คดีพลิก! หมอราดน้ำร้อนเด็ก 3 ขวบ ที่แท้เป็นหมอจริง เพจดังเผยอาจมีอาการทางจิต

🔥 ช็อกทั้งประเทศ! หมอคลินิกบ่อวิน ใช้น้ำร้อนราดเด็ก 3 ขวบ พบเป็น “หมอจริง” มีใบอนุญาต แต่ป่วยทางจิต ชาวเน็ตเดือด! เรียกร้องถอนใบประกอบวิชาชีพ

กลายเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนใจและโกรธแค้นให้กับคนทั้งประเทศ เมื่อมีรายงานว่า “หมอ” ในคลินิกเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ก่อเหตุสุดสลด ใช้น้ำร้อนราดใส่เด็กชายวัยเพียง 3 ขวบ ระหว่างเข้ารับการรักษาอาการชักเกร็ง

คดีนี้ไม่เพียงสร้างคำถามใหญ่ในสังคมเกี่ยวกับ “มาตรฐานจริยธรรมทางการแพทย์” แต่ยังสะท้อนช่องโหว่ในระบบการตรวจสอบสุขภาพจิตของบุคลากรทางการแพทย์ที่มีหน้าที่ดูแลชีวิตผู้อื่นอีกด้วย

 

🧒 จุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรม: พ่อพาลูกชาย 3 ขวบไปรักษาอาการชัก กลับกลายเป็นฝันร้าย

เหตุการณ์เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2568 ขณะที่พ่อของเด็กชายชาวลาววัย 3 ขวบ ตัดสินใจพาลูกชายไปที่คลินิกเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่บ่อวิน หลังลูกมีอาการ “ชักเกร็ง” และมีไข้สูง เขาเชื่อมั่นในป้ายที่เขียนว่า “คลินิกแพทย์เฉพาะทาง” และความเป็นมืออาชีพของคนในชุดกาวน์ขาว

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด…

พ่อเด็กให้ข้อมูลว่า หมอที่ทำการรักษาได้ ฉีดยาให้ลูกชาย หลังจากนั้นเด็กมีอาการช็อก หมอจึงสั่งให้ผู้ช่วย นำน้ำอุ่นและน้ำร้อนราดที่หน้าอกของเด็กซ้ำหลายครั้ง โดยอ้างว่าเป็น “วิธีช่วยกระตุ้นร่างกายให้ฟื้น”

การกระทำดังกล่าวทำให้เด็กมี แผลไหม้พุพองทั่วหน้าอก จนต้องถูกส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในจังหวัด ซึ่งแพทย์ที่รับดูแลยืนยันว่า

 “เด็กมีแผลไหม้จากของเหลวร้อน และค่าการทำงานของไตผิดปกติ”

หลังเห็นสภาพลูกชายที่เต็มไปด้วยแผลพุพอง พ่อถึงกับร่ำไห้ และตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดีทันที พร้อมประกาศชัดเจนว่า

 “จะไม่ยอมความ และจะเดินหน้าคดีนี้ให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เด็กคนอื่นต้องตกเป็นเหยื่อเหมือนลูกของตน”

 

⚖️ พ่อเด็กแฉคลินิกอ้างมีเส้นสาย “ญาติเป็นอัยการ – รู้จัก สสจ.”

ในระหว่างการร้องเรียน พ่อของเด็กเล่าว่า ฝ่ายคลินิกพยายามต่อรองโดยอ้างว่า

“อย่าฟ้องเลย เพราะญาติของหมอเป็นอัยการ และรู้จักกับเจ้าหน้าที่ในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด”

แต่แทนที่จะทำให้พ่อยอมถอย กลับกลายเป็นเชื้อไฟให้เขาตัดสินใจแน่วแน่ยิ่งกว่าเดิมว่าจะต้องสู้จนถึงที่สุด

ด้านทนายความของครอบครัวเด็ก ระบุว่า การกระทำของหมอและผู้ช่วยในครั้งนี้อาจเข้าข่าย ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายสาหัส และหากพิสูจน์ได้ว่าเป็นการกระทำโดยประมาท อาจมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี

🏥 ฝ่ายคลินิกโต้ “ยอมรับว่าราดน้ำร้อนจริง” แต่ยืนยันเป็น “วิธีรักษา”

