ทำไมจระเข้ถึงไม่แตะต้องคาพิบาราเลย?
ทำไมจระเข้ถึงไม่แตะต้องคาพิบาราเลย?
ในธรรมชาติที่ผู้ล่าและเหยื่อ ต้องชิงไหวชิงพริบกันทุกวัน แต่กลับมีสัตว์อยู่ชนิดหนึ่ง ที่ดูเหมือนจะหลุดออกมาจากกฎเหล็กแห่งการเอาตัวรอด ซึ่งนั่นก็คือ "คาพิบารา" นั่นเอง
"คาพิบารา" เป้นสัตว์ฟันแทะขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มันมีบุคลิกอ่อนโยนจนแทบไม่น่าเชื่อเลยล่ะ!!
ภาพ "คาพิบารา" นั่งนิ่งอาบแดดเคียงข้างจระเข้ หรือ ปล่อยให้เต่า นก ลิง ปีนเล่นบนตัวอย่างไม่สะทกสะท้านนั้น กลายเป็นภาพชินตาในสื่อโซเชียลมีเดีย แต่เบื้องหลังความสงบนั้น กลับซ่อนคำถามที่น่าคิด "เหตุใดจระเข้ซึ่งเป็นนักล่าผู้หิวโหยแห่งอเมริกาใต้ จึงแทบไม่เคยล่าคาพิบาราเลย?"
คำตอบไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หากเป็นผลจากการปรับตัวทางชีววิทยา และ ความสมดุลอย่างประณีต ของระบบนิเวศ... ถึงแม้ "คาพิบารา" จะดูตุ้ยนุ้ยเชื่องช้า แต่มันมี "ไพ่ลับ" ที่จระเข้ต้องเกรงใจ ไม่ว่าจะเป็นฟันตัดคู่มหึมาที่คมกว่าที่เห็น หรือ ความสามารถในการว่ายน้ำและวิ่งหนีอย่างว่องไว หากถูกต้อนจนมุม "คาพิบารา" สามารถกัดได้แรงพอจะทำให้จระเข้บาดเจ็บ ซึ่งสำหรับผู้ล่าที่คอยเลือกเหยื่อที่ง่ายที่สุดเสมอแล้ว การเสี่ยงบาดเจ็บจากสัตว์หนัก 30–70 กิโลกรัม มันไม่ได้คุ้มค่าแม้แต่น้อย...
จระเข้ในพื้นที่ชุ่มน้ำอเมริกาใต้ มีเหยื่อให้เลือกมากมาย ทั้งปลา นก และ สัตว์เล็กอื่นๆที่ล่าได้ง่ายกว่า การจะไปเสียพลังไล่ล่า "คาพิบารา" ที่โตเต็มวัยนั้น จึงไม่ใช่ทางเลือกที่คุ้มทุน
นักชีววิทยา ยังคงยืนยันว่า "เหตุการณ์ที่จระเข้โจมตี "คาพิบารา" แทบจะมีเลยล่ะ ถ้ามีก็มีแต่กรณีลูกอ่อน ที่ยังไร้ทักษะป้องกันตัวเท่านั้น"
นอกจากนี้ "คาพิบารา" ยังมีนิสัยที่น่ารักและเป็นมิตร จนสัตว์อื่นเอ็นดู พวกมันไม่ก้าวร้าว ไม่แย่งชิงอาณาเขต และ พร้อมอยู่ร่วมกับใครก็ตามที่ไม่รบกวนวิถีชีวิต ความอ่อนโยนนี้นี่เอง ที่ทำให้ภาพนกเกาะหลัง "คาพิบารา" หรือ เต่านอนอาบแดดอยู่ข้างๆ กลายเป็นภาพธรรมดา เสมือนฉากในนิทานเล่มหนึ่ง
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม "คาพิบารา" ก็ยังคงเป็นสัตว์ป่า หากถูกรบกวนจนหมดความอดทน มันสามารถกัดได้แรงจนเป็นอันตราย ไม่ต่างจากการเตือนว่า "เสน่ห์อ่อนโยนที่เห็นนั้น ไม่ควรถูกมองข้ามหรือท้าทาย!!"
น่าเศร้าที่ภัยคุกคามใหญ่ที่สุดของ "คาพิบารา" กลับไม่ใช่จระเข้ เสือจากัวร์ หรือ อนาคอนดา แต่คือมนุษย์เอง ซึ่งหลายชุมชนในอเมริกาใต้ ยังคงล่า "คาพิบารา" เพื่อบริโภค ถึงแม้จะมีมาตรการควบคุมในบางพื้นที่ ทำให้ต้องมีฟาร์มเพาะเลี้ยง เพื่อป้องกันประชากร "คาพิบารา" ในธรรมชาติลดลงมากเกินไป
"คาพิบารา" จึงเป็นมากกว่าสัตว์น่ารักในโลกออนไลน์ แต่มันคือสัญลักษณ์ของความสงบ ความปรับตัว และ ความสมดุลในธรรมชาติ ที่เตือนให้เรารู้ว่าในระบบนิเวศทุกแห่ง ผู้ล่าและเหยื่อไม่ได้อยู่ในเกมไล่ล่าตลอดเวลานั่นเอง...
อ้างอิง : https://soha.vn/tai-sao-ca-sau-hiem-khi-an-chuot-lang-nuoc-bi-an-ve-loai-gam-nham-diem-tinh-nhat-hanh-tinh-198251122173606506.htm
เมื่อเกาะฟูก๊วก กลายเป็น“กำแพงธรรมชาติ” กั้นทางออกสู่ทะเลของประเทศกัมพูชา
พาส่องธุรกิจ ของคุณนานา ไรบีนา ที่หลายคนยังไม่เคยรู้
ทำไมเราถึงเรียกเมนูเนื้อย่างแบบหนึ่งว่า "เสือร้องไห้" ทั้งๆ ที่เมนูนี้ทำมาจากเนื้อวัว
ทึ่งทั่วโลก : ตำหนักไท่เหอเตี้ยน จุดที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินีทรงถ่ายพระบรมฉายาลักษณ์
ราชกิจจาฯ เผยแพร่ คำสั่งศาลให้ นักแสดงรุ่นใหญ่ “มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช” ผู้จัดดัง เป็นคนไร้ความสามารถ
นิสัยการกินแบบนี้แสดงว่าเริ่มแก่ สัญญาณการกิน ที่บอกว่า “เริ่มแก่
“ภูผาวัวยามเย็น” ต้อนรับลมหนาวแรกของปี 68
ไฟไหม้ระทึก!รถพ่วงเทรลเลอร์ 18 ล้อ ยางระเบิดบึ้มไฟลุกไหม้หวิดวอดทั้งคัน
เสื้อผ้า 3 แบบที่อาจเป็นอันตรายต่อเด็ก ผู้ปกครองควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ลูกใส่ไปโรงเรียน
นักท่องเที่ยวสาวแก้ผ้าถ่ายรูป ในสถานที่ท่องเที่ยวดัง ของเวียดนาม
อดีต CEO ตกเป็นผู้ต้องหา "คดีล่วงละเมิดหญิงสาว" ในกังนัม



