รัฐรีดงบทุกหน่วยจ่ายค่าโง่“คลองด่าน” 9 พันล้านบาท
รัฐบาลรีดงบทุกกระทรวงจ่ายค่าโง่“คลองด่าน 9 พันล้านบาท ขอทุกกรมกองร่วมกันลงขันตั้งแต่ 2-10 เปอร์เซ็นต์ แบ่งจ่าย 2 งวด เริ่ม พ.ค.59 ปลัด ทส.โอดอย่าถามเจ็บปวดแค่ไหน เหตุดึงหน่วยอื่นไม่เกี่ยวแต่ต้องร่วมรับผิดชอบ
เมื่อวันที่ 6 ส.ค. นายเกษมสันต์ จิณณวาโส ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดถึงความคืบหน้าการจ่ายค่าเสียตามคำสั่งศาลปกครองในโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน จ.สมุทรปราการ ที่ให้กรมควบคุมมลพิษจ่ายกว่า 10,000 ล้านบาท ว่า ขณะนี้การเจรจาระหว่างกระทรวงทรัพยากรฯ และกลุ่มกิจการร่วมค้าเอ็นวีพีเอสเคจี ได้ข้อสรุปว่า 1.บริษัทร่วมค้าฯ ยอมหยุดการคิดดอกเบี้ยรายวันๆ ละ 1.8 ล้านบาท นับจากวันที่ 29 พ.ย.2557 ที่ศาลมีคำสั่งถึงปัจจุบัน2.เงินที่จะต้องชำระจริง จำนวน 9,000 ล้านบาทถ้วน โดยจะแบ่งจ่ายเป็น 3 งวด คือ งวดแรกจ่ายเดือน พ.ค.2559 จำนวน 3,000ล้านบาท งวดที่ 2 เดือน พ.ย.2559 และงวดที่ 3 เดือน พ.ค.2560 อีกจำนวนงวดละ 3,000 ล้านบาท ซึ่งจากข้อเสนอดังกล่าว ทางกลุ่มกิจการร่วมค้าฯ แย้งว่าสำหรับงวดสุดท้ายซึ่งเลยปีงบประมาณไปแล้ว จะขอคิดดอกเบี้ยตามปกติ โดยทางกระทรวงฯนำข้อเสนอดังกล่าวส่งไปยังสำนักงบประมาณ ซึ่งสำนักงบประมาณทำหนังสือกลับมาว่าให้ไปเจรจากับกลุ่มกิจการร่วมค้าฯ ให้ลดเหลือ 2 งวด เพื่อไม่ให้จ่ายดอกเบี้ย จึงได้ข้อสรุปว่ารัฐจะชำระเงินให้โดยแบ่งเป็น 2 งวด โดยในเดือน พ.ค.2559 จ่ายจำนวน 3,000 ล้านบาท และเดือน พ.ย.2559 จำนวน 6,000 ล้านบาท
นายเกษมสันต์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรฯทำเรื่องแปรญัตติไปยังคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2559 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อขอเงินจากงบกลางจำนวน 9,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างรอขอกรอบวงเงิน
เมื่อถามว่ารัฐบาลจะนำเงินส่วนไหนมาจ่ายเป็นค่าเสียหายให้เอกชน นายเกษมสันต์ กล่าวว่า ต้องนำเงินจากทุกส่วนราชการในทุกระทรวง 2-10 เปอร์เซ็นต์ มาสมทบ โดยแต่ละส่วนราชการสามารถต่อรองได้ตามความจำเป็น เช่น ในส่วนของกระทรวงทรัพยากรฯ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) ถูกตัดไป 25 ล้านบาท สำนักปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ 6 ล้านบาท กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช 80 ล้านบาท เป็นต้น สำหรับ สผ.เป็นปีแรกที่ได้เงินจากกองทุนสิ่งแวดล้อมมาสนับสนุนจำนวน 150 บาท โดยก่อนหน้านี้ สผ.ได้หารือก่อนการอภิปรายพ.ร.บ.รายจ่ายงบประมาณฯว่าจะนำเงินส่วนไหนมาสมทบ เพราะทุกหน่วยงานล้วนมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินทำงานทั้งสิ้น แต่ในที่สุดได้ข้อสรุปว่าจะนำเงินส่วนนี้ไปสมทบ ทั้งนี้เมื่อได้ข้อสรุปชัดเจนแล้ว จะนำเสนอต่อนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการเจรจาไกล่เกลี่ยกรณีคลองด่าน เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุม ครม. ต่อไป
ต่อข้อถามว่ารู้สึกเจ็บปวดหรือไม่ที่จะต้องจ่ายเงินค่าเสียหายกรณีคลองด่าน นายเกษมสันต์ กล่าวว่า ไม่ต้องพูด มันเป็นเหมือนค่าโง่ เงินจำนวนนี้เท่ากับงบประมาณประจำปีในช่วงตั้งกระทรวงทรัพยากรฯใหม่ๆ ในช่วง 5 ปีแรก สามารถนำไปทำอะไรที่เป็นประโยชน์ได้มากมาย จึงไม่ต้องถามว่าหน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง แต่ต้องมาร่วมรับผิดชอบด้วยจะรู้สึกอย่างไร.