ฝันคอลแลปพัง! บอสณวัฒน์ ประกาศชัด ไม่ร่วมไลฟ์ขายของกับ กัน จอมพลัง หลังมีดราม่าหนัก
💥 “บอสณวัฒน์” ประกาศชัด ไม่ขอร่วมงาน “กัน จอมพลัง” อีกต่อไป ยอมรับตอนนี้เป็นหนี้ 5 หมื่น หลังโอนเงินให้ส่วนตัว ลั่นขอคืนเงินทันที – ไม่ขอมีส่วนร่วมกับอีกฝ่ายในทุกกรณี
กลายเป็นประเด็นร้อนที่ทำให้โลกโซเชียลสะเทือนอีกระลอก เมื่อ นายณวัตน์ อิสรไกรศีล หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “บอสณวัฒน์” ซีอีโอคนดังแห่งเวที มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ออกมาประกาศอย่างชัดเจนผ่านสื่อมวลชนว่า “จะไม่ขอร่วมงานหรือทำกิจกรรมใด ๆ กับ ‘กัน จอมพลัง’ อีกต่อไป” หลังเกิดกรณีดราม่าการโอนเงินบริจาค และการถูกกลั่นแกล้งด้วยการโอนเงินจำนวนน้อยเข้าบัญชีอย่างต่อเนื่องจากบุคคลนิรนาม
🕙 เหตุการณ์เริ่มต้น : จากโพสต์ขอคืนเงินบริจาค สู่วิกฤตศรัทธาในโลกออนไลน์
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นเมื่อ บอสณวัฒน์ ได้ออกมาโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ขอให้มีการ คืนเงินบริจาคจากมูลนิธิที่ตนเคยร่วมกิจกรรม โดยระบุว่าเงินบริจาคนั้นควรถูกนำไปใช้ให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ แต่หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง
บางส่วนเข้าใจและเห็นใจในความโปร่งใสที่บอสณวัฒน์ต้องการจะสื่อ แต่ในขณะเดียวกันก็มีผู้ใช้สื่อโซเชียลจำนวนมากเข้ามาโจมตีด้วยการ “โอนเงินกลั่นแกล้ง” เข้าบัญชีธนาคารของเขาในจำนวนเล็กน้อย เช่น 1 สตางค์, 50 สตางค์, 1 บาท หรือ 3 บาท พร้อมแนบข้อความเชิงประชดประชัน
บอสณวัฒน์เปิดเผยว่า มีบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการโอนเงินลักษณะนี้มากกว่า 100 บัญชี ซึ่งเขาได้เก็บหลักฐานทั้งหมดเพื่อนำไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
👮♂️ การแจ้งความครั้งใหญ่ : เดินทางเข้าพบตำรวจไซเบอร์ด้วยหลักฐานแน่น
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00 น. บอสณวัฒน์ได้เดินทางไปยัง กองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) พร้อมเอกสารหลักฐานกว่า 100 หน้า เพื่อ เข้าแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับบุคคลที่มีพฤติกรรมโอนเงินกลั่นแกล้ง
โดยเขากล่าวต่อสื่อว่า เหตุการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะถือเป็นการคุกคามทางจิตใจและละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างร้ายแรง ถึงแม้จำนวนเงินจะน้อยนิด แต่พฤติกรรมดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึง “ความไม่เคารพต่อผู้อื่นในโลกออนไลน์” และอาจเข้าข่ายการกระทำผิดตามกฎหมายคอมพิวเตอร์
อย่างไรก็ตาม บอสณวัฒน์ระบุว่า ในจำนวนบัญชีทั้งหมดที่เขานำไปแจ้งความ มีผู้กระทำบางรายได้แสดงความสำนึกผิด โดยทำหนังสือสารภาพขอโทษและขอไม่ให้ดำเนินคดีต่อ ซึ่งหลังจากพิจารณา เขาเลือกที่จะ ยกเว้นไม่ดำเนินคดีให้บางราย แต่ยืนยันว่าจะ ดำเนินการต่อกับผู้ที่เจตนากลั่นแกล้งโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
💸 ปมร้อน “เงินส่วนตัว 50,000 บาท” ที่ต้องการให้คืนทันที
