ประสบการณ์จีบพนักงาน sf ครับ
ในช่วงก่อนสอบประมาณ 2 สัปดาห์ ผมมีเวลาว่างเล็กน้อย เลยไปดูหนัง ช่วงเวลาที่ไปดูคือ 4 โมงเย็น วันศุกร์
ที่ sf ครับ ก่อนซื้อตั๋วหนังก็เพิ่งนึกได้ว่าลืมทำบัตรนักศึกษาเพื่อเป็นส่วนลด เพราะบัตรเก่าหมดอายุแล้ว ก็เลยเดินไปที่โต๊ะทำบัตรซึ่งมีพนักงานผู้หญิงคนนึงนั่งประจำอยู่ ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจอะไรครับ ก็ยื่นๆบัตรไปแล้ว พนักงานเค้าก็บอกว่า '' ทำบัตรใหม่ขอบัตรนักศึกษาด้วยค่ะ ''
ผมก็เลยควักบัตรยื่นให้เค้าไป จากนั้นเค้าก็พิมพ์ข้อมูล แล้วอยู่ๆก็มองรูปผมที่บัตรนึกศึกษาแล้วก็เกิดการสนทนาขึ้นดังนี้ครับ
พนักงาน sf : น้องค่ะ ทำไมในรูปกับตัวจริงดูต่างกันจังคะ
ผม : หาาา ? อ่อ สงสัยปัจจุบันหน้าผมคงแก่แล้วอ่ะครับ ไม่ได้อยู่ปีหนึ่งแล้ว เลยไม่เหมือนตอน freshy ที่ทำบัตรติดรูปใหม่ๆ ( ผมคิดในใจว่าทำไมอยู่ๆเธอถึงถามแบบนี้ หรือรูปผมมีปัญหาตรงไหนหรือเปล่า อ่า ช่างมันเถอะ )
พนักงาน sf : น้องคิดว่าพี่หน้าแก่มั้ย ฮ่าๆ แต่นี่พี่แต่งหน้ามาแล้วนะ
ผม : ก็ไม่แก่นะครับ 55+
... จังหวะนี้เองผมเพิ่งสังเกตเห็นว่า พนักงาน sf คนนี้เธอน่ารักดีครับ เป็นสาวแว่น หน้าหมวยๆ ขาวๆ ยิ้มแล้วผมประทับใจแบบบอกไม่ถูก ...
พนักงาน sf : นี่เธอเรียนอยู่ปีไรอ่ะ (เธอถามระหว่างเครื่องกำลังทำบัตรใหม่)
ผม : อ่อ ปี 4 ครับ คณะ... แล้วพี่เรียนคณะไหนอ่ะครับ ปีไหน
พนักงาน sf : อ่อ เราเรียนอยู่คณะ... อ้าว ปี 4 เหมือนกัน งั้นก็ไม่ต้องเรียกพี่เรียกน้องแล้วสิ รุ่นเดียวกันหนิ
ผม : ครับๆ เอ่อ แล้วทำไมเธอถึงมาเป็นพนักงาน sf หรอครับ
พนักงาน sf : อ่อ พอดีเบื่ออ่ะค่ะ ว่างเลยมาทำงานหารายได้ จริงๆมันเหนื่อยนะ เคยลาออกครั้งนึง แต่มันว่างเกินก็เลยกลับมาทำอีก
ผม : เอ้า ! มีเวลาว่างเกินด้วย ดีจังเลยนะครับ ตารางเรียนผมแน่นตลอดไม่ว่างเลย แล้วเงินดีมั้ยครับ ค่าตอบแทนเท่าไหร่
พนักงาน sf : ก็คิดเป็นชม ชม.ละ ... บาท ตำแหน่งก็มีหลายแผนกนะคะ เช่น box office , consession , floor บลาๆ
ผม : (เริ่มงง อะไร consession ? อะไร คือ floor ?) อ่อๆๆ
... แล้วเราก็คุยต่ออีกซักพัก ...
