ชายแดนเดือด ปะทะภูผาเหล็ก ทหารเขมรยิงปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลัง ไทยเจ็บ 2 อพยพด่วน 4 จังหวัดชายแดน

สวัสดีชาว Postjung ทุกคน  วันนี้เอาข่าวร้ชายแดนไทย-กัมพูชามาเล่าให้ฟังกันแบบสดๆเลย วันนี้ 7 ธันวาคม 2568 เวลาประมาณ 14:15 น. ที่ ภูผาเหล็ก พรานหิน 8 ก้อน จังหวัดศรีสะเกษ ระหว่างหน่วยเฉพาะกิจที่ 1 พัน ร.3 ของไทย

กับกองกำลังฝั่งกัมพูชา ตอนแรกเป็นการปะทะด้วย ปืนเล็ก ธรรมดา ๆ แต่พอฝั่งกัมพูชาเห็นสถานการณ์ยังไม่เป็นใจ ก็จัดหนักยิงด้วย ปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลัง ใส่ฝ่ายไทยแบบเต็ม ๆ

ฝ่ายไทยก็ยิงตอบตามกฎการปะทะไม่เกินเหตุ ทำให้การปะทะทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่องประมาณ 35 นาที ก่อนที่เหตุการณ์จะยุติลงเวลา 14:50 น.

จากเหตุการณ์นี้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยบาดเจ็บ 2 นาย ได้แก่ สิบเอก อนุชาติ เรือนคำ ถูกยิงเข้าที่ขา และ พลทหาร พรชัย จำปาจุม ถูกยิงใส่เสื้อเกราะบริเวณหน้าอก ทำให้เกิดรอยฟกช้ำและรู้สึกแน่นหน้าอก

แต่โชคดีมากที่ กระสุนไม่ทะลุ เพราะสวมใส่เสื้อเกราะกันกระสุน ทั้งคู่ถูกลำเลียงไปรับการรักษาพยาบาลเบื้องต้นที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โดนอาว ก่อนจะส่งต่อไปยัง โรงพยาบาลกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อรักษาต่ออย่างปลอดภัย

ด้านกองทัพภาคที่ 2 แม่ทัพออกมายืนยันว่า ขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์และพื้นที่ได้แล้ว แต่ยังคงเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพราะสถานการณ์ยังไม่แน่นอนและมีโอกาสขยายวงกว้างได้

กองทัพจึงได้แจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในอำเภอแนวชายแดนของ 4 จังหวัดอีสานใต้ ได้แก่ บุรีรัมย์, สุรินทร์, ศรีสะเกษ, และอุบลราชธานี รีบอพยพไปยังศูนย์พักพิงที่จัดเตรียมไว้เพื่อความปลอดภัย

ชาวบ้านแถวชายแดนต่างเร่งขนของขึ้นรถ เตรียมพร้อมเข้าศูนย์พักพิงตามที่แจ้งทันที บ้านไหนมีบังเกอร์ก็เตรียมรับสถานการณ์ไว้เรียบร้อย

บรรยากาศในพื้นที่ตอนนั้นค่อนข้างตึงเครียด ชาวบ้านหลายคนกังวลและรีบจัดกระเป๋า บางคนช่วยกันขนของขึ้นรถเพื่อไปศูนย์พักพิง ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารก็ตรวจสอบจุดสำคัญต่าง ๆ

คอยสอดส่องและเฝ้าระวังไม่ให้เหตุการณ์บานปลาย เสียงปืนและความตึงเครียดยังอยู่ในอากาศแม้เหตุการณ์ปะทะหลักจะจบไปแล้ว

เอาเป็นว่าเพื่อน ๆ ใครอยู่แถวชายแดน รีบ เตรียมตัวให้พร้อม ตรวจสอบศูนย์พักพิงใกล้บ้าน และฟังคำสั่งเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่ามาเสียดายทีหลัง เหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่างว่าความไม่แน่นอนของชายแดนยังมีอยู่สูง การเตรียมพร้อมและความระมัดระวังจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด