พระพุทธองค์ ตรัส !! พระรูปใดก็ตามแสดงปาฏิหาริย์ถือว่าไม่ใช่สาวกเรา

"หากมีพระรูปใดก็ตาม แสดงปาฏิหาริย์ใดๆ อีก ถือว่าไม่ใช่สาวกเรา"
พระพุทธองค์ทรงห้ามการอวดอุตริมนุสธรรมเอาไว้ พร้อมทั้งคาดโทษพระที่ฝ่าฝืนเอาไว้อย่างหนัก เรื่องนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร

ก่อนอื่น ทุกคนต้องเข้าใจว่า คำว่าเดรัจฉานวิชา คงจะหมายถึงศาสตร์พระเวท มนต์ดำ พลังแห่งการเสกเป่า นั้นมีจริง เพราะ เรื่องนี้ ตอนเจ้าชายสิทธัตถะ ออกตามหาสัจจธรรม เพื่อค้นหาวิธีจะดับการเวียนว่ายตายเกิด โดยคิดว่า อาจมีคำสอนในลัทธิต่างๆ ก็เรียนรู้คาถา ต่างๆ มากมาย

ก็แสดงว่า วิชาอาคม คาถา พระเวทในศาสนาอื่น มนต์ดำ อะไรก็แล้วแต่ มันมีจริงๆ คุณไสย์ ก็มีจริง

แต่สิ่งเหล่านี้ มันคือ สิ่งที่ ไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อ การนำชีวิตคนให้ นำไปสู่การทำความดี ฝึกจิตตนเองให้ สว่าง มุ่งไปสู่การดับทุกข์

และไม่ใช่ ฤทธิ อิทธิปาฏิหาร ที่ได้มาจากศาสนาพุทธ พระพุทธเจ้าตรัสว่า ปาฏิหาริย์มี 3 อย่าง คือ
1.อิทธิปาฏิหาริย์ แสดงฤทธิ์ได้เป็นอัศจรรย์ เช่น แปลงกาย หายตัว ดำดิน เหาะ
2.อาเทสนาปาฏิหาริย์ ทายใจ รู้วาระจิต รู้ความคิดของคนอื่น
3.อนุสาสนีปาฏิหาริย์ คำสอนให้ประพฤติปฏิบัติธรรม ทำความดี ทั้งทาน ศีล ภาวนา จนหมดกิเลสในที่สุด

เราคงจะเห็น คาถาในหนังสือมากมาย ในหนังสือพระ หนังสือสวดมนต์ เพื่อรวย เพราะปกป้อง กับไล่กันสิ่งไม่ดี เพื่อเรียกเงินทอง เพื่อความหนังเหนียว เพื่อแก้นั้น 180 จากการเสกเป่า ทำน้ำมนต์ ถ้าอิทธิฤทธิ์แบบนี้ ไม่มีในพระศาสนา น่ะครับ

แต่เป็นเวทมนต์ มนต์ดำ มนต์ขาว นั้นนี้ ที่มาจาก ปริพาชก นักบวชอื่นๆ ไม่ใช่นักบวชในศาสนาพุทธ แม่มด หมอผี สู้กัน มนต์ดำ มนต์ขาว

แบบนี้ คือ เดรัจฉานวิชาครับ แต่พระสงฆ์ชอบ นำมาใช้ ถ้าฝึกจิตได้แก่กล้าก็หันมาแสดงพลานุภาพจิตตนเอง แล้วหันมาทำสิ่งแบบนี้ ที่ไม่มีในพุทธบัญญัติ

และต่างก็ไม่ได้ทำให้ คนที่ได้รับ อยากทำดี ฝึกจิตตนเองให้ดี เพื่อเจริญในศีลห้า มุ่งไปสู่การนิพพาน แต่คนได้ เครื่องรางของขลัง นำไปใช้เพื่อการเพิ่งความโลภ แสดงหาความร่ำรวย การเบียดเบียด โจรผู้ร้ายก็มีเครืองรางทำบาปกรรม ปราบผี อะไรแบบนี้

กลายเป็นความรัก โลภ โกรธ หลง เข้าใจผิด สิ่งนี้เรียก 'อวิชชา'

คุณว่าพระพุทธเจ้า จะเรียกสิ่งเหล่านี้ ว่าอะไรครับ ทางดับทุกข์หรือเดรัจฉานวิชา

พระสงฆ์สาวกพระพุทธเจ้า แต่งเครื่องแบบสงฆ์ แต่ทำหน้าที่ เท่าๆ แม่มด หมอผี นำประชาชนไปสู่อบายภูมิ ความหลง งมงาย ที่มาของพุทธพานิชย์ จนศาสนาได้รับความเสียหาย เข้าสู่ยุคเสื่อมถอย! ผิดรูปผิดแบบไป จุดประสงค์ของประชาชนที่มานับถือพุทธ จึงไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ศาสนาพุทธ คืออะไร เห็นแต่เสกเป่า พระรุ่นนั้นนี้ ในที่สุด

ในสังคมพอมีครับ พระสงฆ์ที่ปฎิบัติดี และเชื่อฟังคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ไม่เคยเป่าเสกใดๆ

ส่วนพระที่ทำ แบบนี้ เพราะเข้าใจว่า สามารถปลงอาบัติได้นั้นเอง