หลังข่าวเริ่มแพร่กระจายในโลกออนไลน์ ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังคลินิกดังกล่าว ซึ่งทางคลินิกยอมรับว่า

 “มีการราดน้ำร้อนจริง แต่เป็นการทำเพื่อกระตุ้นให้เด็กฟื้นตัว ไม่ได้มีเจตนาทำร้าย”

พร้อมทั้งกล่าวหาผู้ปกครองว่า “สร้างเรื่องเพื่อเรียกเงิน” และยืนยันว่า “ไม่กลัวถูกฟ้อง”

คำชี้แจงนี้ยิ่งทำให้สังคมโกรธแค้น เพราะวิธีดังกล่าว ไม่มีหลักการทางการแพทย์รองรับ และอาจถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อมาตรฐานการรักษาโดยสิ้นเชิง

 

📢 เพจดัง “ท่านเปา” โพสต์เตือนแรง! หมอป่วยทางจิต ปล่อยไว้คือภัยร้ายแรง

ต่อมาทางเพจชื่อดัง “ท่านเปา” ซึ่งมักติดตามคดีดังในสังคม ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า หมอคนที่ก่อเหตุ เป็นหมอจริง มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพถูกต้องตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม เพจระบุว่า หมอรายนี้ มีภาวะป่วยทางจิตมานานแล้ว แต่ไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม และยังคงทำงานรักษาคนไข้ตามปกติ ซึ่งถือเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่ง

เพจ “ท่านเปา” เขียนข้อความเตือนสังคมว่า

 “สิ่งที่น่ากลัวคือ คนไข้ที่เข้าไปรักษาไว้ใจในคำว่า ‘หมอ’ แต่กลับกลายเป็นผู้ที่ต้องเสี่ยงอันตรายเอง เพราะหมอไม่ได้มีสภาพจิตใจที่พร้อมจะทำหน้าที่นั้น”

โพสต์นี้ถูกแชร์ออกไปอย่างรวดเร็ว มีชาวเน็ตหลายหมื่นคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น ส่วนใหญ่เรียกร้องให้ ถอนใบประกอบวิชาชีพของหมอรายนี้อย่างถาวร และให้ตรวจสอบคลินิกอย่างเข้มงวด

 

💬 เสียงสะท้อนจากชาวเน็ต: “ไม่ใช่แค่ความผิดพลาด แต่คือความรุนแรง!”

โลกออนไลน์ลุกเป็นไฟทันทีหลังข่าวนี้ถูกเผยแพร่ หลายคนเขียนคอมเมนต์ด้วยความโกรธแค้น เช่น

“นี่มันไม่ใช่หมอแล้ว มันคือคนที่ควรถูกถอนใบอนุญาตและเข้ารับการบำบัด!”

“ใครจะกล้าไปหาหมออีก ถ้าหมอป่วยทางจิตแต่ยังรักษาคนได้แบบนี้?”

“ขอให้ พมจ. และ สสจ. ตรวจสอบให้ถึงที่สุด อย่าปล่อยผ่านเด็ดขาด”

นอกจากนี้ ยังมีผู้ปกครองจำนวนมากแชร์ประสบการณ์ใกล้เคียง พร้อมเตือนให้สังคมตื่นตัวเรื่อง “การตรวจสอบใบอนุญาตและประวัติของคลินิกเอกชน” ก่อนเข้ารับบริการ

 

📋 หน่วยงานรัฐเริ่มขยับ – เตรียมระงับการให้บริการชั่วคราว

ภายหลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง ล่าสุด สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี (พมจ.) ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากครอบครัวเด็กแล้ว พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง

ขณะเดียวกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี (สสจ.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบคลินิกดังกล่าวอย่างละเอียด และเรียกหมอผู้ก่อเหตุรวมถึงเจ้าของคลินิกมาสอบปากคำ

มีรายงานว่า สสจ.กำลังพิจารณาออกคำสั่ง “ระงับการให้บริการชั่วคราว” ของคลินิกดังกล่าว ระหว่างรอผลการสอบสวน

 

🧠 ปัญหาหมอป่วยทางจิต: ใครรับผิดชอบ?

