ตำรวจออสเตรเลียพบ"หัวหมู" จำนวนหลายหัวถูกเอาไปทิ้งภายในสุสานมุสลิมแห่งหนึ่งที่ชานเมืองของนครซิดนีย์ ซึ่งเกิดตามหลังเหตุกราดยิงที่หาดบอนไดเกิดขึ้น

*** ภาพประกอบ รูปหัวหมู ไม่ใช่ภาพประกอบเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น ***

ตำรวจออสเตรเลียต้องรีบเปิดการสอบสวนอย่างเร่งด่วน หลังมีการพบ “หัวหมู” หลายหัวถูกนำไปทิ้งไว้ภายในสุสานมุสลิมแห่งหนึ่ง ในย่านนาเรลแลน ชานเมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ของนครซิดนีย์ สถานที่ซึ่งควรเป็นพื้นที่แห่งความสงบ การรำลึก และศรัทธา กลับถูกทำลายด้วยการกระทำที่จงใจยั่วยุและสร้างความเกลียดชังอย่างชัดเจน

สื่อท้องถิ่นรายงานตรงกันว่า เหตุการณ์นี้ถูกพบเมื่อวันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม จากคลิปวิดีโอที่ถูกเผยแพร่ออกมา ภาพในคลิปชวนให้ใจหาย—หัวหมูและชิ้นส่วนของหมูที่ถูกชำแหละ ถูกวางกระจัดกระจายอยู่ภายในสุสานมุสลิม ราวกับต้องการส่งสารบางอย่างที่โหดร้ายและดูหมิ่นศาสนาอย่างที่สุด

ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีการนำซากสัตว์ไปทิ้งไว้บริเวณทางเข้าสุสาน บนถนนริชาร์ดสัน เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ ก็พบหัวหมูจำนวนหลายหัวจริง ๆ และนั่นทำให้การสอบสวนเริ่มต้นขึ้นทันที “เราได้เก็บกวาดและกำจัดซากเหล่านั้นอย่างเหมาะสมแล้ว” ตำรวจระบุ พร้อมย้ำว่าการสืบสวนยังดำเนินต่อไป เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดและแรงจูงใจเบื้องหลังเหตุการณ์นี้

สิ่งที่ทำให้บรรยากาศตึงเครียดขึ้นไปอีก คือช่วงเวลาที่มันเกิดขึ้น… เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากโศกนาฏกรรมใหญ่ที่หาดบอนได ชายวัย 50 ปี และลูกชายวัย 24 ปี เปิดฉากกราดยิงใส่ผู้คนบนชายหาดชื่อดังของซิดนีย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 15 คน และมีผู้บาดเจ็บอีก 42 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

หนึ่งในมือปืนถูกวิสามัญในที่เกิดเหตุ ส่วนอีกคนได้รับบาดเจ็บสาหัส และทางการออสเตรเลียได้ประกาศชัดว่า เหตุกราดยิงครั้งนั้นถูกจัดเป็น “การก่อการร้าย” อย่างเป็นทางการ

เมื่อเหตุรุนแรงสองเหตุการณ์เกิดขึ้นไล่เลี่ยกัน บรรยากาศความหวาดระแวง ความโกรธ และความเจ็บปวด จึงปกคลุมสังคมออสเตรเลียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลายคนตั้งคำถามว่า นี่เป็นเพียงการก่อกวน หรือเป็นสัญญาณของความเกลียดชังที่กำลังก่อตัวรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การทิ้งซากสัตว์ในที่สาธารณะ แต่มันกระทบลึกถึงศรัทธา ความรู้สึก และความปลอดภัยของผู้คนทั้งชุมชน และทั้งประเทศกำลังจับตาดูว่า ความจริงเบื้องหลัง “หัวหมูในสุสาน” ครั้งนี้ จะถูกเปิดเผยไปในทิศทางใด และสังคมจะรับมือกับบาดแผลนี้อย่างไรต่อไป