มัลลิกา เรียกร้องพลเอกประยุทธ์เร่งปฏิรูปตำรวจ
มัลลิกา เรียกร้องพลเอกประยุทธ์เร่งปฏิรูปตำรวจและปฏิรูประบบราชการเพราะได้จังหวะจากแล้ว มีพยานปากเอก คือ พลตำรวจเอกสมยศ !!
16.30 น.วันที่ 12 กันยายน 2558 ที่มหาวิทยาลัยรังสิต, นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชน (Mallika for people Foundation) กล่าวว่าขอเรียกร้องไปยังผู้นำรัฐบาลให้สนับสนุนผลักดันและเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนการปฏิรูปตำรวจและปฏิรูประบบราชการ โดยใช้ช่วงเวลา
ช่วงเดียวกันกับที่มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่นี้และขอให้มีคณะทำงานด้านการปฏิรูปเรื่องนี้โดยเฉพาะและภายใต้อำนาจสั่งการของนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ ทั้งนี้จากผลสำรวจความนิยมหลายสำนักประชาชนเชื่อมั่นในการเป็นผู้นำของพลเอกประยุทธ์มีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถดำเนินการเรื่องปฏิรูปให้เสร็จก่อนการเลือกตั้งเนื่องจากการปฏิรูปทั้งสองเรื่องใหญ่นี้ไม่สามารถมีโอกาสเกิดขึ้นได้ภายใต้รัฐบาลจากฝ่ายการเมือง
"จึงขอเรียนท่านด้วยความเคารพว่าท่านคือความหวังของการปฏิรูปทุกครั้งทุกเวทีของการปราศรัยช่วงของการชุมนุมทุกคนก็เน้นเรื่องการสังคายนาระบบราชการและตำรวจดังนั้นเมื่อมีรัฐบาลที่มา จากการปฏิวัติเพื่อแก้ไขปัญหาชาติให้ประชาชนทุกคนจึงเต็มไปด้วยความหวัง เรียนท่านว่าอย่าทำให้ความหวังของประชาชนล่มสลายเลยเพราะคนให้กำลังใจท่านมากมายท่านทำได้แน่โดยที่ไม่ต้องเอาไปยัดไว้ในรัฐธรรมนูญเพียงเพื่อให้รัฐบาลหน้ามาเป็นผู้ดำเนินการมันจะกลายเป็นชนวนความขัดแย้งอยู่อย่างนั้นไม่มีวันจบ" นางมัลลิกา กล่าว
เคยได้ยินคนใกล้ชิดของท่านพลเอกประยุทธ์กล่าวว่าเกรงจะไม่มีคนทำงานถ้าหากปฏิรูปตำรวจและระบบราชการ คิดว่าเรื่องนี้เป็นความเข้าใจผิดเพราะข้าราชการชั้นผู้น้อยจำนวนมากก็มีความต้องการให้เกิดการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงเช่นกันเพื่อคนทำงานเพื่อชาติอย่างแท้จริงโปร่งใสอย่างแท้จริงจะได้มีโอกาสก้าวหน้าบ้าง เวลานี้ดิฉันก็ได้รับเรื่องร้องเรียนจากตำรวจชั้นผู้น้อยเข้ามาที่มูลนิธิจำนวนมากว่าขอให้เป็นปากเสียงให้เกิดการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปตำรวจให้ได้จริงๆขนาดนี้ก็ได้โอกาสและจังหวะแล้วเนื่องจากว่าปัญหาที่สะสมหมักหมมในประเทศเราผ่านระบบราชการและระบบตำรวจ ล่าสุดได้มีพลตำรวจเอกสมยศพุ่มพันธุ์ม่วงนะออกมาเป็นพยานคนสำคัญก็น่าจะใช้โอกาสนี้เริ่มต้นปฏิรูปตำรวจ
ดิฉันเรียกร้องไปยังพลตำรวจเอกสมยศด้วยว่า ท่านควรจะเป็นกำลังสำคัญใช้เวลาหลังเกษียณช่วยนายกรัฐมนตรีทำเรื่องนี้เพราะสารพัดส่วยมิใช่เพิ่งเกิดขึ้นไม่ใช่เพียงแค่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองแต่มันเกือบทุกตารางนิ้วของสตช.มีปัญหานี้ใช่หรือไม่? อย่าเพียงเอาตัวรอดเพราะท่านก็ไม่ใช่เพิ่งมาเป็นตำรว ถึงเวลาปฏิรูปตำรวจหรือยังและนี่คือสาเหตุส่วนหนึ่ง
การปฏิรูปตำรวจคือการจัดรูปแบบใหม่ reform ให้ทันยุคทันสมัยทันเครื่องมือเทคโนโลยีและทันผู้คนที่เปลี่ยนแปลงเร็วมาก โดยต้องเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจว่าตำรวจคือบทบาทหน้าที่ถ้าโฟกัสตรงบทบาทหน้าที่ตำรวจจะไม่ใช่เฉพาะคนใส่เครื่องแบบสีกากีแต่จะหมายถึงคนทำบทบาทหน้าที่ตามกระบวนการกฎหมายความยุติธรรมเบื้องต้นก็จะรวมถึง ป่าไม้ นายอำเภอ เทศบาล สรรพสามิตร ศุลกากร ประมง ขนส่งทางหลวง เกษตร สาธารณสุขและอีกมากมายเพียงแต่ว่าจะต้องแก้ไขให้อำนาจการสอบสวนรวบรวมหลักฐานส่งอัยการได้เช่นกันโดยอำนาจของการเป็นพนักงานสอบสวนมีเพียงตำรวจเท่านั้น หรือแยกอำนาจการสอบสวนออกไปไม่ใช่ผูกขาดไม่เพียงตำรวจแห่งชาติ การโยกย้ายสามารถมีตัวแทนประชาชนร่วมพิจารณาตรวจสอบร้องเรียนประเมินผลการรักษากฎหมายทุก 6 เดือนและอัยการมีอำนาจสอบสวนสั่งคดีที่สำคัญตั้งแต่รับคำร้องทุกข์กล่าวโทษคดีสั่งไม่ฟ้องผู้เสียหายมีสิทธิ์ขอเอกสารสอบสวนและความเห็นทุกระดับสร้างหลักประกันความสุจริตและประสิทธิภาพของการสอบสวนคดีอาญาเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นได้ด้วยสภาปฏิรูป นี่เป็นส่วนหนึ่งจากความพยายามของคณะกรรมการปฏิรูปชุดก่อนนี้เพียงแต่ยังไม่สามารถผลักดันผ่านท่านผู้นำไปได้เท่านั้น เพราะไม่มีธง !! ก็เท่านั้น