ญี่ปุ่นเพิ่มบทบาทในสหประชาชาติ เพื่อตอบโต้การขยายอิทธิพลของจีน
ปัจจุบันมีชาวญี่ปุ่นทำงานอยู่ในหน่วยงานต่างๆ ขององค์การสหประชาชาติ จำนวนมากเป็นประวัติการณ์ทั่วโลก
การเพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นผลจากแผนระยะเวลา 5 ปี ของรัฐบาลญี่ปุ่น ที่มุ่งส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าไปดำรงตำแหน่งสำคัญในองค์กรระหว่างประเทศขนาดใหญ่นี้ เพื่อตอบโต้สิ่งที่กรุงโตเกียวมองว่า "จีนกำลังใช้สหประชาชาติเป็นเครื่องมือ ในการขยายอิทธิพลเหนือประเทศอื่นๆ" แม้ผู้เชี่ยวชาญ นักวิเคราะห์ และ ข้าราชการที่ทำงานให้สหประชาชาติ จะถูกคาดหวังให้ตัดสินใจอย่างเป็นกลาง และ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด แต่ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่เริ่มกังวลว่า "แทนที่จะรักษาความเป็นกลาง จีนกลับใช้เวทีของสหประชาชาติ เพื่อส่งเสริมเป้าหมายทางภูมิรัฐศาสตร์ของตนเอง"
นักวิเคราะห์บางส่วนในญี่ปุ่น กล่าวว่า "นอกจากจีนจะใช้งบประมาณช่วยเหลือจำนวนมหาศาล เพื่อดึงดูดประเทศกำลังพัฒนา และ กำลังเร่งขยายศักยภาพทางทหารแล้ว การดำเนินการทางการทูตผ่านองค์กรพหุภาคีอย่างสหประชาชาติ ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่จีน ใช้เพื่อโน้มน้าวประเทศอื่นๆ"
เจ้าหน้าที่จีนในสหประชาชาติ กับการผลักดันผลประโยชน์ของปักกิ่ง?
ศาสตราจารย์ "สตีเฟน เนกี" จากมหาวิทยาลัยคริสเตียนนานาชาติ ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า "จีนต้องการให้มีเจ้าหน้าที่ในสหประชาชาติ ในสัดส่วนที่สะท้อนถึงจำนวนประชากร และ เงินสนับสนุนที่จีนจ่ายให้กับองค์กร" และ "จีนประสบความสำเร็จอย่างมาก ในการผลักดันบุคลากรของตน เข้าไปอยู่ในคณะกรรมการสำคัญหลายแห่ง" และ "แม้เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติ จะต้องทำงานเพื่อองค์กร แต่หลายคนกังวลว่า เจ้าหน้าที่ชาวจีนกำลังเร่งผลักดันผลประโยชน์ของจีน และ ขัดขวางการดำเนินการใดๆ ที่อาจเป็นผลเสียต่อปักกิ่ง"
ประเด็นหนึ่งที่จีนมีความอ่อนไหวเป็นพิเศษ คือ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ด้านสิทธิมนุษยชน ต่อการปฏิบัติต่อชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์ในเขตซินเจียง ซึ่งนักวิจารณ์กล่าวหาว่า "จีนพยายามปกปิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน และ แทรกแซงกระบวนการจัดทำรายงานของ "สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ" ซึ่งเผยแพร่ในเดือนสิงหาคม 2022" หลังจากล่าช้าโดยไม่มีคำอธิบายเป็นเวลาหลายเดือน รายงานดังกล่าวระบุถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างร้ายแรงในซินเจียง แต่จีนปฏิเสธข้อสรุปทั้งหมด โดยกล่าวว่า "เป็นข้อมูลที่ถูกบิดเบือน"
ญี่ปุ่นเดินหน้าตอบโต้
"สตีเฟน เนกี" กล่าวอีกว่า "ญี่ปุ่นกำลังตอบโต้ในวิธีที่ตนสามารถทำได้ โดยญี่ปุ่นมองว่า "ภาวะผู้นำภายในสหประชาชาติกำลังถดถอย" และ "เห็นว่าจำเป็นต้องเสริมสร้างบทบาทของตนเอง เพื่อทำให้องค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกครั้ง""
กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ได้ออกมาประกาศเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2005 ว่า "ณ สิ้นปี 2024 มีชาวญี่ปุ่นทำงานในหน่วยงานของสหประชาชาติ รวม 979 คน ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการเก็บสถิติในปี 1990 และ ใกล้บรรลุเป้าหมาย 1,000 คน ภายในปีนี้ [ซึ่งเป็นไปตามที่ประกาศไว้ในปี 2021]" นอกจากนี้ ชาวญี่ปุ่นยังดำรงตำแหน่งระดับสูงมากขึ้น โดยมีจำนวนถึง 94 คน ในระดับรองผู้อำนวยการขึ้นไป ใน 44 หน่วยงานของสหประชาชาติ ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่เช่นกัน...
