แฉวีรกรรมผัวแสบ! คบแฟน 3 ปี สูญเงิน 30 ล้าน หมดตัวเพราะความรักแท้หรือแผนหลอก?

💔 สาวสุดซ้ำ ร้องเพจ “สายไหมต้องรอด” ถูกผัวตัวดีหลอกคบ 3 ปี สูญกว่า 30 ล้าน! ฝ่ายชายสร้างภาพขายไก่ต้มน้ำปลา แต่ขับลัมโบร์กินี – มีหญิงอื่นเป็นสิบ

วันที่ 30 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์ประสานงานเพจชื่อดัง “สายไหมต้องรอด” ของ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ มีหญิงสาวรายหนึ่งเดินทางมาร้องเรียนขอความช่วยเหลือด้วยน้ำตา หลังถูกแฟนหนุ่มที่คบกันมานานกว่า 3 ปี หลอกเอาเงินไปเกินกว่า 30 ล้านบาท

หญิงรายนี้ระบุว่า ความสัมพันธ์ของเธอกับฝ่ายชายเริ่มต้นจาก “ความรักและความไว้ใจ” แต่สุดท้ายกลับจบลงด้วยความเสียใจ และชีวิตที่พังทลายลงเพราะความเชื่อใจผิดคน

 

🧕 จุดเริ่มต้นของรักลวงผ่าน Facebook

ผู้เสียหาย ซึ่งขอใช้นามสมมุติว่า “นางสาวเอ” อายุ 41 ปี เปิดเผยว่า เธอรู้จักกับแฟนหนุ่มผ่านทาง Facebook เมื่อประมาณ 3 ปีก่อน โดยฝ่ายชายแสดงตัวเป็นคนขยันสุจริต มีอาชีพขาย ไก่ต้มน้ำปลา และมักโพสต์ภาพใช้ชีวิตเรียบง่าย ดูเป็นคนอบอุ่นและจริงใจ

“ตอนนั้นเขาเข้ามาคุยดีมากเลยค่ะ มีมารยาท พูดจาอ่อนโยน ทำให้รู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายที่มีความรับผิดชอบและจริงใจ ตอนแรกก็แค่พูดคุยกันทั่วไป แต่พอผ่านไปสักพัก เขาก็เริ่มพูดเรื่องอนาคต อยากมีครอบครัว อยากสร้างบ้านด้วยกัน เราก็เชื่อเพราะเห็นว่าเขามีความตั้งใจดี” — นางสาวเอเล่าเสียงสั่น

ช่วงปีแรกของความสัมพันธ์ ทั้งคู่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันแทบทุกวัน ฝ่ายชายมักพูดถึง “ความฝัน” ที่อยากจะทำธุรกิจและสร้างครอบครัวมั่นคงร่วมกัน ทำให้นางสาวเอซึ่งเป็นคนอารมณ์อ่อนไหวและอยากมีชีวิตคู่ที่มั่นคง ยอมทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ

💍 ความไว้ใจที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะ

ในช่วงเริ่มต้นของความรัก นางสาวเอให้ของขวัญและทรัพย์สินแก่ฝ่ายชายหลายครั้ง ทั้งเสื้อผ้าแบรนด์เนม เครื่องประดับ รวมถึงเงินช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้คนรักทำงาน แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความสัมพันธ์เริ่มพัฒนาไปในเชิง “การร่วมลงทุน”

ฝ่ายชายเริ่มพูดถึงแผนการทำธุรกิจที่ดูมีอนาคต เช่น การเปิดโรงงานผลิต “กากใยมะพร้าว” เพื่อส่งออกไปต่างประเทศ โดยอ้างว่ามีเพื่อนต่างชาติพร้อมจะรับซื้อในปริมาณมาก

“เขาพูดจาเก่งมากค่ะ มีแผนธุรกิจ มีเอกสาร มีรูปภาพโรงงาน ทุกอย่างดูน่าเชื่อถือมาก เราก็คิดว่าเป็นโอกาสที่ดี เพราะอยากให้เขามีอาชีพมั่นคง ก็เลยโอนเงินให้ลงทุนไปก้อนแรกประมาณ 10 ล้านบาท” — ผู้เสียหายกล่าว

