หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ร้องไห้หนักมาก...ค้นหาคำตอบที่แท้จริงสาเหตุที่คุณ "โคตรอ่อนไหว" มากกว่าคนอื่น

โพสท์โดย AdamS JaideE
ร้องไห้หนักมาก…ค้นหาคำตอบที่แท้จริงสาเหตุที่คุณ “โคตรอ่อนไหว” มากกว่าคนอื่น

อารมณ์ความรู้สึกเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ผู้อื่นไม่สามารถเข้าใจได้ทั้งหมดอย่างถ่องแท้ บางคนบอบบาง บางคนเข้มแข็ง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และประสบการณ์ที่พบเจอ แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วสิ่งพิเศษบางอย่างคอยควบคุม “ความอ่อนไหว” เหล่านี้อยู่

เป็นคำถามที่คาใจมาเนิ่นนานในเรื่องของ “อารมณ์และความรู้สึก” ที่แตกต่างกันของมนุษย์แต่ละคน

หลายคนร้องห่มร้องไห้แทบเป็นแทบตายเพราะได้ดูภาพยนตร์อันแสนเศร้า แต่หลายคนกลับนั่งเฉยๆ ได้ราวกับไม่มีอารมณ์ร่วมใดๆ แล้วมันเป็นเพราะอะไรกันนะ?

บางคนว่ามันเป็นเรื่่องของจิตใจ บางคนว่าเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อม บางคนว่าเป็นเรื่องของประสบการณ์ หรือบางทีอาจจะเป็นเรื่องของสภาพร่างกายเข้ามาเกี่ยวข้อง และนักวิทยาศาสตร์บางคนก็เชื่อว่ามันมีเรื่องของตัวแปรในสมองของเรามามีเอี่ยว

คำตอบอยู่นี่แล้ว!

จากการศึกษาด้านพันธุศาสตร์มาเป็นเวลาพอสมควรและผ่านการทดลองมากมายหลายครั้ง ในที่สุดเหล่านักวิทยาศาสตร์และนักค้นคว้าวิจัยก็ได้ค้นพบคำตอบว่า มียีนหรือพันธุกรรมบางอย่างที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องของอารมณ์และความรู้สึกที่ติดตัวมา “ตั้งแต่กำเนิด” โดยเรียกมันว่า Sensitive Gene

sensitive-gene01

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย มหาวิทยาลัยมอนเมาต์ และสถาบันการแพทย์ไอน์สไตน์ ค้นพบว่าการที่คนบางกลุ่มแสดงอารมณ์ความรู้สึกอ่อนไหวมากกว่าปกตินั้นเนื่องมาจากการทำงานบางอย่างในสมองควบคู่กับยีนชนิดหนึ่งที่เกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากคนอื่นๆ

ในการทดลอง ผู้เข้ารับการทดสอบ 18 คนต้องมองภาพถ่ายใบหน้าที่แสดงอารมณ์แตกต่างกันหลากหลายรูปแบบ เช่น ยิ้ม หัวเราะ บึ้งตึง หรือร้องไห้ ในขณะที่สมองของพวกเขาก็ถูกทำการสแกนเพื่อดูกระบวนการทำงานไปด้วย ผลการทดลองพบว่าคนที่มีความอ่อนไหวทางอารมณ์ (SPS) มาก จะมีการสูบฉีดเลือดที่รวดเร็วและแรงกว่าในส่วนของสมองเกี่ยวกับการควบคุมอารมณ์

นอกจากนั้นยังมีอีกหนึ่งการทดลองในปี 2012 ทีมนักวิจัยประกอบด้วย Rachael Grazioplene, Colin DeYoung, Fred Rogosch และ Dante Cicchetti ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับการทำงานของเส้นประสาทชนิดคอลีเนอร์จิก (cholinergic) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการควบคุมปฏิกิริยาตอบโต้ต่อสถานการณ์ต่างๆ รวมทั้งการกระตุ้นใหม่ๆ

