เกาหลีใต้พบผู้เสียชีวิตจากความโดดเดี่ยว สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,924 ราย
จำนวนผู้เสียชีวิตจากความโดดเดี่ยวในปีที่แล้ว อยู่ที่ประมาณ 3,900 ราย เพิ่มขึ้นกว่า 7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ ในขณะที่สัดส่วนการเสียชีวิตจากความโดดเดี่ยว ต่อจำนวนประชากรก็ทำสถิติสูงสุดเช่นกัน...
โดยวันนี้ [ตามเวลาท้องถิ่น] กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ ของเกาหลีใต้ ได้ประกาศผลการสำรวจ "สถานการณ์การเสียชีวิตจากความโดดเดี่ยว ปี 2024" ซึ่งสะท้อนผลลัพธ์ดังกล่าว โดยการสำรวจครั้งนี้วิเคราะห์จากคดีที่เกี่ยวข้อง กับงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากจำนวน 57,145 คดีในปีที่ผ่านมา เพื่อจำแนกกรณีที่เข้าเกณฑ์การเสียชีวิต จากความโดดเดี่ยวและวิเคราะห์ลักษณะเฉพาะ ของผู้เสียชีวิต โดยยอดผู้เสียชีวิตจากความโดดเดี่ยว ในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 3,924 ราย เพิ่มขึ้น 7.2% จาก 3,661 รายในปีก่อนหน้า จำนวนผู้เสียชีวิตจากความโดดเดี่ยวต่อประชากร 100,000 คนเพิ่มจาก 7.2 เป็น 7.7 ในช่วงเวลาเดียวกัน ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตจากความโดดเดี่ยว ต่อการเสียชีวิตทั้งหมด 100 รายเพิ่มจาก 1.04 เป็น 1.09 ซึ่งทั้ง 2 ตัวเลข ล้วนเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่เริ่มการสำรวจในปี 2017
เมื่อจำแนกตามเพศ พบว่า "ผู้ชายมีจำนวน 3,205 ราย (81.7%) มากกว่าผู้หญิงถึงกว่า 5 เท่า โดยผู้หญิงมีจำนวน 605 ราย (15.4%) ส่วนการจำแนกตามอายุ พบว่าผู้ที่มีอายุ 60 ปีมากที่สุดที่ 1,271 ราย (32.4%) รองลงมาคือผู้ที่มีอายุ 50 ปี 1,097 ราย (30.5%) ผู้ที่อยู่ในช่วงอายุ 40 ปีมีจำนวน 509 ราย (13.0%) และผู้ที่มีอายุ 70 ปีมีจำนวน 497 ราย (12.7%) เมื่อรวมข้อมูลทั้งเพศและอายุพบว่า ผู้ชายวัยกลางคนในช่วงอายุ 50–60 ปีคือกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด"
เมื่อไม่นานมานี้ การเสียชีวิตจากความโดดเดี่ยวในครัวเรือนคนเดียว โดยเฉพาะในสถานที่อย่างโรงเรียนกวดวิชา หอพัก และ โรงแรมราคาประหยัด มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น หากจำแนกตามสถานที่พบว่า "ที่อยู่อาศัยส่วนบุคคลมีจำนวน 1,920 ราย (48.9%) อพาร์ตเมนต์ 774 ราย (19.7%) ห้องพักขนาดเล็กและออฟฟิศเทล (19.6%) และโรงแรม/โมเตล (4.2%) โดยเมื่อเทียบกับ 5 ปีก่อน