แต่เพียงไม่นาน โรงงานดังกล่าวกลับประสบปัญหา “สินค้าไม่ได้มาตรฐาน” และ “ไม่สามารถส่งออกได้จริง” ทำให้ต้องขาดทุนหนัก จนถึงขั้นต้องขายเครื่องจักรและรถแม็คโครที่ซื้อมาเพื่อเคลียร์หนี้สิน

 

🐖 จากโรงงานกากใยมะพร้าวสู่ “ฟาร์มหมู” ที่ไม่เหลือแม้แต่ฝัน

แม้จะขาดทุนจากธุรกิจแรก ฝ่ายชายก็ไม่ยอมแพ้ เขาหันมาชวนเปิด “ฟาร์มเลี้ยงหมู” โดยอ้างว่าเป็นโอกาสใหม่ที่กำลังเติบโต และสัญญาว่าจะทำทุกอย่างให้สำเร็จ

“เขาบอกว่าเราจะสร้างชีวิตใหม่ด้วยกัน ให้เราช่วยลงทุนอีกหน่อย ครั้งนี้จะไม่พลาดแน่นอน เพราะมีคนรู้จักในวงการเกษตร ผมรักคุณนะ ผมอยากให้เรามีอนาคตไปด้วยกัน” — คำพูดที่ฝังในใจของผู้เสียหายจนวันนี้

หญิงสาวผู้โชคร้ายจึงยอมลงทุนอีกหลายล้านบาทเพื่อสร้างฟาร์ม แต่สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการขาดทุนอีกครั้ง โดยฝ่ายชายอ้างว่า “โรคระบาดในหมู” ทำให้ต้องปิดกิจการทั้งหมด

💸 จากรักกลายเป็นหลุมพรางทางการเงิน

หลังจากความล้มเหลวสองครั้ง ฝ่ายชายยังไม่หยุด เขาอ้างว่าอยาก “เรียนเทรดหุ้น” และชวนให้เธอร่วมลงทุน โดยอ้างว่ามีเพื่อนในวงการการเงินคอยสอนและจะสร้างรายได้หลายแสนต่อเดือน

“ตอนนั้นเราก็ยังเชื่อ เพราะรักเขามากและอยากเห็นเขามีอาชีพที่มั่นคง เขาบอกว่าอยากเป็นคนรวย อยากให้เราภูมิใจ ก็เลยยอมโอนเงินให้เขาไปอีกหลายล้านบาท”

แต่ผลลัพธ์กลับเหมือนเดิม ทุกอย่างขาดทุนทั้งหมด ไม่มีหลักฐานการเทรดที่ชัดเจน ไม่มีบัญชีแสดงยอดเงิน และเมื่อถามถึงเรื่องเงิน เขาก็มักตอบเพียงว่า “เดี๋ยวได้คืนแน่นอน รออีกนิด”

 

🚗 ความจริงเริ่มเปิดเผย…เมื่อเขาขับ “ลัมโบร์กินี”

หลังจากคบกันมานานกว่า 3 ปี ผู้เสียหายเริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของแฟนหนุ่ม เขาเริ่มแต่งตัวหรู ใช้ของแบรนด์เนม และขับรถหรูหลายคัน ทั้ง ลัมโบร์กินี ปอร์เช่ และมินิคูเปอร์ ซึ่งต่างจากภาพชายขายไก่ต้มน้ำปลาที่เคยรู้จักโดยสิ้นเชิง

“ตอนนั้นเราก็เริ่มเอะใจว่าเงินพวกนั้นมาจากไหน เพราะเท่าที่รู้ธุรกิจของเขาไม่ประสบความสำเร็จเลย แต่กลับมีรถหรูใช้ และยังบอกว่าจะซื้อบ้านราคา 20 ล้านบาทอีก”

