ชาวเน็ตคิดอย่างไร...กับประกาศตามหาคนในรูป และคนที่เป็นช่างสักให้
ประกาศตามหาคนในรูป และคนที่เป็นช่างสักให้
ได้รับทราบว่า ภาพนี้แอบถ่ายมาจากพัทยา เมื่อไม่กี่วันมานี่เอง
เจตนาในการตามหา
1. เพื่อให้เขาลบรอยสักนี้เสีย
2. ให้เขาขอโทษคนไทย ที่ทำการหมิ่นสิ่งที่ไม่สมควรทำเช่นนี้
3. ตามหาช่างที่ทำการสัก เพื่อทำการตักเตือน
4. แจ้งให้เขาทราบว่า กฏหมายรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับล่าสุด รวมถึงฉบับที่ไม่ผ่านการพิจารณาไปนี้ ล้วนระบุไว้ในมาตราหนึ่งว่า รัฐต้องให้การอุปภัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา.........
และผมก็เชื่อว่า เมื่อ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ถ้าผ่าน ถ้าไม่ระบุว่า ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ ก็ต้องระบุคำนี้ไว้เป็นอย่างนี้
และจากกฏหมายรัฐธรรมนี้เอง ที่จะไปดำเนินการเอาผิด ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐหากทราบแล้วไม่ดำเนินการ ก็ต้องถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
การตามหาเขาไม่ใช่ไปตัดแขนขา หรือฆ่าฟันครับ เราชาวพุทธ ก็จะทำแบบชาวพุทธ ผสมกับกฏหมายบ้านเมืองที่พอจะมีให้ใช้ได้
ขณะนี้ เข้าสู่โหมด ปกป้องพระพุทธศาสนาอยู่ครับ แม้ปกติผมเองจะชอบเข้าป่าเข้าดง แต่ยามนี้พระพุทะศาสนามีภัยอย่างหนัก ผมได้รับปากพ่อแม่ครูบาอาจารย์มาช่วยงานปกป้องพระพุทธศาสนา แม้ชื่อจะเป็นสมาคมทางสายกลาง แต่ หนึ่งในวัตถุประสงค์ของสมาคม คือปกป้องและคุ้มครองพระพุทธศาสนา จึงดำเนินการได้อย่างไม่ผิดวัตถุประสงค์ของสมาคม และก็ต้องบอกว่า นาทีนี้ด้วยใจรักในพระพุทธศาสนา ก็จำเป็นต้องทำในสิ่งที่สมควร และเป็นสิ่งที่ชาวพุทธสมควรอย่างยิ่ง
คนไทยเรา ชาวพุทธเรา มักไปติดหล่มคำสอนที่สอนกันมาผิดๆ นั่นคือ วางเฉย
วางเฉยนะ แม้ไม่มีพระพุทธศาสนา พวกฤาษีชีไพรเขาก็ทำกันได้มาตั้งแต่มีพระพุทธเจ้าแล้วครับ พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนตื้นๆ แค่วางเฉย พระพุทธเจ้าสอนไปถึง อริยะสัจ 4
พอพวกเราไปติดหล่มคำว่า วางเฉย กันบ่อยๆ ก็เลย วางเฉย ผสมเมตตา ให้อภัย 555 มันเป็นจริตของพรหม แบบนี้ไม่ต้องมีพระพุทธเจ้า ฤาษีชีไพรในป่าเขาก็ทำได้
วันนี้สมาคมทางสายกลาง ขออนุญาตเข้าโหมด ปกป้องพระพุทธศาสนา
จึงจำเป็นต้องเข้มข้น แต่รับประกัน ไม่หลุดไปจากแนวทางแห่งพุทธะแน่นอน
วันนี้เราต้องผนึกกำลังกัน เพื่อต้านภัยของพระพุทธศาสนา
เพราะพระพุทธเจ้าฝากศาสนาไว้กับพุทธบริษัท 4
ผนึกกำลังชาวพุทธ หยุดภัยคุกคาม
นายกรณ์ มีดี
นายกสมาคมทางสายกลาง
แกนนำสมาพันธ์ชาวพุทธอาเซียน
เพิ่มเติมคำอธิบายวันที่ 25 ก.ย. 58