ช่วยตัวเองบ่อยๆทำให้เป็นหมันจริงหรือ??? คุณหมอขอคอนเฟิร์มดังนี้ครับ
ภาวะเป็นหมัน (Infertility) สามารถเกิดได้ทั้งเพศหญิงและเพศชาย จากการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า เกิดในเพศหญิงพบได้ 40% กรณีเกิดในเพศชาย พบได้ 40% หรือบางกรณีก็เกิดทั้งสองเพศพบได้ 20%
ผู้ชายหลายหลายๆคนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการมีลูกยาก หรือเป็นหมัน ความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับ การเป็นหมันในผู้ชายได้แก่
ความเชื่อที่ 1 : คลื่นสวิทยุ คลื่นไทรศัพย์ การเอาโทรศัพใส่กระเป็ากางเกงทำให้เป็นหมัน
คำตอบทางการแพทย์ : ปัจจุบันจากคลื่นโทรศัพท์นั้น จากข้อมูลในปัจจุบัน ไม่ส่งผลหรือเป็นอันตรายต่อการสร้างหรือทำให้เป็นหมันปัจจัยอื่นๆที่สำคัญและพบได้บ่อยกว่ามากมาย ที่เรามองข้ามไปครับ เช่น การสูบบุหรี ดื่มเหล้า
ความเชื่อที่2 : ช่วยตัวเองบ่อยๆ เสร็จบ่อยๆ ทำให้เป็นหมัน
คำตอบทางการแพทย์ : การช่วยตัวเองบ่อยๆไม่ทำให้เป็นหมันแต่อย่างใด รวมทั้งการมีเซ็กสืและถึงจุดสุดยอดบ่อยๆไม่ทำให้เป็นหมัน จัดไปเต็มที่เลยค่ะ แต่ต้องระวังเรื่องสุขภาพ และระวังเสพติดเซ็กส์ จนกลายเป็นโรคติดเซ็กส์( Sex Addict)ได้
ความเชื่อที่ 3 : มีไข่ข้างเดียวทำให้เป็นหมัน
คำตอบทางการแพทย์ : การมีอัณฑะที่พบข้างเดียวนั้นเกิดจากอีกข้างอยู่ในช่องท้องไม่เคลื่อนลงมาอยู่ในถุงอัณฑะตามปกติ ที่เรียกกันภาษาชาวบ้านว่า ทองแดง การที่อัณฑะอยู่ในภายในนช่องท้องจะมีผลต่อการสร้างตัวอสุจิจริงเพราะอสุจิจะไม่แข็งแรงหรือมีปริมาณน้อยมาก ทำให้เกิดภาวะเป็นหมันได้แต่ไม่เสมอไป ไม่ทุกรายเพราะ ยังมีการหลั่งอสุจิตามปกติได้ค่ะ สามารถตรวจน้ำอสุจิยืนยันได้ ถ้ามีภาวะเป็นหมันจริงแพทย์จะแนะนำวิธีการรักษาโดยการใช้เทคนิครักษาผู้มีบุตรยาก เช่น GIFT, ICSI เป็นต้น
ความเชื่อที่4 ดื่มนมถั่วเหลือง น้ำเต้าหู้ ทำให้เป็นหมัน
คำตอบทางการแพทย์ : ความเชื่อนี้น่าจะมาจากในถั่วเหลืองมีฮอร์โมนเพศหญิง ผู้ชายที่ชอบดื่มน้ำเต้าหู้จึงกังวลใจว่าเอ๊ะ จะเป็นหมันหรือเปล่า คำตอบไม่จริงค่ะ ภาวะเป็นหมันเกิดจากการผิดปกติของฮอร์โมนเอสโตรเจนก็จริงแต่เกิดจากการหลังฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ต่ำ หรือมากเกินไปภายในร่างกาย การดื่มนมถั่วเหลืองเพียงวันละ 1 – 2 แก้วไม่ทำให้มีฮอร์โมนเอสโตรเจนกระฉูดจนเป็นหมันอย่างแน่นอน ดื่มต่อไปค่ะ
ความเชื่อที่ 5 : ใส่กางเกงขาเดฟรัดติ้ว และกางเกงในจิ๋วเกินทำให้อัณฑะอบร้อนเป็นหมันได้ ผู้ชายควรใส่บอ๊กเซ่อร์
คำตอบทางการแพทย์ : ไม่เป็นความจริง จากการศึกษาวิจัยพบว่า อัณฑะที่อยู่ในกางเกงรัดติ้วและกางเกงเบาสบายหรือ ไม่สวมใส่อะไร มีอุณภูมิภายในถุงอัณฑะที่เท่ากัน เพราะหน้าที่ของถุงอัณฑะคือ ดำรงรักษาอุณหภูมิของลูกอัณฑะไว้ให้ต่ำกกว่าอุณหภูมิของร่างกายประมาณ 5 องศาฟาเรนไฮน์ ซึ่งก็คือ 93.6 องศาฟาเรนไฮน์ จะในหรือนอกกางเกงวัดได้เท่าเดิม จัดไปค่ะ รัดติ้วแค่ไหนก็ไม่เป็นหมัน
1.ความผิดปกติที่ลูกอัณฑะ เช่น การอักเสบติดเชื้อ หลอดเลือดดำในถุงอัณฑะโป่งพอง พบได้ 30-40%
2.การได้รับรังสีปริมาณสูง เช่น เอกซเรย์ที่ใช้ในการวินิจฉัย-รักษาโรค
3.ความผิดปกติของสมองส่วนไฮโปธาลามัสและต่อมใต้สมอง พบได้ 1-2%
4. อุบัติเหตุ เมื่อเกิดอุบัติเหตุอาจทำให้ระบบท่ออสุจิแตก หรือรั่ว ทำให้อสุจิบางส่วนสัมผัสกับระบบภูมิต้านทาน หรือเม็ดเลือดขาว เกิดภูมิต้านทานแบบ “ทำลายอสุจิ (antisperm antibodies)” ได้ ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อมีการเตะจุดโทษนักฟุตบอลต้อมกุมเป้าไว้เสมอเพื่อป้องกันการกระเเทกรุนแรง
5. การอุดตันในท่อนำอสุจิ พบได้ 10-20%
6. ขาดธาตุซิลิเนียม ธาตุซีลีเนียมจะมีอยู่ในอาหารหลายชนิด ที่คนเราบริโภคกันอยู่เป็นประจำ อาหารที่มีธาตุซีลีเนียม ได้แก่ อาหารทะเล ตับสัตว์ และเนื้อสัตว์ที่ไม่มีมัน เป็นต้น
7.สารเคมี บางชนิด ยาฆ่าแมลง โลหะหนักดื่มเหล้า สูบบุหรี่จั หรือได้รับสาสาร BPA (bisphenol A) ที่พบในพลาสติกใส-แข็งหนา หรือพลาสติกประเภทตกไม่แตก เช่น ขวดนมเด็ก ขวดน้ำดื่ม มีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเพศหญิง หากมีลูกควรเลี้ยงลูกด้วยขวดนมที่ปลอดสาร BPA
เมื่อทราบสาเหตุปัจจัยและความเสี่ยงที่อาจทำให้คุณผู้ชายทั้งหลายเป็นหมันแล้ว ต้องหมั่นดูแลสุขภาพด้วยนะคะ การไม่มีลูกเป้นอีกสาเหตุของการหย่าร้างได้ค่ะ