ไพบูลย์ ตั้งข้อหาใหม่ "ไม่มีอำนาจห้ามคนนอก" บวชภิกษุณี
ก็ดีเหมือนกันแฮะ กรณีมหาเถรสมาคมลงมติ "ถ้าจะมีพระอุปัชฌาย์จากต่างประเทศเข้ามาบวชภิกษุณี ต้องได้รับอนุญาตจากมหาเถรสมาคมก่อน" นั้น หากมองว่ามหาเถรสมาคมทำนอกเหนืออำนาจ ก็มองได้จริง แต่มหาเถรสมาคมก็ "กึ่งยิงกึ่งผ่าน" เพราะถึงยังไงก็ต้องอาศัยกลไกของรัฐในการจัดการอยู่ดี นี่คือหัวใจของเรื่อง แต่ทั้งนี้ สนช. ควรมองให้ไกลไปกว่านั้นว่า มหาเถรสมาคมเป็นองค์กรปกครองสงฆ์ ซึ่งรัฐได้จัดตั้งขึ้นมา ถือว่าเป็นหน่วยงานของรัฐกึ่งศาสนา แบบว่าพิเศษ แต่ถึงอย่างไรมหาเถรสมาคมก็ต้องทำตามแนวนโยบายของรัฐอยู่ดี ไม่มีขัดหรือแย้งกัน ดังนั้น การที่มหาเถรสมาคมออกมติ "ห้ามมิให้พระอุปัชฌาย์จากต่างประเทศ เข้ามาบวชภิกษุณีในประเทศไทยโดยพลการ" นั้น จึงถือว่าเป็นการส่งเสริมรัฐบาลด้วยซ้ำ น่าที่ สนช. จะส่งเสริม แต่นี่กลับขัดขวาง มันก็เป็นเรื่องแปลก เขาเรียกว่า "มือไม่พาย แต่เอาเท้าราน้ำ" ทั้งๆ ที่จริงแล้ว รัฐบาลด้วยซ้ำไป ที่จะต้องออกกฎหมายส่งเสริมคณะสงฆ์ไทยในส่วนนี้ หรือจะปล่อยให้มีการทำอะไรในประเทศไทยก็ได้ โดยอาศัยสิทธิมนุษยชนหรือศาสนาสากล ก็ตามใจนะคุณไพบูลย์ เดี๋ยวก็ปล่อยให้ "โรฮิงญา" และ "อุยกูร์" เข้ามาทำพิธีละหมาดได้ในประเทศไทยเสียหรอก บอกเขาซี ไหนๆ จะรื้อกำแพงวัดทิ้งแล้วมิใช่หรือ ก็รื้อมันรวบซะทีเดียวเลย ทั้งพุทธ คริสต์ และอิสลาม ให้มันโล่งไปจนถึงเมกกะและวาติกันโน่น นะ อย่าดีแต่ด่า !