปกับการกุศลอีกด้วย ในปี 2013 เขาบริจาคเงิน 992 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 33,400 ล้านบาท) ให้กับมูลนิธิชุมชน Silicon Valley และในปี 2014 เขาบริจาคเงิน 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.5 พันล้านบาท) ให้กับโรงพยาบาลกลางของ San Francisco ด้วย
The Verge and Business Insider
แต่เขาไม่ได้เข้มงวดกับเงินของบริษัทเท่าเงินส่วนตัว โดยบริษัทของเขาถือครองหุ้นของ Instagram มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หุ้นของ Whatsapp มูลค่า 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และหุ้นของ Oculus มูลค่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่ได้ทุกอย่าง เมื่อเขาเสนอซื้อ Snapchat ในปี 2013 เขาถูกปฏิเสธโดย CEO Evan Spiegel
นอกจากเขาจะพบปะกับเจ้าพ่อเทคโนโลยีคนอื่นๆ แล้ว เขายังพบปะกับคนสำคัญของโลกอย่างประธานาธิบดี Dilma Rousseff ของบราซิลอีกด้วย
รวมถึงแรปเปอร์ชื่อดังอย่าง Snoop Dogg (ภาพจากปี 2011)
และประธานาธิบดี Obama ด้วย ภาพนี้ถ่ายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2011
ในสิงคโปร์ ศิลปินชื่อ Zhu Jia แสดงนิทรรศการภาพเขียนของเขาชื่อว่า “The Face of Facebook”
แล้วก็มีศิลปินคนหนึ่งที่วาดรูปของเขาด้วยอุจจาระ …
ปัจจุบัน Mark อายุ 31 ปี เขาเป็นคนส่วนน้อยบนโลกที่มีตัวเลขจำนวนเงินพันล้านมากกว่าอายุที่เหลือของเขา
แต่ถึงจะรวยแค่ไหน เขาก็เป็นคนติดดินอย่างเหลือเชื่อ เขาชอบจัดรายการถาม-ตอบกับคนหลายๆ ประเภททั่วโลก นี่คือภาพครั้งหนึ่งที่จัดเมื่อเดือนที่แล้ว