นี่มันชีวิตกู!! เป็นเรื่องราวที่โดนใจชาวเน็ตมากที่สุด
เป็นเรื่องราวชีวิตของมนุษย์เงินเดือน ที่ใครๆหลายคนก็ต้องเจอแบบนี้ คือร้องอ่านบทความที่เขาเขียนแล้ว เฮ้ยมันใช่เลยอ่ะ จะโดนสักแค่ไหนเรามาลองไปอ่านดูพร้อมๆกันเลยนะครับ
มาสายไม่ด่าก็หักเงินกู
ทำงานช้าก็ว่ากูขี้เกียจ
จะไปขี้ไปห้องน้ำยังต้องขออนุญาต
กูป่วยก็หาว่าตอแหล บังคับให้หาใบรับรองแพทย์มายืนยัน!
สรุป…เป็นพ่อกูหรอ??
เป็นลูกน้องเข้างานต้องตรงเป๊ะ
เป็นหัวหน้าเข้างานบ่ายก็ได้.....
แดกข้าวเที่ยงกูแดกข้างบริษัท
ร้านอีป้ากูแดกมาตั้งแต่ลูกมันยังเด็ก
นี่ลูกมันมีผัว3-4คนแล้ว ไม่อร่อยแต่ต้องทนแดก กลัวกลับมาทำงานที่สั่งไวเมื่อเช้าไม่ทัน
ส่วนพวก
แดกข้าวเที่ยงหรือข้าวเย็นกูยังงง
ออกจากบริษัท11โมงบอกไปแดกข้าว กลับมาอีกทีบ่าย3!!!
เข้ามาถึงก็ถามงานที่สั่งใว้เมื่อเช้า..เสร็จยัง???
จำไว้นะครับ
บริษัทอะมันไม่ใช่พ่อเรา!!
มันไม่เห็นเราเป็นญาติมันด้วย
มันยิ้มให้คุณเพราะคุณทำงานให้มัน
คุณรู้มั้ย??
ลาออกกับไล่ออกเหมือนและไม่เหมือนกัน!! ลาออกกับไล่ออกเหมือนคือตกงานเหมือนกัน
ที่ไม่เหมือนคือ
ลาออกคุณได้คิดได้วางแผนได้ออกแบบชีวิตตัวเอง คุณอาจจะวางแผนว่าจะออกไปหางานที่ใหม่ทำ
หรือวางแผนออกไปค้าขาย
ไล่ออกคุณแม่งไม่ได้เตรียมการ
ไม่ได้วางแผนไม่ได้ตั้งตัว ไม่ได้..เลือกเอง!!
เชี่ย!!!!….นี่มันชีวิตกูนะเว้ย!!
กูต้องเลือกเองสิว่ะ!!!!
17-18ปีแล้วครับผมได้เขียนใบลาออกครั้งสุดท้าย ออกจากการเป็นลูกจ้าง ออกจากชีวิตเก่า
ออกมาเป็น…ขี้ข้าตัวเอง!!!
กำหนดชีวิตตัวเอง
ผมยกตัวอย่างง่ายๆนะ
คุณเป็นพนักงานแบงค์ที่เก่งที่สุดในโลกแล้วไง?? เก่งแล้วคุณจะได้เป็นเจ้าของแบงค์ป่าว???ทำจนวันตายก็ไม่ได้เป็นเจ้าของแบงค์!!!
แต่!!
ถ้าคุณทำบะหมี่เก่ง/อร่อย
วันนึงคุณมีโอกาศเป็นเจ้าของโรงงาน/เจ้าของแบรนด์บะหมี่ได้!!
จะเจ๊งตอนไหน?
ตอนนี้ตอนที่อายุยังน้อยล้มแล้วลุกได้แก้ตัวได้ หรือจะล้มตอนอายุ45-50
เจ๊งธุระกิจตอนอายุขนาดนั่นนี่จองเมรุเลยนะ!!!
เลือกเอานี่มัน…ชีวิต!!!
Cr สิริทัศน์ สมเสงี่ยม