ในทางตรงกันข้าม ข้อมูลจากเว็บไซต์ของสหประชาชาติระบุว่า "ในปี 2009 มีชาวจีนทำงานในสหประชาชาติ 794 คน และ เพิ่มขึ้นเป็น 1,647 คนในปี 2023"
แรงผลักดันสำคัญของญี่ปุ่นเกิดขึ้นในต้นปี 2021 เมื่อชาวจีนเป็นผู้นำหน่วยงานของสหประชาชาติถึง 4 แห่ง รวมถึงองค์การอาหารและเกษตร สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ และ องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ อีกทั้งใน 15 หน่วยงานหลักของสหประชาชาติ ยังมีรองหัวหน้าที่เป็นชาวจีนถึง 9 แห่ง
สำนักเลขาธิการความมั่นคงแห่งชาติ และ กระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น จึงได้รับมอบหมายให้พัฒนาบุคลากรที่มีทักษะเหมาะสม เพื่อรับบทบาทผู้นำระดับโลก และ ฟื้นฟูสถานะของญี่ปุ่นที่เคยถูกลดบทบาทลง
ญี่ปุ่นยังพยายามดึงดูดองค์กรระหว่างประเทศ ให้มาตั้งฐานในประเทศมากขึ้น นอกจากมหาวิทยาลัยสหประชาชาติ ที่ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียวแล้ว เมืองหลวงของญี่ปุ่นยังผลักดันอย่างหนัก เพื่อเป็นที่ตั้งของสำนักงานภูมิภาคเอเชีย ของศาลอาญาระหว่างประเทศ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกรุงเฮก
ญี่ปุ่นกับภาพลักษณ์ ของประเทศในอุดมคติ
นักวิชาการบางส่วนมองว่า "แรงจูงใจหลักของญี่ปุ่นอาจไม่ได้มาจาก การต่อต้านอิทธิพลของประเทศอื่นเท่านั้น แต่เป็นความตั้งใจที่จะมีส่วนร่วมในเวทีโลก" ซึ่งศาสตราจารย์ "ฮิโรมิ มูราคามิ" จากมหาวิทยาลัยเทมเปิล วิทยาเขตโตเกียว กล่าวว่า "ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีอุดมคติ" และ "นับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศมา ก็มีความเชื่อว่าสหประชาชาติ จะสามารถเข้าไปจัดการกับปัญหาใดๆ ได้ทุกเมื่อ" และ "แม้มุมมองนั้นอาจล้าสมัยไปแล้ว แต่ญี่ปุ่นยังคงคาดหวังว่า สหประชาชาติจะสามารถเข้าไปแก้ไขวิกฤตต่างๆได้" และ "ญี่ปุ่นต้องการมีส่วนร่วมในกระบวนการนั้น" และ "วิธีที่ดีที่สุดก็คือ การเพิ่มบทบาทของตนภายในองค์กร" และ "ญี่ปุ่นจะเดินหน้าตามแนวทางนี้ต่อไป ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี "ซานาเอะ ทาคาอิจิ" ซึ่งมีวิสัยทัศน์ต่ออนาคตของญี่ปุ่นในทิศทางเดียวกัน"
