ฟองสบู่คอนโดที่คาดไม่ถึง ใครจะเลือกซื้อคอนโดดูทางนี้ค่ะ
จะเลือกซื้อคอนโด มาดูความซบเซาของตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่ยังไม่กระเตื้องจากปี 2558 คือยังติดลบ 1% นั้น ยังมีปรากฏการณ์ฟองสบู่เล็ก ๆ แต่มีนัยสำคัญในกลุ่มห้องชุดบางกลุ่ม
ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส แถลงว่าการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2558 โดยรวม คาดว่าจะมีจำนวน 112,776 หน่วย ลดลงกว่าปี 2557 ประมาณ 1% อย่างไรก็ตามปี 2557 นับเป็นปีที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำเนื่องจากความไม่สงบทางการเมือง โดยจำนวนหน่วยเปิดใหม่ลดลงถึงประมาณ 13% เมื่อเทียบกับปี 2556 การที่สถานการณ์ในปี 2558 กลับยังไม่กระเตื้องจากปี 2557 แสดงถึงปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองที่ยังไม่คลี่คลายนั่นเอง
ในรายละเอียดยังพบประเด็นที่น่าสนใจว่า ตลาดที่อยู่อาศัยใหม่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลหดตัวลดลงแทบทุกระดับราคา ยกเว้นกลุ่มที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท และกลุ่มที่อยู่อาศัยราคาเกิน 5 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่อยู่อาศัยระดับราคาปานกลางค่อนข้างสูงถึงสูงสุด การนี้แสดงว่าประการแรกผู้บริโภคที่มีรายได้สูง เป็นคหบดีหรือลูกจ้างระดับบริหารยังไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ ยังมีกำลังซื้อ และประการที่สองสินค้าราคาต่ำกว่าล้าน มีไว้เพื่อการเก็งกำไร และจะกลายเป็น "ฟองสบู่" ได้ หากไม่ได้รับการจัดการที่ดี
อย่างไรก็ตามประเด็กหลักก็คือผู้บริโภคส่วนใหญ่ถึงสองในสาม (63%) มีความสามารถในการซื้อลดลง จึงทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยหดตัวในระดับราคาตั้งแต่ 1-5 ล้านบาท ทั้งนี้ปี 2558 หดตัวเฉลี่ยถึง 20% หรือหนึ่งในห้าของตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2557 นับเป็นการหดตัวที่รุนแรงที่สุด แสดงถึงภาวะวิกฤติที่กำลังคืบคลานเข้ามาใจระบบเศรษฐกิจไทยที่กำลังอ่อนแอลงเป็นอย่างมาก
เมื่อแยกตามประเภทที่อยู่อาศัยจะได้ข้อค้นพบที่น่าสนใจดังนี้:
คอนโด/ห้องชุดพักอาศัยซึ่งมีขนาดตลาดถึง 66% ของอุปทานที่อยู่อาศัยทั้งหมดในปี 2558 นั้น ห้องชุดราคาไม่เกินล้านน่าจะเปิดใหม่ถึง 18,876 หน่วย ซึ่งเท่ากับเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว (92%) ของปีที่แล้ว สินค้าระดับราคานี้ ในแง่หนึ่งมุ่งบริการแก่ผู้มีรายได้น้อย แต่ในขณะนี้ผู้มีรายได้น้อยมีปัญหาทางเศรษฐกิจ จึงกลายเป็นเป้าของนักลงทุน-เก็งกำไร และอาจกลายเป็น "ฟองสบู่" ได้ในที่สุด จึงพึงระวังเป็นพิเศษ
ยิ่งกว่านั้นยังจะมีการเปิดตัวคอนโด/ห้องชุดราคา 5-10 ล้านบาท 10-20 ล้านบาท และ 20 ล้านบาทขึ้นไปอีก 10,336, 2,976 และ 2,318 หน่วย โดยถือว่าเกิดเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 3 เท่าตัว กลุ่มนี้ก็เป็นกลุ่มที่มีโอกาสเกิด "ฟองสบู่" ได้เช่นกัน แต่โดยที่มักเป็นกลุ่มที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดี ใกล้รถไฟฟ้า ตลาดกลุ่มนี้จึงมีความมั่นคงในระดับหนึ่ง