ศึกยังไม่จบ! “ทนายเดชา” วอน “กัน จอมพลัง” อย่าเพิ่งฟ้อง เหน็บแรง ยังมีอีกหลายเรื่องต้องชี้แจง
“ทนายเดชา” แนะ “กัน จอมพลัง” เตรียมหลักฐานให้พร้อม ก่อนเข้าชี้แจง กมธ.ทหาร คาดยังมีอีกหลายประเด็นต้องตอบ วอนอย่าเพิ่งแจ้งความ “เดี๋ยวไม่มีคนกล้าพูดความจริง”
วันที่ 30 ตุลาคม 2568 ประเด็นร้อนในแวดวงการเมืองและสังคมออนไลน์ ยังคงจับตามองไปที่ “กัน จอมพลัง” หรือ นายกัณฐ์ศว์ พงษ์ไพบูลย์ บุคคลที่มักออกมาเคลื่อนไหวในประเด็นสังคมต่าง ๆ และล่าสุดถูกเชิญให้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการทหาร (กมธ.ทหาร) ของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้คำอธิบายถึงบทบาทของตนในการปฏิบัติภารกิจบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในช่วงที่ผ่านมา
หลังจากมีข่าวว่า กมธ.ทหาร ได้ส่งหนังสือเชิญให้ทั้ง “ผู้บัญชาการทหารบก” และ “กัน จอมพลัง” เข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง ทนายความชื่อดังอย่าง ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เจ้าของเพจ “ทนายคลายทุกข์” ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อสื่อสารถึงเจ้าตัวโดยตรง พร้อมให้คำแนะนำเชิงเตือนสติ และเปิดเผยรายละเอียดสำคัญที่หลายคนอาจยังไม่ทราบ
🔹 กมธ.ทหารเรียกชี้แจง “ภารกิจฮีโร่ชายแดน”
จากโพสต์ของเพจ “ทนายคลายทุกข์” ระบุว่า คณะกรรมาธิการการทหารของสภาผู้แทนราษฎร มีการเชิญบุคคลหลายรายที่เกี่ยวข้องกับภารกิจชายแดนเข้าร่วมการประชุมในวันนี้ (30 ตุลาคม 2568) เวลา 16.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 4 อาคารรัฐสภา โดยหนึ่งในผู้ถูกเชิญคือ “กัน จอมพลัง” ซึ่งมีบทบาทในพื้นที่ชายแดนในฐานะ “ภาคประชาชน” ที่เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านและทำกิจกรรมจิตอาสา
ทว่าในขณะเดียวกันก็มีเสียงตั้งคำถามว่า การเข้าไปของเขาเป็นไปตามระเบียบทางราชการหรือไม่ เพราะพื้นที่ดังกล่าวถือเป็น “พื้นที่ความมั่นคงสูงสุด” ที่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยงานทหารโดยตรง
🔹 ประเด็นคำถามหลักที่ กมธ.ทหารต้องการคำชี้แจง
ตามข้อมูลจากแหล่งข่าวภายใน กมธ.ทหาร มีการเตรียมคำถามไว้หลายข้อที่ต้องการให้ “กัน จอมพลัง” และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตอบอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในประเด็นสำคัญ 4 ข้อ ได้แก่
1. สถานะและบทบาทของ “กัน จอมพลัง” — ว่ามีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานของรัฐหรือไม่ และได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการให้เข้าไปในพื้นที่ชายแดนได้อย่างไร
2. การอำนวยความสะดวกจากเจ้าหน้าที่รัฐ — มีข้อเท็จจริงหรือไม่ว่ามีการประสานหรือสนับสนุนจากหน่วยทหารในการเข้าพื้นที่ หรือมีเจ้าหน้าที่ร่วมกิจกรรมด้วย
3. การสร้างภาพลักษณ์และสื่อโซเชียล — ภารกิจของเขามักมีการไลฟ์สดหรือเผยแพร่ภาพในโลกออนไลน์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของพื้นที่ จึงต้องการทราบว่าทางกองทัพได้รับทราบและอนุญาตหรือไม่
4. ปัญหาการบริหารงบประมาณในพื้นที่ชายแดน — เมื่อ “กัน จอมพลัง” ระบุว่าชาวบ้านในพื้นที่ขาดแคลนและไม่ได้รับการดูแลเพียงพอ กมธ.จึงต้องการทราบว่า งบประมาณกว่า 2 แสนล้านบาทที่รัฐจัดสรรให้กับกองทัพ ใช้อย่างไร และเพียงพอจริงหรือไม่
🔹 ทนายเดชาแนะ “กัน จอมพลัง” เตรียมเอกสารให้พร้อม