กรณีนี้จุดประเด็นสำคัญขึ้นมาในสังคมไทยว่า “บุคลากรทางการแพทย์ที่มีปัญหาทางจิต” ควรถูกตรวจคัดกรองหรือประเมินสภาพจิตใจอย่างสม่ำเสมอหรือไม่

เพราะอาชีพแพทย์ต้องรับผิดชอบต่อชีวิตคน หากผู้รักษาไม่อยู่ในสภาพจิตใจที่มั่นคง ย่อมเกิดอันตรายกับผู้ป่วยได้ทุกเมื่อ

ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชออกมาให้ความเห็นว่า

 “การป่วยทางจิตไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่เป็นเรื่องที่ต้องได้รับการรักษาอย่างจริงจัง หมอเองก็เป็นมนุษย์ที่มีความเครียดสะสม หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจส่งผลต่อการตัดสินใจทางวิชาชีพได้”

กรณีนี้จึงไม่เพียงสะท้อนถึงความรับผิดชอบส่วนบุคคล แต่ยังชี้ให้เห็นถึง ช่องโหว่ในระบบควบคุมบุคลากรทางการแพทย์ของไทย ที่ยังขาดกลไกตรวจสอบและเยียวยาจิตใจของผู้ประกอบวิชาชีพอย่างเป็นระบบ

🧾 เส้นทางคดี: ตำรวจรับคำร้อง เตรียมแจ้งข้อหา

ด้านตำรวจในพื้นที่ อ.ศรีราชา ยืนยันว่า ได้รับคำร้องทุกข์จากบิดาของเด็กแล้ว และจะดำเนินการสอบสวนตามขั้นตอนกฎหมาย โดยเตรียมเรียกทั้งหมอ ผู้ช่วย และเจ้าของคลินิกมาสอบปากคำ

เบื้องต้นอาจตั้งข้อหาในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” และ มาตรา 300 หากเป็นการทำร้ายเด็กซึ่งไม่สามารถต่อสู้ป้องกันตัวได้

หากพบว่าการกระทำดังกล่าวเกิดจากความประมาทเลินเล่อร้ายแรง หรือเป็นผลจากอาการป่วยทางจิตจริง ตำรวจจะส่งตัวหมอเข้ารับการประเมินทางจิตเวชเพิ่มเติมเพื่อประกอบสำนวนคดี

 

🧩 คำถามที่สังคมรอคำตอบ

1. เหตุใดหมอที่มีภาวะป่วยทางจิตจึงยังได้รับอนุญาตให้เปิดคลินิกรักษาคนได้?

2. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบสุขภาพจิตของบุคลากรทางการแพทย์บ่อยแค่ไหน?

3. จะมีมาตรการเยียวยาครอบครัวผู้เสียหายอย่างไร?

4. และที่สำคัญ... จะทำอย่างไรให้เหตุการณ์เช่นนี้ “ไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก”

 

💔 เสียงจากพ่อ: “ลูกผมไม่ควรถูกทำแบบนี้”

พ่อของเด็กชายวัย 3 ขวบ กล่าวทั้งน้ำตาว่า

“ผมพาลูกไปเพราะเชื่อว่าเขาเป็นหมอ จะช่วยลูกผมได้ แต่เขากลับเอาน้ำร้อนราดลูกผมจนแผลไหม้หมด ผมไม่ต้องการเงิน ผมต้องการความยุติธรรม และไม่อยากให้ลูกคนอื่นต้องเจอแบบนี้อีก”

คำพูดของพ่อสะเทือนใจผู้คนทั่วโซเชียล หลายคนแสดงความเห็นให้กำลังใจ และขอให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด

 

🕯️ สรุป: คดีที่สังคมต้องจับตา

เหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่คดีความรุนแรงทั่วไป แต่คือ “สัญญาณอันตราย” ของระบบสาธารณสุขเอกชนที่ยังมีช่องโหว่ การปล่อยให้หมอที่ป่วยทางจิตแต่ยังถือใบอนุญาตรักษาคนได้ คือเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นอีกต่อไป

ทุกหน่วยงาน ทั้ง สภาแพทย์, สสจ., พมจ., และตำรวจ ต้องร่วมมือกันตรวจสอบข้อเท็จจริง และหามาตรการป้องกันอย่างเป็นรูปธรรม

เพราะ “ความไว้ใจ” คือสิ่งที่คนไข้มอบให้หมอโดยไม่สงสัย — และเมื่อความไว้ใจนั้นถูกทำลาย มันไม่ใช่เพียงแค่ความผิดพลาด แต่มันคือ “โศกนาฏกรรม” ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอีกเลย