ปู มัณฑนา ยื่นร้องเรียน หนุ่ม กรรชัย-โหนกระแส กล่าวหาขาดจรรยาบรรณ ทำชีวิตพังยับ
💥 ดราม่าระอุ! “ปู มัณฑนา” ยื่นร้องเรียน “หนุ่ม กรรชัย” กล่าวหาไร้จรรยาบรรณ ทำชีวิตพัง ธุรกิจเสียหายหนัก – ยันไม่ได้พาดพิงใคร “เจ้าพ่อสื่อหน้าตัวเมีย” แค่โพสต์ทั่วไป แต่ใครอยากรับก็เรื่องของเขา
วันที่ 30 ตุลาคม 2568 – กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในแวดวงสื่อและวงการบันเทิงอีกครั้ง เมื่อ “ปู มัณฑนา หิมะทองคำ” อดีตนางเอกชื่อดังและอดีตรองนางสาวไทย ปี 2541 พร้อมด้วย “กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์” และผู้เสียหายอีกหนึ่งราย เดินทางไปยังอาคารรัฐสภา เพื่อ ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน หลังระบุว่าได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการนำเสนอข่าวของรายการชื่อดัง “โหนกระแส” ที่มีพิธีกรคือ “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย”
ปู มัณฑนา เปิดใจกลางวงสื่อมวลชนว่า การตัดสินใจมายื่นหนังสือร้องเรียนในครั้งนี้ ไม่ได้ต้องการสร้างความขัดแย้ง แต่เพราะเธอรู้สึกว่า การนำเสนอของรายการดังกล่าวบิดเบือนข้อเท็จจริง ทำให้ชื่อเสียง เธอ ครอบครัว และธุรกิจเสียหายอย่างหนัก ถึงขั้นชีวิตพังทลาย ต้องเข้ารับการรักษาโรคซึมเศร้า และสูญเสียรายได้หลักนับร้อยล้านบาท
🔹 “มัณฑนา” เปิดใจน้ำตาซึม – โดนบิดเบือนข่าวจนชีวิตพังทั้งครอบครัว
อดีตนางเอกชื่อดังเล่าทั้งน้ำตาว่า เหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มต้นเมื่อปีที่แล้ว หลังรายการ “โหนกระแส” ได้นำเสนอประเด็นที่มีคู่กรณีของเธอมาออกอากาศพูดถึงคดีความระหว่างกัน โดยไม่มีการให้สิทธิ์ตนได้ชี้แจงอย่างรอบด้าน ทำให้ข้อมูลที่เผยแพร่ต่อสาธารณะ “ไม่ตรงกับความจริง” และนำไปสู่การเข้าใจผิดอย่างกว้างขวางในสังคม
“อย่างที่ทุกคนทราบค่ะ รายการโหนกระแสบิดเบือนข้อเท็จจริง ดำเนินรายการโดยคุณกรรชัย ซึ่งพูดโกหกและนำคู่กรณีของปูมาพูดในมุมเดียว ทำให้ชื่อเสียงปูเสียหายหนักมาก ธุรกิจพัง ครอบครัวได้รับผลกระทบ ลูก ๆ โดนบูลลี่ สามีเสียงาน จนป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล”
เธอกล่าวต่อว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงเรื่องชื่อเสียง แต่ยังส่งผลถึงสุขภาพจิต เพราะหลังจากกระแสข่าวลือแพร่สะพัด เธอต้องเผชิญแรงกดดันจากสังคม และกลายเป็นเป้าถูกต่อว่าอย่างหนักในโลกออนไลน์