สัดส่วนการเสียชีวิตในโรงแรมหรือโมเตล เพิ่มขึ้น 2.3 จุดเปอร์เซ็นต์ และ ในห้องพักประเภท 1 ห้อง และ ออฟฟิศเทลเพิ่มขึ้น 2.9 จุดเปอร์เซ็นต์ ผู้พบศพเป็นคนแรกส่วนใหญ่ คือ เจ้าของห้องหรือรปภ. (1,692 ราย, 43.1%) รองลงมาคือสมาชิกครอบครัว (1,044 ราย, 26.6%) เพื่อนบ้าน (470 ราย, 12.0%) เจ้าหน้าที่บริการสวัสดิการ (301 ราย, 7.7%) และ คนรู้จัก (280 ราย, 7.1%)"
เจ้าหน้าที่สนับสนุนการบริหารสวัสดิการ "พัค แจ มัน" ของกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ กล่าวว่า "ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป เราจะพยายามระบุกลุ่มเสี่ยง ที่เผชิญภาวะการแยกตัวทางสังคม ให้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ" และ "เราให้การสนับสนุนที่เหมาะสม ตามลักษณะสำคัญของแต่ละช่วงวัย"
อ้างอิง : https://www.chosun.com/english/national-en/2025/11/27/SCV7RVKRYZGCTJPETAZJLZJYMQ/
ทำไมคนไทยไม่เก่งภาษาอังกฤษ แม้จะใช้เวลาเรียนมานานหลายปี
อาหารช่วยให้หลับฝันดี หลับสบายเต็มอิ่ม ช่วยให้ผ่อนคลาย แก้อาการนอนไม่หลับ
ม้าสีหมอก 1 ธ.ค. 68: เจาะเลขเด็ดรับ "หวยสัญจร" กำแพงเพชร ลุ้นโชคส่งท้ายปี
จอย บียอนด์ สุดช็อก! ตื่นเช้ามาพบคุณพ่อเสียชีวิตไม่ทันตั้งตัว !!
จีนทวงหนี้แสนกว่าล้าน "ฮุนเซน" ถังแตก ไม่มีเงินจ่ายหนี้ ต้องกู้ IMF ซ้ำจีนไม่ให้กู้เพิ่มแล้ว
วัยรุ่นยื่นฟ้องออสเตรเลีย ท้าทายกฎหมาย ที่ห้ามเด็กที่อายุต่ำกว่า 16 ปีเล่น SNS
สัตว์ที่เคยถูกพบในประเทศไทย เป็นแห่งสุดท้ายบนพื้นโลก
แม่น้ำที่ไหลผ่านประเทศต่างๆ จำนวนมากที่สุดในโลก
ชาวบ้านงงงวย หลังเห็นลิงนับร้อย แห่วิ่งลงจากภูเขา
ด่วน! เลขเด็ด "แม่น้ำหนึ่ง" งวด 1 ธ.ค. 68: ชุดตัวแรง โค้งสุดท้ายที่คอหวยเฝ้ารอ
How to ...ค้นพบตัวตนที่ซ่อนอยู่ : ทายนิสัยแบบทิเบตที่คุณต้องลอง!
ชูวิทย์ โพสต์รัฐบาลไม่ผิดพลาด ไม่ล่าช้า ไม่ติดขัด
จีนทวงหนี้แสนกว่าล้าน "ฮุนเซน" ถังแตก ไม่มีเงินจ่ายหนี้ ต้องกู้ IMF ซ้ำจีนไม่ให้กู้เพิ่มแล้ว
ทำไมคนไทยไม่เก่งภาษาอังกฤษ แม้จะใช้เวลาเรียนมานานหลายปี
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยธนาคาร ทั้งหญิงและชายใช้น้ำฉีดไล่คนไร้บ้าน
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด อินโดโดนแผ่นไหวๆซ้ำ หลังน้ำท่วมสูง 6.3 แมกนิจูด
หนุ่มญี่ปุ่นโดนตำรวจจับ หลังฉี่ใส่ขวดชา แล้วเอาไปตั้งไว้ในร้านขายของ
วัยรุ่นยื่นฟ้องออสเตรเลีย ท้าทายกฎหมาย ที่ห้ามเด็กที่อายุต่ำกว่า 16 ปีเล่น SNS