พนักงาน sf : นี่ค่ะบัตร
ผม : ใช้บัตรใหม่ได้เลยใช่มั้ยครับ
พนักงาน sf : ได้ค่ะ
ผม : ขอบคุณครับ
... จากนั้นผมก็มาซื้อตั๋วและเข้าไปดูหนัง ระหว่างดูหนังก็รู้สึกคิดถึงพนักงานคนนั้นขึ้นมา เอ่อ จะว่าไปแล้วเธอน่ารักดีนะ ผมก็ไม่รู้ทำไมช่วงเวลาที่เราคุยกันสั้นๆ ระหว่างทำบัตร มันทำให้ผมรู้สึกดี รู้สึกว่าคุยกันถูกคอ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอถูกเทรนมาให้คุยกับลูกค้าแบบนี้หรือเปล่า แต่ผมยังอยากคุยกับเธอต่อ บางทีผมคิดว่าควรจะไปหาเธอหลังจากดูหนังเสร็จ ไปทำความรู้จักหรืออะไรก็แล้วตาม แต่เมื่อผมออกจากโรงหนังมา เธอก็ไม่อยู่ที่โต๊ะทำบัตรแล้ว มองหาเธอที่แผนกอื่นๆก็ไม่เจอ ผมคิดว่าเธออาจจะเลิกงานกลับบ้านแล้ว บางครั้งการจะพบเจอคนที่เราถูกใจก็ไม่ใช่เรื่องง่าย หรือจะบังเอิญเจอบ่อยขนาดนั้น มันอาจเป็นความผิดพลาดของผมเองที่ปล่อยโอกาสที่จะทำความรู้จักกับเธอตอนทำบัตรหลุดลอยไป อีกนัยนึงก็คิดว่าถ้าอยู่ๆขอทำความรู้จักตรงนั้นเลยก็จะเร็วเกินไปมั้ย แต่ไม่เป็นไร ครั้งหน้าต้องได้เจออีกแน่นอน ผมจะกลับมาหาเธออีกครั้ง ...
... ผมกลับไปคิดที่บ้านดูว่า ผมจะเจอเธออีกครั้งได้อย่างไร ไม่รอช้า ผมเริ่มค้นหาระบบการทำงานของพนักงาน sf ว่าเค้าทำงานกันอย่างไร ก็ได้ข้อมูลมาคร่าวๆว่า พนักงงาน sf จะทำงานวันละ 6 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย สัปดาห์หนึ่งต้องทำอย่างน้อย 4 วัน ทุกสัปดาห์จะมีการปรับเปลี่ยนตารางเวรไปเรื่อยๆ ผมไม่แน่ใจว่าข้อมูลตรงนี้ถูกต้องมากน้อยเพียงใด และจากการที่เธอบอกว่าเธอเป็นนักศึกษา ปี 4 แสดงว่าเธอคงไม่ได้ทำงานทุกวันแน่นอน จะต้องมีช่วงเรียนวันใดวันหนึ่ง และเธอคงทำงานวันเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงแน่นอน แต่ผมจะรู้ได้อย่างไรหล่ะว่าวันไหน ดังนั้นแล้วผมจึงตัดสินใจไปที่ sf สาขานั้นทุกวัน ในช่วงหลังเลิกเรียน ประมาณ 4-5 โมง โดยหวังว่าจะเจอเธอ ...
... วันจันทร์ อังคาร พุธ พฤหัส ผ่านไปผมก็ยังไม่เจอ ผมไม่รู้ว่าเธอยังมาทำงานอยู่หรือไม่ ถูกย้ายไปแผนกอื่นหรือเปล่า หรือช่วงที่ผมมา เธอเลิกงานกลับบ้านไปแล้ว ผมเลยไปถามพนักงานคนอื่นที่นั่งประจำตรงโต๊ะทำบัตรในวันพฤหัสว่า รู้จักพนักงานคนนี้มั้ย เธอมาทำงานเวลาไหน พนักงานคนนั้นตอบว่า รู้จักแต่ไม่รู้ว่าเธอคนนั้นมาทำงานเวลาไหน วันไหน เพราะตารางเวรเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จริงๆแล้วผมคิดว่าจะขอเบอร์โทรติดต่อหรืออื่นๆ จากพนักงานคนนั้น แต่ก็คิดว่ามันคงไม่ดี อยู่ๆไปถามแบบนี้ เขาไม่น่าจะให้ ดังนั้นแล้ว ผมเหลือแค่ วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ที่จะมาหาเธอ วันศุกร์ที่แล้วเป็นวันที่ผมเจอเธอ ผมคาดว่าวันศุกร์นี้ผมจะเจอเธออีก ...