เมื่อสอบถามถึงความสัมพันธ์ ฝ่ายชายเริ่มตีตัวออกห่าง ไม่ค่อยติดต่อเหมือนเดิม และมักใช้ข้ออ้างว่า “ยุ่งกับงาน” หรือ “เดินทางไปต่างจังหวัด” จนวันหนึ่งเธอพบหลักฐานว่า เขามีผู้หญิงคนอื่นจำนวนมาก — มากกว่า 10 คน ที่คุยและมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวด้วย

 

💔 จุดแตกหักและการทวงเงินคืน

เมื่อทุกอย่างถูกเปิดเผย นางสาวเอจึงตัดสินใจถามฝ่ายชายตรง ๆ ว่า “เงินที่เคยให้ไปทั้งหมดจะคืนไหม” ซึ่งฝ่ายชายตอบกลับอย่างมีเงื่อนไขว่า จะทยอยคืนเดือนละ 200,000 บาท

ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา เขาได้ส่งเงินคืนมาแล้วรวม 1,700,000 บาท และจ่ายก้อนพิเศษอีก 1,000,000 บาท รวมเป็น 2.7 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ยังมีเงินอีก กว่า 1.35 ล้านบาท ที่ยังไม่ได้รับคืน และไม่แน่ชัดว่าเงินที่เหลือจากการลงทุนทั้งหมดกว่า 30 ล้านบาทนั้น ฝ่ายชายยังคงถือไว้หรือใช้ไปหมดแล้ว

😭 น้ำตาแห่งความเสียใจจากหญิงที่ทุ่มเททุกอย่าง

นางสาวเอกล่าวทั้งน้ำตาว่า เธอไม่ได้ต้องการ “เอาชนะ” หรือ “ทำลายชื่อเสียง” ของใคร แต่อยากได้เงินคืนเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่

“ตอนแรกที่เจอเขา เรารู้สึกว่าพบคนที่ใช่ เขาพูดจาดี ทำให้เราหลงรักและเชื่อใจเต็มร้อย ไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องตกอยู่ในสภาพนี้ เราให้หมดทั้งใจ ทั้งเงิน ทั้งอนาคต แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความเสียใจ”

หญิงวัย 41 ปีคนนี้ยอมรับว่า ความรักทำให้เธอตาบอด และไม่คิดว่าจะถูกหลอกได้ถึงขนาดนี้ เพราะตลอดเวลาที่คบกัน ฝ่ายชายแสดงออกอย่างจริงใจ จนไม่มีเหตุให้สงสัยเลย

 

⚖️ “สายไหมต้องรอด” ลงพื้นที่ช่วยเต็มที่

หลังรับเรื่องร้องเรียน นาย เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ “สายไหมต้องรอด” กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นกรณีที่น่าสนใจและมีมูลค่าความเสียหายสูงมาก ซึ่งจำเป็นต้องให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและทนายความ เข้ามาตรวจสอบทางกฎหมาย

“เบื้องต้นเราแนะนำให้ผู้เสียหายรวบรวมหลักฐานทั้งหมด ทั้งสลิปการโอนเงิน เอกสารการลงทุน และข้อความการสนทนา เพื่อใช้ในการดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป เรื่องทรัพย์สินเป็นสิ่งที่ตรวจสอบได้ เราอยากให้เจ้าหน้าที่โดยเฉพาะหน่วยงาน สอท. (ตำรวจไซเบอร์) เข้ามาช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง”

เขายังตั้งข้อสงสัยว่า ทรัพย์สินของฝ่ายชายมีความ “ร่ำรวยผิดปกติ” เพราะในเวลาเพียงไม่กี่ปี กลับมีรถหรูและบ้านราคาแพง ทั้งที่อ้างว่าทำธุรกิจขาดทุนมาตลอด

 

🔍 สังคมตั้งคำถาม – เขารวยจากอะไร?

