วัดพระธาตุลำปางหลวง
สวัสดีครับเพื่อนๆพี่ๆทุกคน วันนี้เราทีมงานเมืองไทยดอทคอมจะพาทุกคนเดินทางสู่ดินแดนล้านนา ในครั้งนี้เมืองไทยดอทคอม ได้มีโอกาสเดินทางไปยังจังหวัดลำปางเพื่อแวะไปเที่ยวและนมัสการวัดพระธาตุลำปางหลวงซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองลำปางมาแต่โบราณเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนปีฉลูด้วยครับ ตั้งอยู่ในเขตตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง อยู่ห่างจากตัวเมืองลำปาง ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 18 กิโลเมตรครับ ตัววัดตั้งอยู่บนเนินสูง มีการจัดวางผังและส่วนประกอบของวัดสมบูรณ์แบบที่สุด มีสิ่งก่อสร้าง และสถาปัตยกรรมต่างๆ มากมาย
ในบริเวณพุทธาวาสประกอบด้วย องค์พระธาตุลำปางหลวง เป็นประธาน มีบันไดนาคนำขึ้นไปสู่ซุ้มประตูโขง ถัดซุ้มประตูโขงขึ้นไปเป็น วิหารหลวง บริเวณทิศเหนือขององค์พระธาตุมีวิหารบริวารตั้งอยู่คือ วิหารน้ำแต้ม และวิหารต้นแก้ว ด้านตะวันตกขององค์พระธาตุประกอบด้วย วิหารละโว้ และซุ้มพระบาทซึ่งสร้างครอบพระพุทธบาทไว้ ฐานก่อขึ้นเป็นชั้นคล้ายฐานเจดีย์ สร้างเมื่อ พ.ศ. 1992ภายในมองเห็นแสงหักเห ปรากฏเป็นเงาพระธาตุและพระวิหารในด้านมุมกลับ แต่มีข้อห้ามไม่ให้ผู้หญิงขึ้นด้านใต้มี วิหารพระพุทธ และ อุโบสถทั้งหมดนี้จะแวดล้อมด้วยแนวกำแพงแก้วทั้งสี่ด้านนอกกำแพงแก้วด้านใต้มีประตูที่จะนำไปสู่เขตสังฆาวาส ซึ่งประกอบด้วยอาคารหอพระไตรปิฎก กุฏิประดิษฐาน อาคารพิพิธภัณฑ์และกุฏิสงฆ์ และนอกจากนี้วัดพระธาตุลำปางหลวงยังเป็นที่ประดิษฐาน “พระแก้วดอนเต้า” (พระแก้วมรกต) พระพุทธรูปคู่บ้านคู่ เมืองของจังหวัดลำปาง เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะล้านนาสลักด้วยหยกสีเขียว ทุกปีจะมีงานนมัสการพระแก้วดอนเต้าในวันเพ็ญเดือน 12 ด้วยครับ
ตามตำนานกล่าวว่ามีมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวีในราวพุทธศตวรรษที่ 20 ตอนปลายเป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทยงดงามด้วยสถาปัตยกรรม ประติมากรรม และจิตรกรรมเก่าแก่มากมายพระธาตุลำปางหลวงฐานเป็นบัวลูกแก้ว ส่วนองค์เป็นทรงกลมแบบล้านนาภายนอกบุด้วยทองจังโก ยอดฉัตรทำด้วยทองคำ มีลายสลักดุนเป็นลวดลายประจำยามแบบต่างๆ ลักษณะเจดีย์แบบนี้ได้ส่งอิทธิพลให้พระธาตุหริภุญไชย และพระบรมธาตุจอมทองด้วย ภายในองค์พระเจดีย์บรรจุพระเกศาและ พระอัฐิธาตุ จากพระนลาฎข้างขวาพระศอด้านหน้าและด้านหลัง ที่รั้วทองเหลืองรอบองค์พระธาตุมีรูกระสุนปืนที่หนานทิพย์ช้างยิงท้าวมหายศปรากฏอยู่ด้วยครับ ซึ่งในทางประวัติศาสตร์นครลำปาง วัดพระธาตุลำปางหลวงมีประวัติว่า เมื่อปี พ.ศ. 2275 นครลำปางว่างจากผู้ครองนครและเกิดความวุ่นวายขึ้น สมัยนั้นพม่าเรืองอำนาจได้แผ่อิทธิพลปกครองอาณาจักรล้านนาไว้ได้ทั้งหมด พม่าได้ยึดครองนครเชียงใหม่ ลำพูน โดยแต่งตั้งเจ้าผู้ครองนครอยู่ภายใต้การปกครองของกษัตริย์พม่า ท้าวมหายศเจ้าผู้ครองนครลำพูนได้ยกกำลังมายึดนครลำปาง โดยได้มาตั้งค่ายอยู่ภายในวัดพระธาตุ ลำปางหลวง ครั้งนั้นหนานทิพย์ช้าง ชาวบ้านปงยางคก (ปัจจุบันอยู่อำเภอห้างฉัตร) วีรบุรุษของชาวลำปางได้รวบรวมพลทำการต่อสู้ทัพเจ้ามหายศ โดยลอบเข้ามาในวัด และใช้ปืนยิงท้าวมหายศตายแล้วตีทัพลำพูนแตกพ่ายไป ปัจจุบันยังปรากฏรอยลูกปืนอยู่บนรั้วทองเหลืองที่ล้อมองค์พระธาตุเจดีย์ ต่อมาหนานทิพย์ช้างได้รับสถาปนาขึ้นเป็น พระยาสุลวะลือไชยสงคราม เจ้าผู้ครองนครลำปาง และเป็นต้นตระกูล ณ ลำปาง เชื้อเจ็ดตน ณ เชียงใหม่ ณ ลำพูน ณ น่านจนถึงปัจจุบันครับ
วัดพระธาตุลำปางหลวง นับเป็นโบราณสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทยเราและยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งควรค่าแก่การเคารพและสักการะอีกด้วย ดังนั้นเมื่อเราเดินทางมาท่องเที่ยว เราจึงควรแต่งการให้สุภาพให้เกียรติกับสถานที่ด้วยนะครับ และวัดพระธาตุลำปางหลวงเป็นอีกวัดหนึ่งที่ใครได้มาเยือน จังหวัดลำปางแล้วจะต้องแวะมาสักการะพระธาตุและเยี่ยมชมให้ได้นะครับ
http://www.muangthai.com/thaidata/53735/วัดพระธาตุลำปางหลวง-จ-ลำ