“ปีที่แล้วปูน้ำหนักลดไป 10 กิโล ต้องเข้า ๆ ออก ๆ โรงพยาบาล จนแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้า ต้องกินยาและเข้ารับการบำบัดต่อเนื่องทุกเดือนค่ะ มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ สำหรับคนที่ต้องเผชิญคำพูดและการบิดเบือนทุกวัน”
🔹 ยกประเด็น “ลูกหมี รัศมี” คู่กรณี 2 ล้าน – ยืนยันไม่เคยหนีคดีแต่กลับถูกดิสเครดิต
ปู มัณฑนา ยังพูดถึงกรณีคดีความกับ “ลูกหมี รัศมี ทองศิริไพรศรี” ซึ่งเป็นคู่กรณีที่ฟ้องร้องกันเรื่องเงินจำนวน 2 ล้านบาท โดยระบุว่า ที่ผ่านมาตนไม่เคยหนีคดีและพร้อมจะชำระหนี้ แต่คู่กรณีกลับไม่ยอมจบและนำเรื่องไปพูดในรายการจนตนเสียหาย
“คดีนี้ปูพร้อมจะจ่ายตอนวันไกล่เกลี่ยที่ สน.ทองหล่อ แต่เขาไม่รับเงิน เขาบอกว่าจะให้เรื่องนี้ดัง เพื่อไปออกสื่อ ปูไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบอะไรเลย แต่เพราะการไปพูดในรายการนั้น ทำให้ภาพลักษณ์ปูในวงการพังหมดค่ะ จากอดีตนางเอกที่มีงานต่อเนื่อง กลายเป็นไม่มีใครจ้างเลย”
เธอยังระบุเพิ่มเติมว่า คู่กรณีและทนายของฝ่ายนั้นได้ฟ้องตนมากกว่า 10 คดี ทั้งคดีแพ่งและอาญา ตั้งแต่หมิ่นประมาทจนถึงเช็คผิดสัญญา แต่ตนยืนยันจะต่อสู้จนถึงที่สุด โดยจะรอฟังคำพิพากษาในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้
“เราไม่ได้กลัวค่ะ เราสู้ทุกคดี และมั่นใจในหลักฐานของเรา ที่ผ่านมาปูถูกโจมตีหนักมากแม้แต่เรื่องส่วนตัว แต่ไม่เคยคิดจะหนี เพราะความจริงอยู่ข้างเรา”
🔹 “หนุ่ม กรรชัย” ก็ฟ้องกลับ – ปูยอมรับแต่ยันไม่ขอโทษเพราะไม่ได้ผิด
มัณฑนาเผยว่า ไม่เพียงคู่กรณีเท่านั้นที่ฟ้องเธอ แต่พิธีกรชื่อดังอย่าง “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ก็ได้ยื่นฟ้องเธอในข้อหาหมิ่นประมาทจำนวน 2 คดี พร้อมทั้งแจ้งความอีก 2 คดี ซึ่งรวมแล้วมีทั้งหมด 4 คดี “เขาบอกว่าที่โพสต์ว่า ‘เจ้าพ่อสื่อหน้าตัวเมีย มีเมียน้อย’ คือหมายถึงเขา แต่ปูไม่ได้พาดพิงใครเลยค่ะ มันเป็นแค่ข้อความระบายอารมณ์ทั่วไป ถ้าใครคิดว่าเป็นตัวเองแล้วอยากรับ ก็เป็นเรื่องของเขา ปูไม่ได้ระบุชื่อใคร”
อดีตนางเอกยังกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมพิธีกรคนดังถึงโทรศัพท์ติดต่อญาติและสามีของเธอ เพื่อขอให้ถอนฟ้องหรือขอโทษ เพราะตนมองว่า “ไม่ได้ทำผิด” และไม่จำเป็นต้องขอโทษใคร
“เจ้าพ่อสื่อจริง ๆ มีหลายคน ทั้งช่องน้อยสี ช่องมากสีก็มี เขาโทรหาสามี โทรหาอาจารย์ โทรหาคนรู้จัก บอกว่าถ้าปูขอโทษ เขาจะถอนฟ้อง แต่ปูถามกลับว่าทำไมต้องขอโทษในเมื่อเราไม่ได้ผิด เราแค่ต้องการความเป็นธรรมค่ะ”