พวกเขาพบว่าระบบประสาท Cholinergic นั้นจะทำงานในขณะที่เราเผชิญกับสภาวะที่แปลกใหม่และควบคุมไม่ได้ เช่นในสถานการณ์ที่เราไม่เคยพบเจอมาก่อน ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อไม่เคยประสบ เราก็จะไม่สามารถคาดเดาอะไรเกี่ยวกับมันได้เลย จึงทำให้เราเกิดความรู้สึกที่คาดเดาไม่ได้และไม่มีความมั่นคง

อย่างเช่นในการเข้ามหาวิทยาลัยหรือเข้าทำงานวันแรก เราจะไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าระบบของที่แห่งใหม่จะเป็นอย่างไร เพื่อนใหม่จะนิสัยแบบไหน หรือจะมีปัญหาท้าทายใดรอคอยอยู่ ซึ่งอาจจะมีทั้งดีและไม่ดีก็ได้

ในสถานการณ์ที่ “ใหม่” นั้น แต่ละคนจะมีปฏิกิิริยาแตกต่างกันไป บางคนจะมองเหตุการณ์เหล่านั้นว่าเป็น “ความตื่นเต้นท้าทาย” ที่น่าสนใจ แต่บางคนอาจจะมองว่าเป็นสิ่งที่ “น่ากลัวและน่ากังวล” โดยความรู้สึกเหล่านี้ได้รับอิทธิพลมาจากเส้นประสาท cholinergic

แต่ไม่ใช่แค่เพียงระบบประสาทและสมองเท่านั้นที่มีผลต่อมุมมองของมนุษย์เรา การทดลองพบว่าประสบการณ์และสิ่งแวดล้อมรวมทั้งสภาพการเติบโตก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน

ทีมวิจัยได้จัดค่ายสำหรับเด็กและเยาวชนขึ้นโดยใช้เวลานาน 1 สัปดาห์ สมาชิกในค่ายประกอบไปด้วยเด็กๆ ตั้งแต่อายุ 8 ถึง 13 ปี ที่มาจากสภาพสังคมเดียวกัน แต่มีชีวิตและการเลี้ยงดูที่แตกต่างกัน เด็กหลายคนเติบโตมาท่ามกลางความรุนแรงและการถูกทำร้าย ในขณะที่เด็กหลายคนเติบโตมาอย่างปกติสุข

ผลการศึกษาพบว่า เด็กๆ ที่มียีนของอารมณ์และความรู้สึกที่อ่อนไหวเหมือนกันนั้นสามารถมีมุมมองแตกต่างกันต่อค่ายนี้ได้ เด็กที่เติบโตมาในสภาวะที่ถูกทำร้ายจะมองว่าค่ายนี้คือค่ายที่จะเอาเปรียบหรือทำร้ายพวกเขา ในขณะที่เด็กที่เติบโตมาอย่างปกติมองว่ามันเป็นเพียงค่ายและกิจกรรมน่าสนใจทั่วไป

จึงสามารถสรุปได้ว่า แม้ยีนที่เกี่ยวของกับการควบคุมสภาวะทางอารมณ์จะมีผลต่อความอ่อนไหวของผู้คน แต่ปัจจัยภายนอกและตัวแปรหลายอย่างก็มีส่วนสำคัญเช่นเดียวกัน

sensitive-gene03

ดังนั้นแม้ว่าบางคนจะมียีนชนิดนี้อยู่ แต่ถ้าอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี มีประสบการณ์ด้านบวก ก็ไม่จำเป็นว่าคนๆ นั้นจะมีความอ่อนไหวและต้องมองโลกในแง่ลบ

อารมณ์และความรู้สึกอ่อนไหวนั้นมีผลมาจากทั้งส่วนของพันธุกรรมและสภาพแวดล้อม และความอ่อนไหวไม่ได้ส่งผลเสียเสมอไป มันช่วยให้คนมีความเห็นอกเห็นใจและจิตใจที่ดีงามอยากช่วยเหลือคนอื่น แต่คนที่ดูเหมือนไม่รู้สึกก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีความเห็นอกเห็นใจ เพียงแต่พวกเขาไม่ได้แสดงมันออกมาเท่านั้นเอง