... วันศุกร์ผมมีเวลาว่างช่วง 10 โมง ถึง เที่ยงเลยลองแวะมาดู ปรากฏว่าผมเจอเธอครับ โอ้ ดีใจมาก แต่เธอดูยุ่งๆกับงาน เดินไปมาระหว่างแผนก ทำให้ผมไม่กล้าเข้าไปคุยเพราะเดี๋ยวจะเป็นการรบกวนการทำงานของเธอ ผมยืนดูตารางหนังและเดินไปมาแถวนั้นซักพักก็พบว่า เธอกลับไปนั่งที่โต๊ะทำบัตรแล้ว และดูน่าจะไม่ยุ่งแล้ว ไม่รอช้า ผมเดินเข้าไปหาทันที แต่ก็มีคนมาทำบัตรเดินตัดหน้าเข้าไปก่อน อ๊ากก ทำให้ผมต้องรอซักครู่ ที่จะได้คุยกับเธอ จนในที่สุดผมก็ได้คุยกับเธอครับ ...
เธอ : สวัสดีค่ะ มาทำบัตรหรอคะ
ผม : จำผมได้มั้ยอ่ะครับ ผมมาทำบัตรวันศุกร์ที่แล้ว
เธอ : อ่อ จำได้สิ ว่าไง จะมาอัพเดทข้อมูลบัตรหรอ หรือว่าบัตรมีปัญหาคะ
ผม : เปล่าครับ ไม่ได้มาทำบัตร คือ เอ่อ...
เธอ : ??? เอ๊ะ เดี๋ยวนะ หรือว่าเธอคือคนที่มาถามหาเรา ตอนวันพฤหัส มีพนักงานแจ้งว่ามีคนมาถามหา
ผม : ใช่ครับ แฮะๆ ผมเอง
เธอ : แล้วถามหาเรา มีอะไรหรือเปล่าค่ะ
ผม : คือ...ผม เอ่อ... ผมอยากรู้จักเธออ่ะครับ เลยมาถามหา แล้วก็อยากรู้ว่าโสดอยู่มั้ยอะไรแบบนี้อ่ะครับ 555+ (ผมอายมาก เพราะว่ามีพนักงานแถวๆนั้นแอบยืนยิ้มดูผมคุยกับเธอด้วย )
เธอ : หาาาาา (เหมือนจะทำตัวไม่ถูก) อ่าา คือเรามีแฟนแล้วอ่ะคะ
ผม : (ช็อคแปป T_T) อ่ออ มีแล้วหรอครับ น่าเสียดายจัง ไม่เป็นไรครับ
เธอ : สงสัยเธอจะมาช้าไปนะ เราเพิ่งคืนดีกับแฟนไป ไม่กี่วันนี่เอง
ผม : อ่อออ เสียดายจังเลยครับ ฮ่าๆ
... จากนั้นเธอก็ลุกออกจากโต๊ะมายืนคุยกับผม บริเวณหน้าโต๊ะทำบัตร ...
เธอ : แล้วคิดยังไงมาชอบเราอ่ะคะ
ผม : ก็วันนั้นรู้สึกคุยถูกคอดีครับ แล้วผมคิดว่า เธออ่ะตรงสเปค พอดีชอบผู้หญิงใส่แว่นอ่ะครับ
เธอ : ผู้หญิงใส่แว่นมีเยอะแยะเลยนะ ทำไมเลือกเราหล่ะ
ผม : เพราะเธอน่ารักไง (ดูเหมือนเธอจะยิ้มใหญ่เลยครับ)
เธอ : แล้วนี่มาตามหาเราทุกวันเลยหรอ
ผม : ครับ คือผมมาเกือบทุกวันเลย (จากนั้นก็เล่าไปว่า มาตามหายังไง ก่อนมาก็ค้นข้อมูลการทำงานพนักงาน..)
