🐘 ระทึกกลางดึก! โขลงช้างป่ากว่า 140 ตัวบุกกินพืชไร่ติดแนวเขตป่าทับลาน

🐘 ระทึกกลางดึก! โขลงช้างป่ากว่า 140 ตัวบุกกินพืชไร่ติดแนวเขตป่าทับลาน จนท.–อาสาฯ ระดมผลักดันทั้งคืน อ่อนล้าสะสมหลังปฏิบัติภารกิจต่อเนื่องเกือบ 3 สัปดาห์

ค่ำคืนที่ผ่านมาเกิดเหตุระทึกใกล้แนวเขต อุทยานแห่งชาติทับลาน เมื่อโขลงช้างป่าจำนวนมหาศาลกว่า 140 ตัว อพยพออกจากพื้นที่ป่าและบุกเข้าหากินพืชไร่ของชาวบ้านในพื้นที่รอยต่อป่า ส่งผลให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ชุดผลักดันสัตว์ป่า และอาสาสมัครในพื้นที่ต้องระดมกำลังลงพื้นที่เร่งด่วน เพื่อป้องกันความเสียหายและดูแลความปลอดภัยของชุมชนโดยรอบ

🔥 ปฏิบัติการผลักดันช้างที่ยาวนานจนถึงรุ่งเช้า

เจ้าหน้าที่ต้องทำงานแข่งกับเวลา ใช้ทั้งเสียง เครื่องมือไล่ และแสงไฟ เพื่อผลักดันช้างป่ากลับเข้าสู่ป่าทับลาน ท่ามกลางความมืดและความเสี่ยงจากพฤติกรรมไม่แน่นอนของช้างป่าจำนวนมาก การปฏิบัติการต้องอาศัยความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะช้างบางตัวมีอาการตื่นตกใจ และมีลูกช้างรวมอยู่ในโขลงเป็นจำนวนมาก

หลายภาคส่วนเผยว่า คืนนี้ถือเป็นคืนที่ 20 กว่าแล้วที่ต้องลงพื้นที่ผลักดัน โดยภารกิจต่อเนื่องยาวนานเกือบ 3 สัปดาห์ ทำให้เจ้าหน้าที่และอาสาฯ หลายคนเริ่มมีสภาพเหนื่อยล้าสะสม ขณะที่โขลงช้างก็มีการเคลื่อนตัวแบบไม่เป็นเวลา ทำให้ต้องคอยเฝ้าระวังและปรับแผนอยู่ตลอด

🌾 หลายไร่พืชผลเสียหาย – ชาวบ้านหวั่นภัยใกล้ตัว

จากรายงานเบื้องต้น พืชไร่ของชาวบ้าน เช่น ข้าวโพด มันสำปะหลัง และพืชสวนอื่น ๆ ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง เนื่องจากจำนวนช้างที่มากผิดปกติ ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างหวั่นวิตก เกรงว่าโขลงช้างจะกลับมาอีกหากอาหารในป่ายังไม่เพียงพอ หรือถ้ามีการขยายเส้นทางหากินออกจากเขตป่าเพิ่มขึ้น

🐘 ผู้เชี่ยวชาญชี้ธรรมชาติเปลี่ยน – ช้างขยายเส้นทางหากินมากขึ้น

นักอนุรักษ์หลายฝ่ายวิเคราะห์ว่า พฤติกรรมของช้างป่าที่ออกมาหากินใกล้พื้นที่ชุมชนอาจเกิดจากหลายปัจจัย ทั้ง

การเปลี่ยนแปลงของแหล่งอาหารในป่า

สภาพอากาศที่แปรปรวน

โขลงช้างมีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ทำให้เส้นทางหากินขยายวงกว้างและยากต่อการควบคุม

🤝 ชื่นชมเจ้าหน้าที่–อาสาฯ ทำงานหนักเพื่อปกป้องชุมชน

แม้การผลักดันช้างครั้งนี้จะใช้เวลายาวนานและเสี่ยงอันตรายสูง แต่เจ้าหน้าที่และจิตอาสายังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังเพื่อไม่ให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบ พร้อมจัดเวรผลัดเปลี่ยนกันเฝ้าพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งยังเน้นย้ำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้แนวป่าในช่วงเวลากลางคืนเพื่อความปลอดภัย

สถานการณ์ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะโขลงช้างจำนวนมากยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในพื้นที่ และมีโอกาสกลับมาอีกหากไม่มีมาตรการจัดการ