ที่มา: elitedaily, ภาพ: pinterest,buzzfeed

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
AdamS JaideE's profile


โพสท์โดย: AdamS JaideE
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
32 VOTES (4/5 จาก 8 คน)
VOTED: น้ำตาลเผ็ด, bgs, MAX MARS, Saisiamasia, ธนาคม, AdamS JaideE, kraitong
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ชายชาวอังกฤษ รีวิวชีวิตวัยเกษียณในไทย เช่าคอนโดอยู่เมืองนนท์ เปิดเผยค่าใช้จ่ายต่อเดือนรวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ ส่วนข้อคิดประจำวันก็คือ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด แต่ถ้าเหนื่อยก็ให้คนอื่นเขาทำบ้าง ขอบคุณครับชาวเขมรตัดพ้อเขาพระวิหารเป็นของเรา ขึ้นลงลำบากมาก พร้อมตั้งคำถามประเทศไทยทำไมต้องปิดทางขึ้นเขาพระวิหารสามล้อถูกหวย จากเศรษฐี 6 ล้าน เหลือแค่รถปั่นกินข้าว เรื่องจริงที่ฟังแล้วทั้งเสียดายทั้งได้ข้อคิดฝรั่งเศสเดือด! ประท้วง “Block Everything” ปิดถนนทั่วประเทศม็อบเจน Z เดือด! บุกเผา “โรงแรมฮิลตัน” วอดทั้งอาคาร หลังเปิดบริการได้เพียง 1 ปีกลุ่มผู้ประท้วง Gen Z เผาบ้านนักการเมืองและคณะรัฐมนตรีกว่า 17 หลัง สร้างมาจากภาษีประชาชน40+ กินอะไรดี อะไรควรกิน อะไรควรเลี่ยงประชาชนบ้าน หนองจาน จวกยับ ปมเปิดด่านไทย-กัมพูชา ลั่นเขมรไว้ใจไม่ได้ ปล่อยให้อดไป เราไม่ได้ต้องการให้เปิดด่านอัปเดตค่าจอดรถห้างทั่วกรุง ปี 2025 (ล่าสุด!)หลักฐานบ่งชี้ว่า ทหารเขมรใช้วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ เป็นที่ตั้งทางทหารและยังใช้เป็นจุดซุ่มยิงทหารไทยด้วยสไนเปอร์บ้านพลเรือน อ.สังขะ ที่โดนลูกหลงจากกระสุนทหารเขมรที่ผ่านมา ได้รับการซ่อมแซมเสร็จเรียบร้อยแล้ว
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เจ็บอื้อ!! หลังเกิดเหตุรถบรรทุกแก๊สระเบิด กลางกรุงเม็กซิโกหลักฐานบ่งชี้ว่า ทหารเขมรใช้วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ เป็นที่ตั้งทางทหารและยังใช้เป็นจุดซุ่มยิงทหารไทยด้วยสไนเปอร์"ไอแซค นิวตัน" เผยปีที่โลกจะแตก..คำนวณไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ.170440+ กินอะไรดี อะไรควรกิน อะไรควรเลี่ยง
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
เจ็บอื้อ!! หลังเกิดเหตุรถบรรทุกแก๊สระเบิด กลางกรุงเม็กซิโกหลักฐานบ่งชี้ว่า ทหารเขมรใช้วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ เป็นที่ตั้งทางทหารและยังใช้เป็นจุดซุ่มยิงทหารไทยด้วยสไนเปอร์"ไอแซค นิวตัน" เผยปีที่โลกจะแตก..คำนวณไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ.1704ย้อยรอยคดีสะเทือนขวัญ "Amanda Todd" เด็กสาวที่เป็นเหยื่อของโซเชียลและการถูกบูลลี่ จนนำมาซึ่งการฆ่ๅตัวตๅยในที่สุด
ตั้งกระทู้ใหม่