ประเด็นที่ทำให้เรื่องนี้ยิ่งเดือด คือกรณีที่บอสณวัฒน์ออกมาเปิดเผยว่า เขา ต้องการให้ “กัน จอมพลัง” คืนเงินส่วนตัวจำนวน 50,000 บาท ที่อีกฝ่ายเคยโอนเข้ามาให้ โดยเขาอธิบายอย่างชัดเจนว่า เงินจำนวนดังกล่าวเป็น “เงินส่วนตัวของกัน จอมพลัง” ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบริจาคหรือโครงการช่วยเหลือสาธารณะใด ๆ
เขากล่าวในตอนหนึ่งว่า
“ผมขอให้คุณกันคืนเงินส่วนตัวจำนวน 50,000 บาทที่โอนเข้ามาให้ เพราะตอนนี้ผมเองก็มีภาระ ต้องเอาเงินไปใช้จ่ายในสิ่งจำเป็น ไม่อยากมีเรื่องคลุมเครือหรือถูกเข้าใจผิดอีกต่อไป ผมอยากให้จบอย่างโปร่งใสและตรงไปตรงมา”
คำพูดดังกล่าวสร้างเสียงฮือฮาในโลกออนไลน์ เพราะมีคนตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างสองคนนี้ที่ก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์ที่ดีและเคยร่วมงานกันหลายครั้ง
🤝 เคยร่วมงานกันมาก่อน แต่ตอนนี้ “ขอไม่เกี่ยวข้องอีกต่อไป”
ในอดีต บอสณวัฒน์ และ กัน จอมพลัง เคยปรากฏตัวร่วมกันในหลายกิจกรรม ทั้งในเชิงการกุศลและการออกไลฟ์สดขายสินค้า จนหลายคนมองว่าทั้งสองเป็นพันธมิตรที่สนิทกันในแวดวงออนไลน์
แต่จากกระแสดราม่าล่าสุด บอสณวัฒน์ได้ยืนยันชัดว่า “จะไม่ขอร่วมงานกับกัน จอมพลัง อีกต่อไป” และจะไม่เข้าร่วมกิจกรรมใด ๆ ที่มีอีกฝ่ายอยู่ด้วย เพราะมองว่า แนวทางและหลักคิดในการทำงานไม่สอดคล้องกันอีกต่อไป
เขาเผยต่อสื่อมวลชนด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า
“ผมขอพูดตรง ๆ เลยครับ ว่าไม่มีการเตรียมไปไลฟ์สดขายของร่วมกับคุณกันอย่างที่ข่าวลือออกมาแน่นอน ผมยืนยันว่าไม่จริง และผมก็ไม่ขอร่วมงานกับเขาอีก เพราะมองว่าไม่เหมาะสม และต่อจากนี้หากเป็นไปได้ก็ขอไม่ต้องเกี่ยวข้องกันอีกเลย”
⚡ กระแสในโลกโซเชียล : แฟนคลับแตกออกเป็นสองฝ่าย
หลังจากที่บอสณวัฒน์แถลงข่าวและโพสต์ข้อความผ่านโซเชียล มีทั้งกลุ่มที่ให้กำลังใจและกลุ่มที่ตั้งคำถามอย่างเผ็ดร้อน บางคนชื่นชมว่าเขาเป็นคนตรงไปตรงมา กล้าพูดในสิ่งที่คิด ไม่ปล่อยให้เรื่องคลุมเครือทำลายชื่อเสียง ขณะที่อีกฝั่งมองว่าความขัดแย้งนี้น่าจะปิดห้องคุยกันส่วนตัวมากกว่า
บนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะใน X (ทวิตเตอร์) และ TikTok มีการพูดถึงประเด็น “บอสณวัฒน์ vs กัน จอมพลัง” อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยมีแฮชแท็ก #ณวัฒน์อิสรไกรศีล และ #กันจอมพลัง ติดเทรนด์หลายชั่วโมง
บางคอมเมนต์จากชาวเน็ตระบุว่า
“เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าคนในวงการออนไลน์ก็มีความเปราะบางไม่ต่างจากวงการบันเทิง ทุกอย่างอยู่ที่ความโปร่งใสและความจริงใจของแต่ละฝ่าย”
ขณะที่อีกความคิดเห็นหนึ่งกล่าวว่า
“ดีแล้วที่คุณณวัฒน์ออกมาพูดตรง ๆ เพราะถ้าปล่อยไว้ คนอาจเข้าใจผิดว่าเขากับกันยังทำงานร่วมกันอยู่ ซึ่งจะยิ่งทำให้ภาพลักษณ์เสียหาย”
💬 เสียงจากฝ่าย “กัน จอมพลัง”
แม้ในขณะนี้ “กัน จอมพลัง” ยังไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว แต่จากโพสต์ก่อนหน้าในเพจส่วนตัว เขาได้ระบุเพียงสั้น ๆ ว่า
“ทุกอย่างอยู่ที่ใจ ผมพร้อมให้อภัยเสมอ แต่ความจริงก็ต้องเป็นความจริง”