ทนายเดชา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้รับข้อมูลจากเพื่อนที่เป็นกรรมาธิการทหารโดยตรงว่า การเชิญครั้งนี้เป็น “การขอความร่วมมือ” เพื่อให้ทุกฝ่ายได้พูดคุยและชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้มีเจตนาเป็นการกล่าวหาใด ๆ แต่เพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อสังคม
อย่างไรก็ตาม ทนายเดชาได้แนะนำว่า “กัน จอมพลัง” ควรเตรียมเอกสารและหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเอกสารการประสานงานกับหน่วยงานรัฐ ใบอนุญาตการเข้าพื้นที่ รายการบริจาค รวมถึงใบเสร็จรับเงินต่าง ๆ ให้พร้อม เพราะในตอนนี้มีผู้ส่งข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวมาที่ตนเป็นจำนวนมาก
“ผมได้รับเอกสารหลายอย่างเกี่ยวกับคุณกัน ทั้งเรื่องรถหรู เรื่องเงินบริจาค เรื่องเอกสารการโอนเงินต่าง ๆ ผมอยากให้เจ้าตัวเก็บหลักฐานไว้ให้ดี เพราะถ้าหายแล้วต้องไปแจ้งความทีหลังจะยุ่งยากมาก” — ทนายเดชา กล่าว
🔹 วอนอย่าเพิ่งแจ้งความ ฟังกันด้วยเหตุผล
ในช่วงท้ายของการให้สัมภาษณ์ ทนายเดชาได้พูดถึงกระแสข่าวที่ว่า “กัน จอมพลัง” เตรียมจะฟ้องร้องตนในข้อหาหมิ่นประมาทหรือให้ข้อมูลเท็จ โดยระบุว่า ตนไม่ได้มีเจตนาทำลายชื่อเสียงของใคร เพียงแต่ทำหน้าที่ในฐานะทนายความและสื่อกลางที่นำเสนอข้อมูลต่อสาธารณะเท่านั้น
“ผมอยากบอกคุณกันว่า อย่าเพิ่งฟ้องผมเลย เดี๋ยวจะไม่มีใครกล้าออกมาพูดเรื่องพวกนี้อีก คนในสังคมต้องกล้าแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอย่างโปร่งใส เพราะเราทุกคนต่างต้องการให้ความจริงปรากฏ”
เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่ได้รู้สึกกลัวต่อการถูกโจมตีจากกลุ่มแฟนคลับของ “กัน จอมพลัง” เพราะเคยเผชิญกระแสแรงในหลายคดีมาก่อน และเชื่อว่าหากตนพูดด้วยข้อเท็จจริง ย่อมได้รับความเข้าใจจากประชาชนในที่สุด
🔹 เส้นทาง “กัน จอมพลัง” กับบทบาทภาคประชาชน
“กัน จอมพลัง” กลายเป็นชื่อที่คุ้นหูของสังคมไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากการทำกิจกรรมช่วยเหลือประชาชน เช่น การร้องเรียนหน่วยงานรัฐ การขับเคลื่อนประเด็นทางสังคม และการออกไปช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากในหลายพื้นที่ จนมีผู้ติดตามจำนวนมากบนโลกออนไลน์
อย่างไรก็ตาม เส้นทางของเขาก็เต็มไปด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งในแง่ของ “ความเหมาะสม” ในการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพื้นที่ราชการ การเปิดรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือเคสต่าง ๆ รวมถึงการใช้สื่อโซเชียลสร้างภาพลักษณ์เชิงฮีโร่ ซึ่งบางส่วนมองว่าอาจเป็นการ “เกินขอบเขต” ของบทบาทภาคประชาชน
หลายฝ่ายจึงเห็นว่า การเข้าชี้แจงของเขาต่อ กมธ.ทหารในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะได้อธิบายต่อสาธารณะว่า ทุกการกระทำที่ผ่านมาอยู่บนพื้นฐานของ “ความตั้งใจดี” และ “ความโปร่งใส” หรือไม่
🔹 กมธ.ทหารชี้ การตรวจสอบไม่ใช่การกลั่นแกล้ง
แหล่งข่าวใน กมธ.ทหาร เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การเชิญบุคคลเข้าชี้แจงในลักษณะนี้เป็น “กระบวนการปกติ” ที่เกิดขึ้นเป็นประจำเมื่อมีเหตุการณ์เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ
“เราไม่ได้มีเจตนาจะกลั่นแกล้งใคร การเรียกมาชี้แจงคือการเปิดพื้นที่ให้ทุกฝ่ายได้พูดอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ข้อมูลครบถ้วนและถูกต้องที่สุด” — แหล่งข่าวกล่าว
