ผู้เชี่ยวชาญเขมรเปิดเกมรุก! ชี้ต้อง ‘ทำลายศักยภาพทหารไทย–พึ่งมหาอำนาจ’ ถึงจะหยุดไทยได้

เมื่อครู่นี้ดิฉันได้อ่านข่าวหนึ่ง
เป็นข่าวที่ต้องบอกว่า เผ็ดร้อนจนต้องขยี้ตารอบสอง เพราะเป็นถ้อยคำรุนแรงจากนักรัฐศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงของกัมพูชา ที่ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศในลักษณะ “เปิดหน้าชน” ประเทศไทยเต็มรูปแบบ

จากรายงานของ dap-news สื่อกัมพูชา
นักวิชาการหลายคนพูดไปในทิศทางเดียวกันว่า หากต้องการยุติสิ่งที่พวกเขาอ้างว่าเป็น “การรุกรานของไทย” นั้น กัมพูชามีเพียงสองหนทางคือ
หนึ่ง – ทำลายศักยภาพทหารไทย
สอง – ใช้แรงกดดันจากประเทศมหาอำนาจบีบไทยในเวทีโลก

เนื้อหาและคำพูดที่ถูกเผยแพร่นั้นรุนแรงจนดิฉันรู้สึกสะเทือนใจไม่น้อย

Dr. Kin Phe ผู้อำนวยการสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่งราชบัณฑิตยสถานกัมพูชา กล่าวหาประเทศไทยด้วยถ้อยคำที่ค่อนข้างรุนแรง ทั้งเรื่องความโหดร้าย การใช้อาวุธ และการทำลายมรดกชาติกัมพูชา พร้อมย้ำว่าหากไม่ “ทำลายศักยภาพสยาม” ก็จะไม่สามารถหยุดความก้าวร้าวได้

เขมรยังเรียกร้องให้ 5 มหาอำนาจสำคัญ ได้แก่
จีน สหรัฐฯ ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และรัสเซีย
เข้ามาออกแรงกดดันไทยทั้งด้านเศรษฐกิจ การทูต และทางทหาร

ด้านศาสตราจารย์ Yang Pov

เลขาธิการราชบัณฑิตยสถานฯ ก็กล่าวในทิศทางเดียวกันโดยระบุว่า
กัมพูชาจะยุติสงครามได้ก็ต่อเมื่อ “เข้มแข็งขึ้น” และ “เลิกความรู้สึกผูกพันกับไทย”
รวมถึงกล่าวหาว่าไทยมีอุดมการณ์ทางการเมืองที่ไม่เคารพกฎหมายระหว่างประเทศ

ส่วนผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง Thong Mengdawit

กล่าวหาว่าไทยกำลังใช้สถานการณ์ชายแดนเพื่อสร้างคะแนนนิยม พร้อมเสนอให้กัมพูชาส่งกำลังเสริมโจมตีฐานทัพไทย และใช้กฎหมายระหว่างประเทศบีบทางการทูตเพิ่มเติม

แม้จะมีคำพูดที่รุนแรงจากฝ่ายนักวิชาการกัมพูชา แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ

ปัญญา สติ และการทูตที่มีความรับผิดชอบของทั้งสองประเทศ

เสียงจากนักวิชาการอาจเป็นเพียงมุมหนึ่ง แต่การรักษาความสงบของประชาชนทั้งสองฝั่งคือหัวใจที่สำคัญที่สุดค่ะ