เธอ : โหหห ขนาดนี้เลยหรอ โอยยย ขอบคุณมากนะ
ผม : พอดีใกล้สอบแล้วอ่ะครับ เลยต้องรีบหาเธอให้เจอ จริงๆแล้วผมกะว่าถ้าวันศุกร์นี้ถ้าไม่เจอเธอผมก็จะเลิกมาหาแล้วครับ แต่พอดีได้เจอวันนี้ซะก่อน
เธอ : ^^ เอ้อออ เด๋วมานะคะ ขอเราไปเคลียร์งานที่แผนก first class แปปนึง รอก่อนนะ
ผม : ครับ ได้
... จากนั้นผมรอเธอที่โซฟาบริเวณหน้าโรงหนังครับ ผ่านไปประมาณ 5 นาที เธอก็เดินกลับมาแล้วเราก็คุยต่อ โดยเธอก็มากับยืนคุยผมเหมือนเดิม จากนั้นก็คุยเรื่อยเปื่อยครับ สลับกับการที่เธอเดินออกไปทำงาน แล้วก็เดินกลับมาคุยกับผมต่อ เธอได้เล่าเรื่องของเธอหลายเรื่อง ทั้งการเรียน การทำงาน และเรื่องแฟนของเธอด้วย...
เธอ : นี่แล้วไม่มีเรียนหรอ
ผม : มีครับ บ่ายโมง พอดีตอนนี้ว่างเลยแวะมา
เธอ : ขอบคุณจริงๆนะ
ผม : ?
เธอ : นี่เรียนบ่ายโมงไม่ใช่หรอ ตอนนี้มันเที่ยงครึ่งแล้วนะ ยังไม่กลับอีกหรอ
ผม : อ่อก็ว่าจะกลับแล้วครับ
เธอ : ขับรถดีๆ นะฝนตกถนนลื่นๆ แล้วก็ขอบคุณมากนะ
ผม : เธอขอบคุณอะไรเราหรอ เห็นพูดขอบคุณให้เราหลายครั้งแล้ว
เธอ : ขอบคุณที่มาชอบเราไง ขอบคุณที่อุตส่าห์มาตามหาเรา ^^ แล้วก็ขอโทษด้วยนะทำให้ผิดหวัง แต่ก็นะคือเรามีแฟนแล้ว ฮ่าๆ
ผม : ไม่เป็นไรครับ ไม่มีใครผิดหรอก ผมดีใจนะที่ได้เจอเธอ ได้คุยกับเธอ แม้จะช่วงเวลาสั้นๆ ไว้ยังไงถ้าได้มาดูหนังแล้วเจอเธออีก ผมก็จะแวะมาทักทายนะครับ อ่อแล้วก็ขอโทษนะครับ ที่รบกวนเวลาทำงาน มาคุยกัน
เธอ : ไม่เป็นไรคะ ขอบคุณจริงๆนะ บายย
ผม : บายครับ
เรื่องที่ผมเล่าก็ค่อนข้างยาวหน่อยนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงจุดนี้ ถามว่าแห้วมั้ย ก็แห้วครับ แต่ผมกลับรู้สึกว่าผมไม่ได้รู้สีกเสียใจมากนักเหมือนตอนที่เคยโดนผู้หญิงคนอื่นปฏิเสธหรือบอกเลิก เพราะเธอได้ปฏิเสธผมอย่างนุ่มนวล และทำให้ผมไม่รู้สึก fail มากนัก นอกจากนี้เธอยังขอบคุณผมหลายครั้ง ซึ่งมันทำให้ผมเห็นว่าเขายังเห็นคุณค่ากับการกระทำของเรา ผู้หญิงบางคนถ้าปฏิเสธใครแล้วส่วนมากก็คงไม่มานั่งคุยกันต่อซักเท่าไหร่ หรืออาจจะพูดคุยแบบไม่เห็นใจกันซักเท่าไหร่ ณ ตรงนี้ อาจจะเป็นเพราะเธอคนนี้เป็นพนักงานที่ทำงานด้วยบริการด้วยมั้งครับ ทำให้เธอพูดคุยกับผมได้อย่างนุ่มนวลเห็นอกเห็นใจและเข้าใจผม การจีบพนักงาน sf นี่ผมก็ไม่รู้ยากมั้ยนะครับ แต่คิดว่าเป็นความท้าทายอย่างนึงเหมือนกัน ทั้งการมาพบเจอเวลาทำงาน การหาช่วงเวลาเพียงสั้นๆเข้าไปคุย ท่านใดที่มีประสบการณ์จีบพนักงานขายตั๋วหนังก็มาเล่าให้กันฟังได้นะครับ ขอบคุณครับ
*ข้อแก้บางคำนะครับ พอดีช่วงที่ผมพิมพ์ เป็นเวลา ตี 1-2 ผมอาจจะเบลอๆใส่คำผิดบ้าง ขออภัยด้วยครับ