หลังข่าวถูกเผยแพร่บนเพจสายไหมต้องรอด มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นและตั้งคำถามว่า “ฝ่ายชายเอาเงินมาจากไหน?” บางคนตั้งข้อสงสัยว่าอาจเกี่ยวข้องกับ “ธุรกิจสีเทา” หรือ “การหลอกลงทุนกับหญิงอื่น” เนื่องจากมีรายงานว่ามีหญิงสาวอีกหลายคนที่เคยตกเป็นเหยื่อในลักษณะเดียวกัน

คอมเมนต์บางส่วนระบุว่า

“ถ้าเป็นเรื่องจริง ผู้ชายคนนี้คือมืออาชีพในการหลอกลวงแน่นอน”

“อยากให้ตำรวจตามเส้นทางการเงินเลยค่ะ ว่าเงินพวกนั้นมาจากไหน”

“ขนาดผู้หญิงอายุ 40 กว่าที่ยังมีประสบการณ์ชีวิต ยังโดนหลอกได้ แสดงว่าเขาพูดจาน่าเชื่อถือมากจริง ๆ”

 

🧩 “รักไม่ผิด…แต่ไว้ใจผิดคน” – บทเรียนราคา 30 ล้าน

ผู้เสียหายกล่าวปิดท้ายด้วยความเจ็บปวดว่า เธออยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้หญิงทุกคน โดยเฉพาะคนที่รู้จักใครผ่านโลกออนไลน์

“อย่าเพิ่งเชื่อในคำพูดหวาน อย่าคิดว่าเขารักเราจริงแค่เพราะเขาพูดสวย ๆ เพราะสุดท้ายถ้าเขาคิดจะหลอก เขาก็ทำได้เนียนจนเราไม่รู้ตัวเลยค่ะ”

เธอยืนยันว่า ตอนนี้ไม่ได้ต้องการแก้แค้น แต่อยากได้เงินคืนเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ เพราะเงินที่เสียไปนั้นคือ “น้ำพักน้ำแรง” ที่เก็บมาทั้งชีวิต

 

📢 เสียงจากเพจ “สายไหมต้องรอด”

นายเอกภพระบุเพิ่มเติมว่า จะช่วยประสานงานให้ผู้เสียหายเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และติดตามความคืบหน้าร่วมกับตำรวจอย่างต่อเนื่อง

“เราจะไม่ปล่อยให้คนที่ตกเป็นเหยื่อความรักต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว สังคมต้องรู้ว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริง และต้องมีบทลงโทษสำหรับคนที่หลอกลวงผู้อื่น”

 

🌐 โลกออนไลน์สะเทือน! ชาวเน็ตแห่แชร์เตือนภัย

หลังข่าวเผยแพร่ไม่ถึง 24 ชั่วโมง แฮชแท็ก #สายไหมต้องรอด #สาวสุดซ้ำถูกผัวหลอก30ล้าน ติดเทรนด์บน X (Twitter) โดยมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากกว่า 50,000 รายการ หลายคนส่งกำลังใจให้ผู้เสียหาย และเตือนให้ผู้หญิงยุคใหม่ระวังการคบหาผ่านโซเชียล

 “รักออนไลน์อาจเริ่มด้วยแชต แต่จบด้วยหนี้สินและน้ำตาได้เสมอ”

 

🧠 สรุปบทเรียนจากรักครั้งนี้

1. อย่าโอนเงินให้ใครแม้จะคบกันนานแค่ไหน หากไม่มีหลักฐานการลงทุนหรือข้อตกลงชัดเจน

2. ตรวจสอบประวัติของคู่รักในโลกออนไลน์เสมอ เพราะภาพในโซเชียลอาจไม่ใช่ความจริง

3. หากเริ่มมีข้อสงสัยเรื่องเงิน ให้รีบปรึกษาทนายหรือตำรวจทันที

4. อย่าปล่อยให้ความรักทำให้เรามองข้ามเหตุผล เพราะบางครั้ง “ความรัก” คือเครื่องมือของนักหลอกลวง

 

💬 ปิดท้าย: เสียงสะท้อนของหญิงแกร่ง

นางสาวเอกล่าวทั้งน้ำตาในตอนท้ายว่า

“ฉันแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยากมีความรัก อยากมีครอบครัว ไม่คิดเลยว่าความฝันจะพังเพราะคนที่ฉันรักที่สุด... 30 ล้านอาจได้คืนหรือไม่ได้คืนก็ไม่สำคัญเท่ากับบทเรียนที่ได้รับ ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาหลอกอีกต่อไป”