ปลดล็อคประมูล 4จี !
เป็นอีกครั้งที่นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คืนความสุขให้ประชาชนคนไทยอย่างแท้จริง ด้วยการ “ปลดล็อค” แผนการคืนคลื่นความถี่ 1800 MHz ที่บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ “แคท” ตั้งแง่ตั้งเงื่อนไขต่อรองเอากับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จนทำเอาแผนประมูล 4จี ปั่นป่วนไปหมด
เพราะเล่นจะให้ กสทช.ต้องให้การรับรองให้ “แคท” ถือครองคลื่นความถี่ 1800 MHz ที่ยังเหลืออยู่ 20 MHz ซึ่งให้ดีแทคนำไปกกเอาไว้โดยไม่ได้ใช้ประโยชน์ใดๆ ต่อไปจนถึงปี 2568 ทั้งที่สัญญาสัมปทานระหว่างกันจะหมดลงในปี 2561 อยู่แล้ว ทำเอา กสทช.อยู่ในภาวะ “น้ำท่วมปาก” อยากได้คลื่นคืนก็อยากได้ แต่จะให้ไปการันตามที่แคทร้องขอก็อยู่นอกอำนาจหน้าที่
เมื่อนายกฯในฐานะประธานคณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิตอลฟันธงให้ “แคท” คืนคลื่นความถี่ดังกล่าวโดยไม่มีเงื่อนไข เพื่อที่ กสทช.จะได้นำไปผนวกกับคลื่น 1800 MHz ที่เตรียมนำออกประมูลเพื่อออกใบอนุญาต 4จี ตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ในปลายปีนี้ จึงเท่ากับ “ปลดล็อค” ให้การประมูล 4จี มีความชัดเจนขึ้นมาทันที
แต่กระนั้นควันหลงจากมติคณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิตอลข้างต้น ก็ใช่ว่าจะทำให้ทุกฝ่ายวางใจว่าเส้นทางประมูล 4จี นับจากนี้คงจะไหลลื่น เพราะทั้งแคทและบริษัทสื่อสารที่ชักใยอยู่เบื้องหลังแผนป่วนประมูล 4จี นั้นใช่ว่าจะยอมรามือ นี่ก็นัยว่ายังคงตั้งแท่นเตรียมฟ้อง กสทช.ให้ระงับการประมูล 4จี นี้เอาไว้ก่อนจนกว่าจะเคลียร์หน้าเสื่อเรื่องให้แคทถือครองคลื่นที่เหลืออยู่ไปจนถึงปี 2568 เหมือนกับที่เคยทำสำเร็จมาแล้วตอนฟ้องคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ให้ระงับประมูล 3จี เมื่อปี 54 จนทำเอาคนไทยหาวเรอรอมือถือ 3จี ข้ามปี
หากหนนี้กลุ่มทุนสื่อสารกลุ่มนี้ยังคิดเล่นเกมสกปรกนี้อยู่อีก ก็คงต้องเชียร์ให้ท่านนายกฯงัด ม.44 ล้างบางกันให้แหลกไปข้าง เพราะอย่างที่ทุกฝ่ายรู้แก่ใจกันดีในวันนี้ เศรษฐกิจไทยไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่หดหู่ ส่งออกที่เคยเป็นกลไกหลักของการขับเคลื่อนจ่อจะติดลบไปถึง 3.5% ในปีนี้
ขณะที่วิกฤติภัยแล้งที่กำลังลามเลีย ทำเอาดัชนีในภาคเกษตรติดลบหนักสุดในรอบ 35 ปี เครื่องยนต์ของภาครัฐที่หวังจะให้เป็นกลไกหลักก็ติดหล่ม เบิกจ่ายงบอืดเป็นเรือเกลือเข้าให้อีกหนทางกอบกู้เศรษฐกิจเวลานี้ จึงเหลืออยู่ก็แต่อุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมและการประมูล 4จี ที่กำลังจะมีขึ้นนี่แหล่ะ ที่น่าจะเป็นกลไกเดียวที่ยังพอจะมีพลังพอจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินไปข้างหน้าได้
ที่สำคัญเป็นนโยบายประชานิยมกระตุ้นเศรษฐกิจที่ประชาชนคนไทยเฝ้าถวิลหา โดยที่รัฐบาลไม่ต้องลงทุนลงแรง หรือต้องไปแสวงหาเม็ดเงินที่ไหนลงมาทุนอีก เพราะบริษัทสื่อสารน้อยใหญ่ พร้อมจะกระโจนเข้ามาร่วมวงไพบูลย์ประมูล 4จี นี้อยู่แล้ว
ตาม “ไทม์ไลน์” ประมูล 4จี ที่ กสทช.วางไว้นั้นเดิมจะจัดประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz จำนวน 2 ใบอนุญาตๆ ละ 12.5 MHz กำหนดราคาตั้งต้น 11,600 ล้านบาทต่อใบอนุญาต รวมค่าต๋ง 2 ใบอนุญาตก็ตก 23,200 ล้านบาท เมื่อผนวกกับคลื่นความถี่ 5 เมกะเฮิรต์สที่แคทยอมคืนมาให้ล่าสุด จะทำให้ใบอนุญาต 4จี ที่จะนำออกประมูลมีความถี่กว้างขึ้นเป็น 15 เมกะเฮิรต์สต่อใบอนุญาต ยังผลให้ราคาตั้งต้นประมูลถูกปรับขึ้นไปเป็น 13,920 ล้านบาท รวม 2 ใบอนุญาตก็ตก 27,840 ล้านบาท ทำให้รัฐมีเม็ดเงินเพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท
และเมื่อรวมกับคลื่น 900 MHz ที่ กสทช.จะนำออกประมูลตามมาในช่วงปลายเดือน ธ.ค.นี้อีก 2 ใบอนุญาตๆ ละ 11,260 ล้านบาท หรือรวม 22,520 ล้านบาท จะทำให้รัฐได้เม็ดเงินค่าธรรมเนียมประมูล 4จี เข้ารัฐไม่น้อยกว่า 52,000 ล้านบาทขึ้นไป
ไม่แต่เท่านั้นผลพวงต่อการกระตุ้นและพลิกฟื้นเศรษฐกิจที่จะตามมานั้นก็อย่างที่ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขา กสทช.ระบุก่อนหน้าหากจัดประมูล 4จี ได้ตามไทม์ไลน์ ประโยชน์ที่จะตกอยู่กับประเทศชาตินั้น ไม่เพียงจะทำให้รัฐได้เม็ดเงินเข้ารัฐไม่ต่ำกว่า 50,000-65,000 ล้านบาท จาก 2 คลื่นความถี่ 1800 และ 900 MHz แล้ว
ในส่วนของบริษัทสื่อสารที่ได้รับใบอนุญาต ยังจะมีการลงทุนในเครือข่าย 4จี ตามมาอีกหลายหมื่นล้านบาท ก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนในระบบเศรษฐกิจตามมาอีกปีละไม่น้อยกว่า 270,000-300,000 ล้านบาท
แล้วอย่างนี้ ฯพณฯท่านนายกฯ จะปล่อยให้ใครที่ไหนมากระตุกเบรกเส้นทางประมูลได้หรือ?!!!