🔹 ธุรกิจเสียหายนับร้อยล้าน – ลูกถูกบูลลี่หนัก สามีงานหด
ปู มัณฑนา กล่าวต่อด้วยความรู้สึกสะเทือนใจว่า จากเหตุการณ์ทั้งหมดส่งผลกระทบอย่างมหาศาลกับชีวิตและครอบครัว โดยเฉพาะกับลูก ๆ ที่ถูกล้อเลียนและถูกเพื่อนบูลลี่ในโรงเรียน
“ลูกปูไปเรียนก็โดนเพื่อนล้อ โดนพูดถึงว่าคุณแม่เป็นคนโกง เป็นคนไม่ดี ทั้งที่มันไม่จริงเลย ส่วนสามีก็โดนกระทบกับหน้าที่การงาน ธุรกิจที่ทำร่วมกันก็พังไปหมด จากคดีไม่ถึง 2 ล้าน แต่ความเสียหายตอนนี้ทะลุ 100 ล้านแล้วค่ะ”
เธอระบุว่าที่ผ่านมาพยายามอดทนและไม่อยากตอบโต้ เพราะเชื่อในระบบกฎหมาย แต่เมื่อเห็นว่ากระแสข่าวที่ออกมาเริ่มไม่เป็นธรรม จึงจำเป็นต้องลุกขึ้นสู้และเรียกร้องความยุติธรรมให้ตนเองและครอบครัว
🔹 “กฤษอนงค์” พ่อของปู เผยเพิ่งออกจากคุก – สังคมรู้ตอนติดแต่ไม่รู้ตอนยกฟ้อง
ด้าน “พัช กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์” ซึ่งเป็นพ่อของปู มัณฑนา ได้ออกมาเปิดใจว่า ตนเคยถูกจำคุกจริงเมื่อปลายปีที่แล้วในข้อหากรรโชกทรัพย์ แต่ต่อมาศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษา “ยกฟ้อง” อย่างเป็นทางการ และได้ออกจากเรือนจำแล้ว แต่กลับไม่มีสื่อใดนำเสนอข่าวด้านนี้เลย
“ตอนผมถูกจับ ทั้งประเทศรู้ แต่พอศาลยกฟ้อง กลับไม่มีใครรู้เลย นี่แหละครับความไม่สมดุลของสื่อ ผมอยากให้เห็นทั้งสองด้าน ไม่ใช่แค่ตอนที่คนตกต่ำ”
พัชกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันตนยังต้องติดกำไล EM ระหว่างการต่อสู้คดีอุทธรณ์ แม้จะเป็นอิสรภาพชั่วคราวแต่ก็ยังไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ อย่างไรก็ตาม เขายังเชื่อว่าความจริงจะปรากฏในที่สุด
“ทุกวันนี้คนยังเข้าใจว่าผมติดคุกเพราะคดี 20 ล้าน แต่จริง ๆ คดีนั้นยังอยู่ในขั้นตอนตำรวจ ยังไม่ได้ส่งถึงศาลเลยครับ สิ่งที่ผมติดคือคดี 970,000 บาท ซึ่งศาลก็ยกฟ้องแล้ว เพราะหลักฐานไม่ครบถ้วน”
🔹 ด้านกรรมาธิการฯ รับเรื่องพิจารณา – ยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
หลังรับฟังคำร้องเรียน “นายฉัตร สุภัทรวณิชย์” ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ทางกรรมาธิการจะรับเรื่องร้องเรียนนี้ไว้เพื่อพิจารณาในที่ประชุมต่อไป
“เราจะนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการกรรมาธิการ เพื่อพูดคุยและหาทางออกอย่างเหมาะสม เพราะสื่อมวลชนมีบทบาทสำคัญในสังคม ต้องทำหน้าที่ด้วยความรอบคอบ มีจรรยาบรรณ และเคารพสิทธิของทุกฝ่าย”
