เผยผลสำรวจสื่อดังกัมพูชา..มีคนเขมรกว่า 94% ให้บอยคอตต์สินค้าไทย

              เผยผลสำรวจสื่อดังกัมพูชา..มีคนเขมรกว่า 94% ให้บอยคอตต์สินค้าไทย ทั้งนี้ท่ามกลางความตึงเครียดอย่างรุนแรงระหว่างไทยกับกัมพูชาก็พบว่าคนเขมรส่วนใหญ่จากทั้งหมด 4,328 ราย สนับสนุนให้เลิกใช้สินค้าทุกอย่างจากไทย แม้จะมีบางส่วนออกมาแสดงความกังวลกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ตามมา

               สื่อดังอย่าง "ขแมร์ไทม์" ออกมารายงานกระแสชาตินิยมในกัมพูชา หลังมีการกล่าวหาว่าไทยควบคุมตัวทหารกัมพูชาเอาไว้ 18 รายโดยไม่ชอบหลังมีการตกลงหยุดยิง ยิ่งเพิ่มความตึงเครียดเกี่ยวกับข้อพิพาทตามแนวชายแดนเข้าไปอีก แม้ทั้ง 2 ฝ่ายจะลงนามในปฏิญญาร่วมเพื่อสันติภาพ ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ที่ผ่าน แล้วก็ตาม

               ทั้งนี้ทางสื่อ "ขแมร์ไทม์" ก็ได้เผยผลสำรวจสะท้อนให้เห็นว่า ชาวกัมพูชามีความผิดหวังอย่างรุนแรงเกี่ยวกับข้อพิพาทชายแดนที่ยืดเยื้อมานาน โดยระบุว่าปฏิกิริยาที่ประชาชนได้แสดงออกมานั้นมันไม่ใช่แค่ตอบสนองไทยต่อการควบคุมตัวทหารกัมพูชา แต่ยังเน้นย้ำให้เห็นถึงประเด็นแห่งความภาคภูมิใจในชาติ และการกำหนดชะตากรรมของตนเอง โดยชาวกัมพูชาส่วนใหญ่ต่างมองว่าการบอยคอตต์สินค้าไทยเป็นมาตรการที่เร่งด่วนและจำเป็น เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อการกระทำของประเทศไทย ที่พวกเขามองว่าเป็นผู้รุกราน และเจ้าเล่ห์เพทุบาย

               อย่างไรก็ตาม สื่อดังกล่าวก็ระบุว่า การบอยคอตต์สินค้าและบริการทุกๆ อย่างที่มาจากประเทศไทย อาจส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจกัมพูชาอย่างมีนัยสำคัญ เพราะไทยคือหนึ่งในคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกัมพูชา และต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน มันเป็นสิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ทั้งนี้การบอยคอตต์สินค้าไทยได้ก่อให้เกิดผลกระทบกับพวกผู้บริโภคกัมพูชาในทันที เนื่องจากส่วนใหญ่ต่างมีความคุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์ไทย ไล่ตั้งแต่สินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงอุปทานทางอุตสาหกรรมต่างๆ แต่กระนั้นก็ตาม ทางขแมร์ไทม์สบอกด้วยว่า ที่ไหนที่มีอุปสงค์ ที่นั่นก็จะมีอุปทานตามมาเสมอ และซัพพลายเออร์อื่นๆ จากประเทศเวียดนาม, มาเลเซียและจีน ที่กำลังก้าวเข้ามาเติมเต็มในช่องว่างดังกล่าว