น่าเห็นใจ.. “เอ็ม -รภัสรดา” กะเทยหน้าสวย ถูกแฟนบอกเลิก เพราะเจอรูปก่อนแปลงเพศ !!
เป็นเรื่องชีวิตอันดราม่ากว่าจะมาถึงฝันของตุ๊ดหัวเกรียนหน้าเน่า ที่ต่อสู้มีความฝันอยากเป็นผู้หญิง เติบโตในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ก้ำกึ่งแตกแยก “เอ็ม” หรือ “รภัสรดา กิตติประภาพงศ์” เฟสบุ๊ค ( Lapasrada Radissinisa ) เป็นลูกเมียน้อย
หรือง่ายๆเป็นลูกที่พ่อไม่ค่อยรัก สมบัติก็ไม่ไดหลังพ่อตายไป เพราะทั้งหมดตกเป็นของลูกเมียหลวง โตขึ้นมาอพยพเร่ร่อนตามแม่ไปอยู่ที่อเมริกา ใช้ชีวิตอย่างลำบากจนวันที่ทุกอย่างพร้อม เอ็ม ประกาศอิสรภาพด้วยการผ่าแปลงเพศ สูญเงินไปหลายแสนก่อนจะได้เพศสภาพเป็นผู้หญิงเต็มตัว
“มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะที่เด็กครอบครัวแตกแยกอย่างเราจะมาถึงวันนี้ได้ พอเราเป็นผู้หญิงทางด้านร่างกาย แต่ทางกฎหมายเรายังเป็นผู้ชายมีคำนำหน้าว่านาย ซึ่ง เอ็มว่ามันไม่ได้แล้ว เพราะขืนเป็นแบบนี้ทำอะไรก็จะลำบากมากๆ หนูจึงเริ่มต้นความคิดของการอยากเปลี่ยนมาใช้นางสาว
“คือหลังจากที่เอ็มแปลงเพศมาได้ 2 ปี คือก่อนหน้านี้เอ็มไม่ได้มีความคิดอยู่ในหัวเลยนะว่าจะเปลี่ยนใช้นางสาว อาจจะเพราะว่าเอ็มเป็นคนไทยด้วย เอ็มก็เลยมีความคิดมาตลอดว่าไม่น่าจะมีประเทศไหนที่สามารถยอมให้กะเทยหรือสาวประเภทสองเปลี่ยนใช้นางสาวได้
จนวันหนึ่งเอ็มได้รู้จักกับพี่คนนึง ซึ่งตอนนั้นเอ็มไม่รู้ว่าเค้าเป็นทนาย ซึ่งเอ็มก็ได้คุยกับเค้าถึงตัวตนของเอ็ม เพราะพี่ทนายบอกว่าเรื่องราวของเอ็มน่าสนใจมาก
เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เธอจะมาถึงตรงนี้ได้ และก็ไม่ได้ใช้เวลาเพียงวันหรือสองวัน แต่มันต้องใช้เวลาหลายปีเลยทีเดียว ก็เลยได้พูดคุยกับพี่เค้า หลังจากนั้นพี่เค้าก็เลยบอกว่า พี่เป็นทนายนะ เอ็มก็แบบ… ดีใจนะ! ซึ่งเค้าก็ถามประวัติความเป็นมาว่าเริ่มแรกยังไง”
“เอ็มก็เล่าให้เค้าฟังหมดนะว่าเอ็มผ่านอะไรมาบ้าง จนกระทั้งสุดท้ายตัดสินใจแปลงเพศเปลี่ยนแปลงตัวเองหมดทุกอย่างเลย เอ็มถามกับพี่ทนายว่า พอจะมีทางไหนมั้ยคะที่จะสามารถช่วยให้เอ็มได้เปลี่ยนใช้นางสาวได้
เพราะเอ็มไม่รู้เรื่องกฎหมายของอเมริกาเลย พี่ทนายบอกว่าได้สิ! เอ็มสามารถเปลี่ยนได้นะ เพราะเอ็มแปลงเพศมาแล้ว เป็นผู้หญิงแล้ว สามารถเปลี่ยนได้นะเอ็ม เชื่อม่ะ! เอ็มแบบ… หลังจากได้ยินที่พี่ทนายพูดนะ ดีใจมาก กรี๊ดเลยละ เอ็มก็เลยขอให้พี่ทนายช่วยดำเนินการให้”
“หลังจากนั้นก็ได้เข้าสู่ขั้นตอนการขอสอบ American Citizen เพราะตอนนั้นยังเป็นใบเขียวอยู่ เพราะในวันที่ไปสอบ Citizen ถ้าเอ็มผ่าน เอ็มก็สามารถขอทาง Immigration ให้เปลี่ยนจากนายเป็นนางสาวได้เลย
จนสุดท้ายก็ผ่านคะ เอ็มได้ American Citizen โดยเป็นพลเมืองของชาวอเมริกาอย่างเต็มตัว และได้รับการยอมรับจากทางกฎหมายให้สามารถเปลี่ยนใช้นางสาวได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และได้รับสิทธิเท่าเทียมกันกับผู้หญิงคนหนึ่งจะได้รับคะ
แต่ปัญหาไม่ได้หมดอยู่ตรงนั้น หลังจากที่เอ็มได้ Citizen มา ถึงแม้ว่าทาง Immigration จะยอมเปลี่ยนให้เอ็มใช้นางสาวได้ แต่อย่าลืมว่า ยังมีขั้นตอนของการเปลี่ยนเอกสารเก่าอยู่ ซึ่งอันนี้ค่อนข้างที่จะยุ่งยากอยู่”
“สำหรับสาวประเภทสองที่คิดจะมาใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาฟังให้ดีนะคะ อันนั้นเป็นขั้นตอนที่เอ็มผ่านมาคะ หลังจากได้ Citizen มานะคะ ต้องเอาใบ Citizen มายื่นขอเปลี่ยนเอกสารทางกฎหมายใหม่ทั้งหมดที่ DMVหรือว่าหน่วยงานขนส่ง คะ
ซึ่งการขอเปลี่ยนเอกสารใหม่ทั้งหมดก็จะมีใบรับรองทางแพทย์ของหมอที่คุณไปแปลงเพศทำทุกอย่างมาจากไทยคะ 1 ใบ หลังจากนั้น ก็ต้องเข้าสู่ขั้นตอนการขอใบรับรองจากแพทย์ที่อเมริกาอีกหนึ่งครั้งคะ เพื่อรับรองว่าคุณเปลี่ยนแปลงทุกอย่างมาแล้วจริงๆ ซึ่งหมายถึงจะต้องมีการยืนยันจากทั้งที่ไทยและที่อเมริกาคะ รวมเป็น 2 หมอคะ
ซึ่งขั้นตอนนี้ก็จะกินเวลาไปประมาน 2 อาทิตย์คะ หลังจากได้ใบรับรองแพทย์ทั้งหมดมาแล้ว ก็ไปที่ DMV คะ เพื่อยื่นขอเปลี่ยนบัตรประชาชนและใบขับขี่ใหม่ พอได้บัตรประชาชนใบใหม่มา ก็เข้าสู่ขั้นการขอเปลี่ยนใบ social security
และพอหลังจากได้เปลี่ยนทั้งสองอย่างแล้ว ก็เป็นการทำ American Passport คะ เพราะจะต้องเปลี่ยน passport เล่มใหม่ ซึ่งจะเป็น passport ของคนอเมริกา เป็นเล่มสีน้ำเงินเข้ม”
“ก็ประมาณนี้ ขั้นตอนทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบของเอ็ม ใช้เวลาไปประมาณ 7 ปีคะ และตอนนี้ความฝันของเอ็มก็ได้ถึงจุดสิ้นสุด เอ็มได้ในสิ่งที่เอ็มนั้นวิ่งตามหามาตลอดชีวิต คือการได้เป็นผู้หญิงอย่างที่ตั้งใจ
เอ็มได้รับการยอมรับจากคนรอบๆข้าง และที่ขาดไม่ได้เลยคือ ขอบคุณพี่ทนายที่ช่วยเหลือเอ็มมาตั้งแต่ต้นจนจบพี่เชื่อมั้ยวันที่เราเป็นผู้หญิงเต็มตัวทั้งทั้งร่างกายและกฎหมายหนูดีใจจนเป็นลมไปเลย”
เป็นผู้หญิงเต็มตัวแบบนี้มีผู้ชายมีฝรั่งมาจีบเยอะมั้ย “ก็มีเข้ามาเยอะเหมือนกันนะ เพราะเขาคิดว่าเราเป็นผู้หญิงทั่วไป แต่ตอนนี้เพิ่งโสดไปค่ะ โดยผู้ชายบอกเลิกมา 55555”
อ้าวเกิดอะไรขึ้น “เอ็มก็มีหนุ่มๆเข้ามาจีบเยอะนะ แต่มีหนุ่มเอเชียคนหนึ่งเข้ามาคุยกันแล้วก็คบกันได้ประมาณ 3-4 เดือน ก็ออกเดทกันอะไรแบบนี้ แล้ววันหนึ่งเอ็ม ชวนเขามาบ้าน เขามาเจอรูปของเอ็มตอนที่เป็นเด็กผู้ชาย
เขาถามว่าใคร คือก่อนหน้านี้เอ็มไม่ได้บอกเขาไงว่าเราเป็นผู้ชาย เพราะอย่างที่บอกในบัตรประชาชน ในพาสปอร์ตก็เป็นผู้หญิงไปหมดแล้ว เขาก็เลยไม่สงสัยและเอ็มคิดว่า ตอนนี้เราเป็นผู้หญิงเต็มตัวแล้วเราไม่มีอะไรจะปิดบัง
แต่เขาบอกเขารับไม่ได้ เขาเลยบอกเลิก แต่เอ็มก็ไม่เสียใจนะเพราะเชื่อว่าอนาคตยังจะเจอคนที่ใช่ ที่เข้าใจและพร้อมยอมรับได้ในสิ่งที่เราเป็น”