อ้างอิง : https://www.dw.com/en/japan-raises-its-un-presence-to-counter-chinas-influence/a-75216554
แฉเรือทุนไทยขายน้ำมันให้เขมร อดีต สว ประกาศ เตือน ทัพเรือสั่ง 'จมเรือ' ได้ทันที เพราะประกาศกฎอัยการศึก
ย้อนวันวาน “ศูนย์อาหารมาบุญครอง พ.ศ. 2535” ต้นแบบฟู้ดคอร์ทไทย จากคูปองเงินสด สู่ยุคสแกนจ่ายในปลายนิ้ว
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญ
ถล่มอุโมงค์ลับ เนิน 350 ทัพฟ้าส่ง F-16 เสิร์ฟไข่ 6 รอบติด
🎓 สาวเนิร์ดจากรั้วมหา'ลัยดังญี่ปุ่น สู่เส้นทาง AV เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังความต้องการ 'สุดโต่ง' 💥
อันวา ร้ายลึก แอบขายอาวุธ ให้กัมพูชา
"ฮุน มานี" นำประชาชนกัมพูชาเดินขบวนกลางกรุงพนมเปญ..เพื่อเรียกร้องสันติภาพ
โค้งสุดท้ายก่อนสิ้นปี! คลังเร่งประชาชนใช้สิทธิ “คนละครึ่งพลัส” ภายใน 19 ธ.ค. นี้ หนุนร้านค้าชุมชนรับเงินเพิ่ม 2,000 บาท กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากทั่วประเทศ
ประธานสมาคม ตามไปตำหนินักกีฬา ถึงกับร้องไห้โฮ ในซีเกมส์ครั้งที่ 33
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
แก๊งมุสลิมเข้ายึดครองเรือนจำในอังกฤษ
ด่วน!! รายงานข่าว ไทยส่อสูญเสีย โดรนระดับท็อป Dominator XP
เปลี่ยนบ้านเป็นพิพิธภัณฑ์! เมื่อ "ผักกาดขาว" เจ้าปัญหา กลายเป็นงานศิลปะระดับโลกในพริบตา
อันวา ร้ายลึก แอบขายอาวุธ ให้กัมพูชา
ฝันร้ายกลางสนามบิน! ไวรัลกระเป๋าเดินทางสภาพ “ยับเยิน” เหมือนผ่านสงคราม แต่ตอนจบหักมุมจนชาวเน็ตอึ้ง
"เลิกงานแล้วจ้า!" ไวรัลเจ้าดาวทะเลสายชิลล์ โบกมือลาปิดพิพิธภัณฑ์ ทำชาวเน็ตขำกลิ้ง
😯 เพราะเหตุใดดวงตาของคุณถึงมีขี้ตาเมื่อคุณนอนหลับ 😃
เปลี่ยนบ้านเป็นพิพิธภัณฑ์! เมื่อ "ผักกาดขาว" เจ้าปัญหา กลายเป็นงานศิลปะระดับโลกในพริบตา
อันวา ร้ายลึก แอบขายอาวุธ ให้กัมพูชา
ฝันร้ายกลางสนามบิน! ไวรัลกระเป๋าเดินทางสภาพ “ยับเยิน” เหมือนผ่านสงคราม แต่ตอนจบหักมุมจนชาวเน็ตอึ้ง
"เลิกงานแล้วจ้า!" ไวรัลเจ้าดาวทะเลสายชิลล์ โบกมือลาปิดพิพิธภัณฑ์ ทำชาวเน็ตขำกลิ้ง