ทำให้หลายคนมองว่าอาจมีเรื่องไม่เข้าใจกันระหว่างทั้งสองฝ่ายในเชิงส่วนตัวมาก่อน
📉 ผลกระทบต่อภาพลักษณ์และธุรกิจ
นักวิเคราะห์สื่อบางรายมองว่า เหตุการณ์นี้อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของทั้งสองฝ่ายในระยะสั้น โดยเฉพาะเมื่อทั้งคู่เป็นบุคคลสาธารณะที่มีฐานผู้ติดตามจำนวนมาก และมีบทบาททั้งในวงการบันเทิงและแวดวงออนไลน์
บอสณวัฒน์ในฐานะผู้บริหารองค์กรระดับนานาชาติ เช่น มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ย่อมต้องรักษาภาพลักษณ์ในเชิงมืออาชีพ การประกาศ “ขอไม่ร่วมงาน” อย่างชัดเจนจึงอาจเป็นการแสดงจุดยืนเพื่อปกป้องชื่อเสียงของตนและองค์กร
❤️ บทสรุป : “อยากจบอย่างสวย ไม่ใช่จบด้วยการทะเลาะ”
ในช่วงท้ายของการให้สัมภาษณ์ บอสณวัฒน์กล่าวอย่างใจเย็นว่า
“ผมไม่อยากมีปัญหากับใคร ไม่อยากพูดถึงเรื่องเก่าหรือความขัดแย้ง แต่ผมอยากให้ทุกอย่างจบอย่างสวย ผมมีหน้าที่ต้องทำอีกมาก มีคนที่ต้องรับผิดชอบ และผมอยากให้ทุกคนจำผมจากผลงาน ไม่ใช่จากดราม่า”
เขาย้ำว่า ตนเพียงต้องการ ความยุติธรรม ความโปร่งใส และการคืนเงินส่วนตัวจำนวน 50,000 บาทเท่านั้น เพื่อให้เรื่องนี้จบลงโดยเร็วที่สุด
🔍 สรุปประเด็นสำคัญ
1. บอสณวัฒน์ อิสรไกรศีล เข้าแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ หลังถูกโอนเงินกลั่นแกล้งกว่า 100 บัญชี
2. ยืนยันมีบางรายขออภัยและได้รับการยกเว้นไม่ดำเนินคดี
3. เรียกร้องให้ กัน จอมพลัง คืนเงินส่วนตัวจำนวน 50,000 บาท ทันที
4. ประกาศชัดเจนว่า “จะไม่ขอร่วมงานกันอีกในอนาคต”
5. กระแสออนไลน์แตกออกเป็นสองฝ่าย บางส่วนให้กำลังใจ บางส่วนมองว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด
6. บอสณวัฒน์ย้ำ อยากให้ทุกอย่างจบลงอย่างมืออาชีพ และยืนยันไม่มีเจตนาทำร้ายใคร
📢 บทส่งท้าย
เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความซับซ้อนของความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในยุคดิจิทัล แต่ยังเป็นเครื่องเตือนใจให้ทุกคนระมัดระวังในการทำธุรกรรม การรับเงิน หรือการโอนเงินผ่านช่องทางออนไลน์ เพราะแม้แต่บุคคลที่มีชื่อเสียงและมีประสบการณ์มาก ก็ยังสามารถตกเป็นเหยื่อของการกลั่นแกล้งหรือความเข้าใจผิดได้
ท้ายที่สุด “บอสณวัฒน์” ยังคงยืนยันจุดยืนเดิมว่า “โปร่งใส ชัดเจน และไม่เล่นเกม” พร้อมฝากข้อความถึงแฟนคลับว่า
“ไม่ว่าใครจะเข้าใจผมอย่างไร ผมก็ยังเป็นผมคนเดิมที่รักความถูกต้อง และจะเดินหน้าต่อไปด้วยความจริงใจเหมือนเดิมครับ”
ราชกิจจาฯ เผยแพร่ คำสั่งศาลให้ นักแสดงรุ่นใหญ่ “มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช” ผู้จัดดัง เป็นคนไร้ความสามารถ
นิสัยการกินแบบนี้แสดงว่าเริ่มแก่ สัญญาณการกิน ที่บอกว่า “เริ่มแก่
เมื่อเกาะฟูก๊วก กลายเป็น“กำแพงธรรมชาติ” กั้นทางออกสู่ทะเลของประเทศกัมพูชา
ชายชาวเท็กซัส 2 คน ถูกจับหลัง วางแผนบุกยึดเกาะ เพื่อฆ่าข่มขืนคนทั้งเกาะ
เด็ก 15 ถูกเพื่อนร่วมงานรุมแกล้ง สอดสายยางเข้ารูก้น แล้วอัดลมเข้าจนตาย
ทำไม่คนขับรถบัสต้องถอยหลังขึ้นเนินสุดโหดถั่มมา'แทนที่จะขับไปข้างหน้ารู้เหตุผลยิ่งชื่นชมโชเฟอร์สุดยอดมากๆ
ไฟไหม้ระทึก!รถพ่วงเทรลเลอร์ 18 ล้อ ยางระเบิดบึ้มไฟลุกไหม้หวิดวอดทั้งคัน