นอกจากนี้ กมธ.ทหารยังเตรียมเชิญผู้แทนจากกระทรวงกลาโหม กองทัพบก และสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ เข้าร่วมประชุมในรอบถัดไป เพื่อให้การตรวจสอบครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านความปลอดภัย งบประมาณ และความถูกต้องตามระเบียบราชการ
🔹 สังคมออนไลน์ร้อนแรง แฟนคลับแห่ให้กำลังใจ
หลังข่าวการเชิญ “กัน จอมพลัง” เข้าชี้แจงปรากฏในสื่อออนไลน์ ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้าไปแสดงความคิดเห็นในเพจของเขา โดยส่วนใหญ่ให้กำลังใจ พร้อมขอให้เจ้าตัวชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา
ขณะเดียวกัน ก็มีบางส่วนตั้งคำถามถึงความโปร่งใสของการดำเนินงานในมูลนิธิ “กัน จอมพลังช่วยสู้” โดยเรียกร้องให้มีการเปิดเผยรายรับรายจ่ายอย่างเป็นทางการ เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดและสร้างความเชื่อมั่นต่อสังคม
🔹 บทสรุปชั่วคราว
สถานการณ์ในขณะนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ “กัน จอมพลัง” เพราะนอกจากจะต้องเผชิญกับการตรวจสอบจากภาครัฐแล้ว ยังต้องรับมือกับกระแสสังคมที่จับตาทุกการเคลื่อนไหว การเข้าชี้แจงต่อ กมธ.ทหารจึงไม่ใช่เพียงการตอบคำถามทางกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็น “บทพิสูจน์ศรัทธา” ต่อภาพลักษณ์ของเขาในสายตาประชาชนอีกด้วย
ส่วนทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ก็ยังคงยืนยันในจุดยืนว่า ตนพูดด้วยข้อเท็จจริงและความห่วงใย ไม่ได้มีเจตนาทำลายชื่อเสียงใคร พร้อมทิ้งท้ายว่า “เราควรให้พื้นที่กับความจริง และให้สังคมเป็นผู้ตัดสินด้วยข้อมูลที่ครบถ้วนที่สุด”
✍️ สรุป: การประชุม กมธ.ทหารในครั้งนี้ อาจเป็นเวทีที่เปิดเผยความจริงหลายประเด็น ทั้งบทบาทของ “กัน จอมพลัง” ในภารกิจชายแดน ความสัมพันธ์กับหน่วยทหาร และการดำเนินงานของมูลนิธิ หากสามารถชี้แจงได้อย่างโปร่งใส ก็อาจเป็นโอกาสในการกู้ภาพลักษณ์กลับคืน แต่หากมีข้อพิรุธใด ๆ ปรากฏ ก็อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการตรวจสอบครั้งใหญ่ที่สังคมไทยกำลังรอคำตอบ
สถิติหวย ย้อนหลัง 10 ปี เลขท้าย 2 ตัว งวด 30 ธันวาคม
เจาะเลขเด็ดปกสลาก งวด 2 ม.ค. 69 ต้อนรับปีใหม่ปีมะเมียทอง
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
อาเซียนเนื้อหอม! เจาะเหตุผลทำไม บังกลาเทศ-ปาปัวนิวกินี-ฟิจิ อยากเข้าใกล้ครอบครัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกราย
นัดแล้วเปลี่ยน! กัมพูชาขอย้าย GBC ไปมาเลเซีย โยนเหตุผลกลัวไทยไม่ปลอดภัย
เขมรปอดแหก! หวั่นถูกลอบสังหๅร..ขอประชุม GBC ที่มาเลเซีย เมินมาไทย
วิมานบนดินที่ไร้เงาเจ้าของ เจาะปมคฤหาสน์ลอยฟ้า 658 ล้านที่กลายเป็นเพียงอนุสรณ์แห่งความล้มเหลว
ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !
นึกว่าพระเอกการ์ตูนญี่ปุ่นซ่ะอีก..หนุ่มฮอตเบอร์ 7 ทีมชาติไทย หล่อจนกลายเป็นไวรัลดัง
พิธีกรดวงเฮง! "ได๋ ไดอาน่า" รับโชคก้อนโต สอยดาวคว้าจักรยานไฟฟ้ากลางงานกาชาด 2568
เลขเด็ด "หวยไทยรัฐ" งวดวันที่ 2 มกราคม 69..รีบส่องด่วน ก่อนเกลี้ยงแผง!!
จับกุมผู้ต้องหา 15 คน ในคดีปล้นทรัพย์มูลค่ามหาศาล จากคนญี่ปุ่นในฮ่องกง
ตร.จับหนุ่มทุบกระจกเก๋ง ลักทรัพย์ อ้างตกงาน เมียเลิก
เขมรขอเปลี่ยนที่ประชุม GBC หรือว่ามันจะเปิดทางให้มีการปะทะวันพรุ่งนี้
นัดแล้วเปลี่ยน! กัมพูชาขอย้าย GBC ไปมาเลเซีย โยนเหตุผลกลัวไทยไม่ปลอดภัย
เขมรปอดแหก! หวั่นถูกลอบสังหๅร..ขอประชุม GBC ที่มาเลเซีย เมินมาไทย