นายฉัตร กล่าวต่อว่า ในอดีตคณะกรรมาธิการเคยได้รับเรื่องร้องเรียนในลักษณะคล้ายกัน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าวโดยไม่รอบด้าน จนทำให้เกิดความเสียหายทั้งต่อบุคคลและสังคมโดยรวม
“บางครั้งสื่ออาจมีเจตนาดีในการนำเสนอข่าว แต่หากขาดความรอบคอบ ก็สามารถสร้างความเสียหายต่อผู้คนได้ เราในฐานะกรรมาธิการต้องดูทั้งสองด้าน เพื่อรักษาความสมดุลของการสื่อสารในสังคม”
🔹 สังคมจับตา – คดีนี้อาจเป็นหมุดหมายสำคัญของ “จรรยาบรรณสื่อไทย”
กรณีของ “ปู มัณฑนา vs หนุ่ม กรรชัย” ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่อาจส่งผลต่อแนวทางการทำงานของสื่อมวลชนไทยในอนาคต เพราะรายการ “โหนกระแส” ถือเป็นรายการข่าวเชิงสืบสวนที่มีอิทธิพลสูงในสังคม การถูกตั้งคำถามเรื่อง “ความเป็นกลาง” และ “ความรับผิดชอบต่อข้อมูล” จึงเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายจับตามองอย่างใกล้ชิด
นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนบางรายแสดงความคิดเห็นว่า กรณีนี้อาจเป็นบทเรียนให้ทั้งผู้ผลิตรายการและผู้บริโภคข่าวสารได้ตระหนักถึง “อำนาจของสื่อ” และ “ผลกระทบของข้อมูลที่เผยแพร่โดยไม่ตรวจสอบให้รอบด้าน” เพราะในยุคที่ข่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็วบนโซเชียลมีเดีย การบิดเบือนแม้เพียงเล็กน้อยก็อาจทำลายชีวิตคนได้ทั้งชีวิต
🔹 สรุป : เสียงเรียกร้องจาก “ปู มัณฑนา” เพื่อความยุติธรรม
ท้ายที่สุด ปู มัณฑนา ฝากข้อความถึงสังคมว่า เธอไม่ได้ต้องการให้ใครมาลงโทษหรือโจมตีสื่อ แต่เพียงอยากให้มี “มาตรฐานความรับผิดชอบ” ที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้คนอื่นต้องตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเธออีก
“ปูไม่อยากเห็นใครต้องเจ็บปวดเหมือนที่ปูเจอ ปูเชื่อในความยุติธรรม และอยากให้สื่อทุกคนทำหน้าที่อย่างมืออาชีพ มีจรรยาบรรณ ไม่ตัดสินใครก่อนศาลจะตัดสินค่ะ”
ราชกิจจาฯ เผยแพร่ คำสั่งศาลให้ นักแสดงรุ่นใหญ่ “มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช” ผู้จัดดัง เป็นคนไร้ความสามารถ
พาส่องธุรกิจ ของคุณนานา ไรบีนา ที่หลายคนยังไม่เคยรู้
ชายชาวเท็กซัส 2 คน ถูกจับหลัง วางแผนบุกยึดเกาะ เพื่อฆ่าข่มขืนคนทั้งเกาะ
เด็ก 15 ถูกเพื่อนร่วมงานรุมแกล้ง สอดสายยางเข้ารูก้น แล้วอัดลมเข้าจนตาย
ทำไม่คนขับรถบัสต้องถอยหลังขึ้นเนินสุดโหดถั่มมา'แทนที่จะขับไปข้างหน้ารู้เหตุผลยิ่งชื่นชมโชเฟอร์สุดยอดมากๆ
ไฟไหม้ระทึก!รถพ่วงเทรลเลอร์ 18 ล้อ ยางระเบิดบึ้มไฟลุกไหม้หวิดวอดทั้งคัน